ทักษิณขู่ ถ้าอุ๊งอิ๊ง เป็นแคนดิเดตนายกฯ ถูกปฏิวัติ ประชาชนจะยอมมั้ย

ทักษิณ โว มีเครื่องบินส่วนตัว บ้านหลายหลัง ไม่กลัวนักปฏิวัติ พร้อมปกป้อง “อุ๊งอิ๊ง” ถ้าหากเป็นแคนดิเดตนายกฯ  

วันที่ 29 มีนาคม 2565 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามในคลับเฮาส์ของกลุ่มแคร์  CARE Talk x CARE ClubHouse ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ รวมถึงที่มีการเตือนว่าจะซ้ำรอยโดนคดีเหมือนนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า น.ส.แพทองธาร ติดตามตนมาตั้งแต่เด็ก หัวใจประชาธิปไตย หัวใจอยากเห็นบ้านเมืองเจริญมีอยู่เต็มร้อย 

และวันนี้เขาพยายามเอาแนวทางเทคโนโลยี ความคิดของคนรุ่นใหม่มาเสริมให้พรรคเพื่อไทย แต่เขายังไม่ได้คิดว่าเป็นนักการเมือง 1.เขายังไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค 2.ยังไม่รู้เล่นการเมืองหรือเปล่า จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ใส่ความรู้ และประสบการณ์เท่าที่มี และจากการที่คุยกับตน จะใส่เข้าไปในหน้าที่ของเขา ในด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมอย่างเต็มที่

วันที่ 24 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทยจะประชุมใหญ่พรรค เขาจะพูดเรื่องงานที่ได้รับมอบหมายไปทั้ง 6 เดือนทำอะไรที่ไหน และจะแนะนำให้พรรคเพื่อไทยไปไหนอย่างไร ตามแนวของเด็กรุ่นใหม่ ที่คิดเรื่องเทคโนโลยีใหม่ นี่เป็นความปรารถนาดีเต็มร้อย

“แต่ถ้าสมมติว่าเขาเป็นแคนดิเดตนายกฯ จริง ประชาชนเกิดเลือกขึ้นมาเต็มที่แล้วและได้เป็นจริง ถามว่ากลัวจะมีชะตากรรมเหมือนผมและคุณปู (น.ส.ยิ่งลักษณ์) ไหม ผมว่าวันนี้ต้องถามประชาชน  16 ปีที่ผ่านมาช้ำพอหรือยัง ระบบพักไป เศรษฐกิจพังไป ครอบครัวพังไป เป็นหนี้เป็นสินมหาศาลจากการล้มลุกคลุกคลาน จากการปฏิวัติแล้วปฏิวัติอีก ถามว่าประชาชนเข็ดไหม  ถ้าไม่เข็ดไม่เป็นไร มีอีกทีไม่เป็นไร ผมมีบ้านหลายประเทศ ถ้าสมมติว่าประชาชนเข็ด นักปฏิวัติจะได้เข็ดเสียที เลิกได้แล้ว ถ้าประชาชนเข็ดลงมากระทืบทีเดียวก็จบหมด ไม่เห็นมีอะไรเลย” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้อยู่ที่ประชาชน ถ้าประชาชนพร้อมบอกว่า บ้านเมืองช้ำมาเยอะแล้ว เป็นหนี้ไม่รู้จะแก้อย่างไรแล้ว ลูกหลานจะติดยาเสพติด อนาคตก็ไม่มี บริหารแบบนี้บ้านเมืองไปไม่ได้  อย่าไปเชื่อพวกที่หน้าด้านออกมาเย้วๆ เพราะพวกนี้เกาะขั้วอำนาจหากิน เพราะอาชีพไม่มี แต่มีรายได้ดีกว่านักธุรกิจ 

“หลักการของผมแล้วแต่ลูก ถ้าลูกคิดว่าการที่ไปกับผม เห็นผมทำงาน อยู่กับชาวบ้าน ชาวบ้านยังจำได้อยู่ ถึงวันนี้ ลูกมีความรู้สึกว่าอยากสืบสานเจตนารมณ์ที่พ่ออยากจะช่วยชาวบ้านพ้นความยากจนจริงๆ อยากทำต่อก็เรื่องของลูก ผมเป็นพ่อที่รักลูก ให้ความอบอุ่นกับลูก และพร้อมจะปกป้อง เครื่องบินส่วนตัวก็มี บ้านก็มีหลายประเทศ สบายมาก ไม่เคยกลัว อย่ามาขู่” นายทักษิณ กล่าว 

นายทักษิณ ยังชมคนคิดคอนเซปเรื่องครอบครัวเพื่อไทย ถ้าครอบครัวไม่อิจฉาริษยาช่วยเหลือกัน ทุกอย่างมีความสุข ดังนั้น ครอบครัวเพื่อไทยก็คือครอบครัวที่ใหญ่มาก และเต็มไปด้วยรักกันมีอุดมการณ์เดียวกัน พร้อมให้อภัยซึ่งกันและกัน และพร้อมปรึกษาทั้งสุขและทุกข์ 

นี่คือหัวใจสำคัญของครอบครัว จึงชื่นชมคนคิดว่าเก่ง เพราะจะทำให้คนมีมากกว่า legal status หรือสถานะทางกฎหมาย แต่เป็นพันธะทางใจสำคัญกว่า โดยเฉพาะการเมืองถ้าเราจะร่วมกันเปลี่ยนแปลงอนาคตที่ดีขึ้น ทำให้ลูกหลานมีอนาคตอย่างเห็นได้ชัดขึ้น จะต้องมีเซนส์ของความเป็นครอบครัวเดียวกัน กล้าพูดความจริง และกล้าจะแชร์ความสุขและความทุกข์กัน และหลังจากนั้น คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหรือรับหน้าที่บริหาร ถ้ารู้ว่าทุกข์คืออะไรต้องรีบไปแก้ ถึงชอบว่าครอบครัวเพื่อไทยดีมากขอชมเชย

เมื่อมีผู้ถามว่า กลุ่ม 3 ป.ส่งคนไปคุยเรื่องทางการเมือง นายทักษิณ กล่าวว่า “นี่..สาบานได้ ลูกผู้ชาย ไม่มีใครมาคุยกับผมและผมไม่คุยกับใคร มีแต่คุยสถานการณ์การเมืองทั่วไปกับคนไทยที่มาเยี่ยม แต่ไม่เคยขอร้องใคร และไม่เคยมีใครเอาคำพูดใครมาเจรจากับผม ไม่มีจริงๆ 

เมื่อถามว่า พร้อมเปิดเจรจาหรือไม่ นายทักษิณ ตอบว่า “ผมยังไม่เข้าใจ ผมไม่มีสถานะอะไร มาเจรจาอะไรกับผม ถ้าเจรจากับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังมีโอกาสเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า เจรจากับผมไม่มีสถานะให้เจรจา” 

เมื่อถามแย้งว่า แต่นายทักษิณ เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของกลุ่มก้อนทางการเมืองและคนในพรรคเพื่อไทยให้ความนับถือ นายทักษิณ กล่าวว่า อันนั้นก็มี แต่ตนไป  over rule เขาไม่ได้ วันนี้เขาอยู่หน้างาน รู้สถานการณ์ดีกว่าตน ตนอยู่ไกลแล้วไปบอกเขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตนทำไม่ได้หรอก และนิสัยประชาธิปไตย เป็นคนที่ไม่เคยไปสั่งใคร ครอบงำใคร ไม่มี