วัดกำลังทีมประยุทธ์ VS ทีมประวิตร พลังประชารัฐ-เศรษฐกิจไทย

วัดกำลังทีมประยุทธ์ VS ทีมประวิตร

ปฏิบัติการ “ขับตัวเอง” ของ 21 ส.ส.ก๊วนผู้กองธรรมนัส – ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรคพลังประชารัฐ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เพื่อต่อรองเก้าอี้ในรัฐบาล-คณะรัฐมนตรี (ครม.) กลายเป็น “มรสุมกลางฤดูหนาว” สะเทือนไปยังพรรคพลังประชารัฐ นับถอยหลัง “วันแตกดับ”

ท่ามกลางกระแสข่าว-อาฟเตอร์ช็อค พี่-น้อง 3 ป. “แตกคอ-แยกวง” โดยมีพรรคใหม่-พรรคเศรษฐกิจไทย เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของข้อสันนิฐานทางการเมืองดังกล่าว

หลังจากอีกไม่เกิน 30 วัน ร.อ.ธรรมนัส – 20 ส.ส.กบฏพลังประชารัฐ จะเข้าสังกัดพรรคใหม่-พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐจะลาออก ไปนั่งแท่นเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย โดยมี “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์เป็น เลขาธิการพรรค

คนสำคัญ คือ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตท. 9 – น้องแท้ ๆ ของบิ๊กป้อม จะมานั่งเป็นที่ปรึกษาพรรค

จึงเป็นการผ่องถ่าย-เคลื่อนกำลังพล ท่อทุน-จำนวน ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ ไปสู่พรรคเศรษฐกิจไทย

ย้อนกลับไป ตั้งแต่ “บิ๊กน้อย” เตรียมทหาร (ตท.) รุ่นที่ 11 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐก็ได้รับมอบหน้าที่สำคัญ-ติดสอยห้อยตาม “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่-ตรวจราชการต่างจังหวัดทุกครั้ง เป็นเงาตามตัว คู่กับ ร.อ.ธรรม และนฤมล-เหรัญญิกพรรค

รวมถึง “นายพลนอกราชการ – น้องรักบิ๊กป้อม” ที่ถูกดึงความมาช่วยงานใน “คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี” เป็นมือ-ไม้ทำงานมวลชน ทั้งบนดิน-ใต้ดิน

ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กณัฐ” พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ตท.รุ่นที่ 20 ประธานคณะทำงาน ติดตามและขับเคลื่อนนโยบาย แนวทางและมาตรการการบริหารจัดการที่ดิน และทรัพยากรดิน

“บิ๊กตู่เล็ก” พล.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม ตท.รุ่นที่ 20 หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 7 (พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“บิ๊กตุ๋ย” พล.ร.อ.พิเชษฐ ตานะเศรษฐ อดีตเสนาธิการทหารเรือ ตท.รุ่นที่ 18 ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาคในพื้นที่ภาคใต้

“พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ” อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพพบก หัวหน้าคณะทำงานกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 1

“บิ๊กแป๊ะ” พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ยอมถอนตัวลงสมัครชิงผู้ว่ากทม.

รวมถึง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประธานคณะกรรมการทำงานประสานและติดตามงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

“บิ๊กป้อม” จึงเป็นทั้งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ-รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ทรัพยากรในฐานะพรรคพลังประชารัฐ และรองนายกรัฐมนตรี ในการเจาะฐานเสียงของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน-ตีเมืองขึ้นพรรคร่วมรัฐบาล

ขณะเดียวกันยังเป็นลู่วิ่งสำหรับเปิดตัว-ประกาศชื่อให้กับโหวตเตอร์ เพื่อเป็น “แต้มต่อ” ให้กับ “พรรคบิ๊กป้อม” ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แม้กระทั่งเป็นการฟอร์มทีม “รัฐบาลใหม่” ที่จะสนับสนุนพล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี ?

ขณะที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต้องตั้งรับเกม “เกมรุก” ของ ร.อ.ธรรมนัส ต้องระดมกุนซือระดับมันสมอง “ทีมประยุทธ์” ที่มี “ทีมกุนซือ” ทั้งนักการเมืองอาชีพ – 3 เสนาธิการแห่งตึกไทยคู่ฟ้า + กับ 1 เสธ.- หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC)

รวมไปถึง “ทีมเศรษฐกิจ” ที่จะต้องใช้กู้คะแนนนิยมของรัฐบาลที่ตกต่ำ จากปัญหาค่าครองชีพสูง-สินค้าราคาแพงหูฉี่

ไล่ตั้งแต่ 3 เสธ.แห่งตึกไทยคู่ฟ้า 1.เสธ.มิตต์ พล.ท.นิมิตต์ สุวรรณรัฐ ตท.30 2.เสธ.นิว พล.ท.นิธิ จึงเจริญ ตท. 29 และ 3.เสธ.เก๋ พล.ต.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชยพงศ์ ตท.31

กับอีก 1 เสธ.-เสธ.นุ้ย พล.ต.ฐิตวัชร์ เสถียรทิพย์ ตท.29 หัวหน้าศูนย์ PMOC

ขณะที่ “ทีมเศรษฐกิจ” นำโดย “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกรัฐมนตรี-รมว.พลังงาน “ขุนคลัง” อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง “เสธ.อู” – เสนาธิการเศรษฐกิจ ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

นอกจากนี้ยังมีเข้ามา “เสริมทัพ” กับ “ทีมแบ็กอัพ” คือ “หม่อมปืน” ม.ล.ชโยทิต กฤษดากร หัวหน้าที่ทีมปฏิบัติการเชิงรุกดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี-ผู้แทนการค้าไทย

และทีมทำงาน “เบื้องหลัง” อย่าง “บิ๊กเล็ก” ณัฐพล นาคพาณิชย์ ตท.20 อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) – อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 (ศปก.ศบค.) ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ไม่แน่ว่า อาจจะถึงเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเสียที