นายหน้าค้า ส.ส. งูเห่าเพื่อไทย ข้อครหาใหม่ ต่อท่อ “พรรคบิ๊กฉิ่ง”

หลังที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 15/2564 ออกมาตรการคลายล็อก คลายบรรยากาศคุมเข้มโควิด-19 ให้กลับมาสู่ปกติ รับการเปิดเมือง

ไม่เพียงแต่ชาวบ้านได้ทำกิจกรรมในชีวิตได้มากขึ้น หากแต่พรรคการเมืองยังขยับแข้ง-ขยับขา เตรียมเรียกประชุม ส.ส. จัดอีเวนต์การเมือง ในช่วงการเมืองเข้าสู่หัวเลี้ยว-หัวต่อ โค้งสำคัญ เกมยุบสภาอาจเกิดขึ้นได้ไม่ถึงปี

กว่าจะไปถึงชอตเตรียมตัวเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยมีคิวสำคัญ เตรียมนัดหมาย ส.ส.พรรค 134 ชีวิต บวกกรรมการบริหารพรรค ช่วงกลางเดือนตุลาคม นัดโหวตชะตาชีวิตงูเห่า 7 ชีวิต คือ

1.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ 2.นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ 3.นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ 4.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี 5.น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี 6.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก 7.นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี

ที่แผลงฤทธิ์โหวตสวนมติพรรคฝ่ายค้าน ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ย้อนความไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมพรรคมีมติ ต่อ 7 ส.ส. แบ่งเป็น 4 แนวทาง

1.ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค 2 ราย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่มีพฤติการณ์พูดกล่าวร้ายให้พรรค พท. ทำให้พรรคเกิดความเสื่อมเสีย และนางสาวพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยร่วมประชุมและทำกิจกรรมพรรคเลย รวมถึงโหวตสวนมติพรรคอยู่ตลอด

2.ภาคทัณฑ์และใช้เป็นเงื่อนไขในการพิจารณาส่งลงสมัคร ส.ส.สมัยหน้า 3 คน นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี

3.ว่ากล่าวตักเตือน 1 คน คือ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี

และ 4.ยังไม่สามารถพิจารณาใด ๆ ได้ คือ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก เพราะระบุเหตุผลที่หายตัวตอนโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าเป็น โควิด-19 และไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงต่อทางพรรคได้

อย่างไรก็ตาม มติ “ขับออก” และภาคทัณฑ์-ไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ลูกพรรคเพื่อไทยมีการตั้งคำถามถึง “ความแฟร์” ที่ประชุมคณะกรรมการจริยธรรมของพรรค ที่เตรียมชงเรื่องให้ที่ประชุมใหญ่พรรคตัดสิน

เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงต้นปี 2563 คณะกรรมการวินัยและจริยธรรมพรรค ลงโทษสถานหนัก 3 ส.ส. สวนมติพรรค ขับ “พรพิมล” พ้นพรรค

“พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ” ส.ส.กรุงเทพฯ และ “ขจิตร ชัยนิคม” ส.ส.อุดรธานี เจอภาคทัณฑ์-ไม่ส่งลงเลือกตั้งครั้งหน้า

แต่ยังไม่ถึงขั้นใช้มติที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติลงโทษ เหมือนเช่นครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

อีกทั้งเกิดการตั้งคำถามว่า ส.ส.ที่เคยเป็น “งูเห่า” มาตลอด แต่มากลับใจในช่วงหลัง เช่น ไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ถูกลงโทษเด็ดขาด มีเพียง “พรพิมล” ที่ถูกยืนยันการลงโทษ กลายเป็นคลื่นใต้น้ำที่ ส.ส.พรรคตั้งคำถาม

อย่างไรก็ตาม ชะตากรรม ส.ส.งูเห่า เพื่อไทย แม้ถูกขับออกพ้นพรรค-ไม่ส่งลงเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ดูเหมือนจะมีที่อยู่ใหม่

ที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้ว ชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี ชิดชอบกับ สิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และยังเคยลงมติสวนมติพรรคมาแล้ว ในการพิจารณาญัตติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อเดือนกันยายน 2563 แต่อ้างว่าเป็นการกดผิด

“นายธีระ ไตรสรณกุล” ส.ส.ศรีสะเกษ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ ถูกจับมือไปผูกปิ่นโตกับพรรคภูมิใจไทย อย่างไม่เป็นทางการ

น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี งูเห่าขาประจำที่ผูกโยงกับเครือข่าย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และยังสนิทสนมกับ “ตรีนุช เทียนทอง” รมว.ศึกษาธิการ ตั้งแต่อยู่ชายคาเพื่อไทย หรือไปลงเอยที่พรรคภูมิใจไทย มีโอกาสได้ทั้ง 2 ทาง

“ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ” ส.ส.อุตรดิตถ์ ที่มีข่าวปล่อยว่า พรรคพลังประชารัฐเตรียมเปิดประตูต้อนรับ แต่ในพรรคเพื่อไทยอ้างต่อ ๆ กันว่า เขาคือ “ดีลเมกเกอร์” ให้กับพรรคการเมืองที่นักการเมืองเรียกชื่อเล่นว่า “พรรคบิ๊กฉิ่ง” ที่เป็นชื่่อเล่นของ ฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เกษียณอายุราชการ 30 กันยายนนี้ เป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญและเป็นพรรคสำรองของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่

คือสาเหตุที่พรรคเพื่อไทยต้องจัดการ “ขับออก” ทั้งที่เป็นงูเห่าครั้งแรก และออกมาตำหนิพรรคกลางสภา ก็ถูกขับออก ???