พปชร. ตั้งไผ่ ลิกค์ กาวใจทีม ประวิตร-ประยุทธ์ แก้พรรคแตก

“วิรัช”  ก๊วน 4 ช. ชงประวิตร ตั้งไผ่ ลิกค์ ลูกน้องผู้กองธรรมนัส เป็นผู้ประสาน ส.ส. พปชร.-แบ่งทีมต้อนรับ ประยุทธ์ เสี่ยเฮ้ง ควันออกหู ซัดนักการเมืองโบราณ คิดแต่เรื่องการเมือง

วันที่ 23 กันยายน 2564 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand” ถึงกรณีการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ลงพื้นจังหวัดเพชรบุรี โดยมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไปต้อนรับ จำนวน 9 คน

ขณะที่การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐไปต้อนรับ จำนวน 55 คน จะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์น้อยใจหรือไม่ ว่า เมื่อวานพอ พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คบกันมา 50 ปีแล้ว รักกันตลอด คุยกันทุกวัน ไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นการวัดพลังอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นใครจะมาทำให้แตกแยกไม่มี

“ทีนี้ผมก็ต้องมาตอบว่า ทำไปทางโน้นไป 9 ทางนี้มา 55 ตรงนี้ หลังผมเสร็จจากงานที่อยุธยาแล้ว ทุกคนก็ถามว่า ไปทานข้าวกันที่ไหน ท่านเลขาฯพรรค (ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ) ก็บอกว่า ไปร้านโน้น ร้านนี้ ก็ตามกันมา ส่วนใหญ่ก็ตามกันมาเกือบหมด”

“ถามว่าเราเป็นห่วงไหม เป็นห่วงครับ เป็นห่วงกันทุกคน มานั่งแล้วก็มาวิเคราะห์ วิจารณ์กัน และเช็กข่าวทางเพชรบุรีว่า เพชรบุรีเป็นยังไง แล้วก็มาดูสาเหตุที่มันเกิด เพราะอะไร ทำไมไปทางโน้นน้อย ทางนี้มาก โดยสรุปง่าย ๆ อยู่ที่ผู้ประสานงานของท่านนายกฯ ที่ไปประสานงาน ผมไม่ระบุชื่อแล้วกัน ไม่รู้ประสานกันแบบไหน ให้ ส.ส.ไปเพชรบุรี แต่กลับมาอยุธยา ตรงนี้เป็นปัญหา”

“เพราะฉะนั้น ยังนั่งคุยกันเลย เลขาฯพรรคก็บอกว่า เราจะปล่อยเป็นอย่างนี้ไม่ได้หรอก ถ้าปล่อยเป็นอย่างนี้ก็จะกลายเป็นให้เขาวิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ ไม่ว่าจะเป็นทั้งนักข่าว และผมคิดว่า ข่าวตรงนี้ก็จะอยู่ในหน้าสื่ออีกหลายวัน”

“เพราะฉะนั้น วิธีการที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าท่านนายกฯจะไปที่ไหน ท่านหัวหน้าพรรคจะไปที่ไหน หรือแม้กระทั่งรัฐมนตรีของพรรคจะไปที่ไหน ก็น่าจะมอบให้รองเลขาฯพรรค คือ ส.ส.ไผ่ ลิกค์ (ส.ส.กำแพงเพชร) เป็นผู้ประสาน เพราะเป็นคนทำได้ดี คุยได้ทุกคน คุยได้ทุกอย่าง คุยแล้วรู้เรื่อง พูดแล้วก็มากัน ผมคิดว่า น่าจะให้เขาทำหน้าที่ตรงนี้”

“วันนี้ผมจะเสนอท่านหัวหน้าพรรค ว่า จะต้องมีผู้ประสานงาน ถ้าปล่อยให้ผู้ประสานงานที่ทำอยู่วันนี้ ก็จะเห็นอย่างนั้น คือ บางคนมีความรู้สึกว่า ไปบอกแล้วก็ไม่ไป เขาก็กลับมาอีกฝั่งหนึ่ง บางคนเขาอาจจะใช้ เรียกว่า ใช้อำนาจมากสูงเกินไป เขาก็เลยไม่ไปกัน เราต้องยอมรับว่า ส.ส.มีความเป็นอิสระสูงในการตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด เพราะฉะนั้นเขาจะไปตรงไหนก็ได้ที่เขาสบายใจ ก็เลยไป”

“คงต้องบอกกับ ส.ส.ไผ่ ว่า ต่อไปนี้ต้องมาช่วยกัน ถ้าไปพร้อมกันอีก ก็ต้องจัดให้ดูเสมอ ๆ ต้องคุยกัน ไม่ใช่ไม่คุย มีความรู้สึกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้เดี๋ยวสื่อมวลชนก็แหย่กันไป แหย่กันมา มันไม่มีอะไร แต่ก็สั่นคลอนเหมือนกัน”

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ถามตรง ๆ ผู้ประสานงานทางฝั่งของท่านนายกฯ ทุกคนก็รู้ ก็คือ เสี่ยเฮ้ง (สุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ และ รมว.แรงงาน) แสดงว่า เสี่ยเฮ้ง มือไม่ถึง ไม่มีศักยภาพ หรือขาดทักษะ ขาดศิลปะในการรวบรวมพี่ เพื่อน น้อง ไปกับคณะของท่านนายกฯ หรือทุกอย่าง นายวิรัชกล่าวว่า “มี ก ข ค ง ผมก็ตอบถูกทุกข้อแล้วกัน”

เมื่อถามต่อว่า ใจร้ายจริง ๆ นึกว่าจะตอบบางข้อ นี้ตอบทุกข้อเลยหรอฮะ นายวิรัชกล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดเอง คุณดนัย (ผู้ดำเนินรายการ) พูด ถ้าอย่างนั้นก็ถูกทุกข้อ”

ผู้ดำเนินรายการปฏิเสธว่า “ผมตั้งข้อสอบ แต่คนทำข้อสอบติ๊กทุกข้อ ต้องรับผิดชอบเอง อย่ามาโทษคนตั้งข้อสอบสิครับ” นายวิรัชกล่าวว่า คุณดนัยเป็นคนเขียนข้อสอบ ผมก็ ว่า ถูกทุกข้อ”

“เพราะฉะนั้น ตรงนั้นไงครับ พวกผมก็ไม่ใช่ไม่วิเคราะห์กันนะครับ ผมวิเคราะห์กัน แล้วก็วิจารณ์ ปกติใช้เวลากินข้าว ทานอาหารเย็นกันประมาณครึ่งชั่วโมง 40 นาที เมื่อวานนั่งกินกันเสร็จยังมานั่งคุยกัน สัมมนากันเรื่องนี้ ว่าจะไม่คุย แต่เมื่อโทร.ถามทางเพชรบุรี เขาบอกว่า ทางนี้เหงา เราก็รู้สึกแล้ว พอเห็นข่าวเริ่มออกเราก็เห็น ถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นอีก ไปวันเดียวกัน สถานที่อย่างนี้ เราก็ต้องจัด ต้องแบ่ง ต้องดู ผมก็จะเข้าไปดูใกล้ชิดให้เท่าเทียม”

ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ และรมว.แรงงาน กล่าวชี้แจงว่า เป็นความคิดของนักการเมืองโบราณ วันนี้นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปตรวจราชการแผ่นดิน ซึ่งตนไปในนามของผู้ปฏิบัติตามนโยบายเยียวยาผู้ประกันตน แรงงานในระบบและอาชีพอิสระ แม่ค้าพ่อค้าในตลาด มาตรา 40 ซึ่งได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ช่วยเหลือเยียวยาคนละ 5,000 บาท ซึ่งพื้นที่เพชรบุรีเป็น 1 ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้างวด (สีแดงเข้ม) จึงได้รับความช่วยเหลือเยียวยาแรงงานผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40

“ไม่จำเป็นต้องตามคนมาต้อนรับ เพราะไม่ได้ประโยชน์ และไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง ตนไม่ใช่ผู้ประสานงาน ซึ่งการประสานไม่ใช่เป็นเรื่องของการเรียกคนมาเพื่อการเมือง แต่คนที่มาเป็น ส.ส.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ถ้าท่านนายกฯไปลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี เอา ส.ส.โคราชมาได้ประโยชน์อะไร เอา ส.ส.กำแพงเพชรมาได้ประโยชน์อะไร ชาวบ้านก็จะมองว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่”

“การลงพื้นที่ไม่ใช่เป็นเรื่องการเมือง ท่านนายกฯลงพื้นที่เพื่อลงไปตรวจราชการ ต่างคนก็ต่างทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองด้วยกันหมด ท่านนายกฯไป ผมไป (ตลาดท่ายาง) ในฐานะเรื่องเงินเยียวยามาตรา 40 ขอบคุณท่านนายกฯ ถ้าเกิดเอา ส.ส.โคราช วิรัชมา วิรัชมีประโยชน์อะไร มีประโยชน์อะไรกับจังหวัดเพชรบุรี”

“ไม่อยากให้นักการเมืองโบราณคิดอย่างนี้ เปลี่ยนได้แล้ว การเมืองต้องคิดถึงประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่คิดถึงเรื่องการเมืองอย่างเดียว ไม่หมวดของการหาเสียง เป็นหมวดของการติดตามงาน ติดตามนโยบาย แล้วผมก็ไม่ได้โทร.หาใคร ถามคนที่ไปผมโทร.หาสักคนไหม เพชรบุรีที่ไปเพราะเป็น 1 ใน 29 จังหวัดที่ได้รับเงินเยียวยา ผมไปราชการ จะไม่ให้ผมไปได้ยังไง อย่าให้นักการเมืองโบราณคิดแต่เรื่องการเมือง ประเทศชาติจะเดินไปทางไหนถ้านักการเมืองคิดแต่เรื่องแบบนี้”

“ผมไปเพราะเป็นรัฐมนตรีแรงงานจึงต้องตามท่านนายกฯไปดูเรื่องเงินเยียวยา 29 จังหวัด นักการเมืองต้องคิดถึงประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ใช่คิดถึงเรื่องการเมือง ผมจะชวน ส.ส.โคราชมาเพชรบุรีทำไม ได้ประโยชน์อะไร”