อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปักธงเป็นรัฐบาลสมัยหน้า

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวงคืน 14 ล้านเสียง เป็นรัฐบาลสมัยหน้า

20 มีนาคม 2565 พรรคเพื่อไทย จัดอีเวนต์ใหญ่ครั้งที่ 2 โดยใช้ธีมว่า “ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ที่ จ.อุดรธานี

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเวทีกล่าวในหัวข้อ “ครอบครัวกับก้าวต่อไปของครอบครัวเพื่อไทย” กล่าวว่า น้ำตาจะไหลหลาย ๆ เหตุการณ์จำได้ ตนเป็นผู้เฝ้ามองเท่านั้น เพราะตอนพรรคไทยรักไทยก่อตั้งขึ้นตอนนั้นตนอายุเพียง 12 ขวบ ตอนนั้น ทักษิณ ชินวัตร โดนรัฐประหารตอนอายุ 20 ปี ตอนที่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมตรี โดนรัฐประหาร ตนก็อยู่ในวัยทำงานอายุ 28 ปี

แพทองธารกล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลเดียวที่เคยอยู่ครบวาระ วาระที่สองได้รับคะแนนเสียงถล่มทลาย ไม่ว่าจะทำเรื่องประสบความสำเร็จแค่ไหน เราเป็นพรรคการเมืองมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ให้พรรคปรับปรุงให้ทำให้ดีกว่าอดีตที่ผ่านมา จากประสบการณ์รัฐบาลไทยรักไทย พลังประชาชนถึงพรรคเพื่อไทย ทำให้ตนรู้สึกจริง ๆ ว่า พรรคเพื่อไทยต้องเปลี่ยนแปลง

เราต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เหมือนที่รัฐบาลครอบครัวเราเคยทำในอดีต เราต้องทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ดีเอ็นเอเดิมเก็บไว้แต่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และเราไม่ลืมรากหญ้าที่สนับสนุนเราตั้งแต่วันแรก

เราจะต้องอยู่อย่างแข็งแกร่งและอยู่รอดให้เป็นความหวังอันเดียวของพี่น้องประชาชน ภายใต้การเปลี่ยนแปลงจะกำหนด 2 เรื่อง 1.กำหนดสร้างการมีส่วนร่วมในการทำงานของคนในทุกเจเนอเรชั่น เพราะการทำงานทุกเจเนอเรชั่นมีความยาก เพราะมีความคิดและมุมมองแตกต่างกันออกไป เรายังเน้นปากท้องและ 2.เพิ่มมิติใหม่ทางอัตลักษณ์ และรักษาความเสมอภาคทางเพศ และลดรายจ่ายของประชาชน

“เราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป แต่เป็นเรื่องไม่ไกลตัว เมื่อถึงเวลาเราต้องพร้อม พรรคเพื่อไทยของเราต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เป็นแกนนำเพื่อที่นำนโยบายต่าง ๆ ให้ประเทศชาติเปลี่ยนแปลง ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ถ้านโยบายดีแค่ไหนจะไม่เปลี่ยนแปลงได้เลย นโยบายของเราจะเติมในกระเป๋าแบบมีเกียรติ ว่าเกิดเป็นคนไทยเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจ อำนาจรัฐคือทางออกของเรา เราต้องร่วมมือกัน การบรรลุเป้าหมายได้ต้องอาศัยการสนับสนุนทุกอย่างจากพี่น้อง” แพทองธารกล่าว

แพทองธารกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้สร้างกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยบ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม การสมัครครอบครัวเพื่อไทยสมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทุกคนร่วมสมัครกันได้เลย เพื่อบรรลุเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยเรามาร่วมเป็นครอบครัวพรรคเพื่อไทยกัน

แพทองธารระบุว่าเราต้องสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง ไทยรักไทย 14 ล้านเสียงจะเกิดขึ้นอีกครั้งกับพรรคเพื่อไทยในวันนี้ โดยการสมัครสามารถแอดไลน์ออฟฟิเชียลของพรรคเพื่อไทยได้ บ้านหลังใหญ่นี้จะต้อนรับหัวใจดวงเดิม เราจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว จะสู้ด้วยกันอย่างเข้มแข็ง เราจะไม่ทิ้งกัน” แพทองธารกล่าว

ก่อนหน้านั้น แกนนำพรรคได้กล่าวบนเวที อาทิ นายสุทิน คลังแสง  ส.ส.มหาสารคาม ประธานวิปฝ่ายค้าน ฉายภาพว่า 23 ปี แห่งความหลัง ที่มีทั้งรัก ทั้งชัง ทั้งหวาน ทั้งข่มขื่น 25 ปี ย้อนหลัง ปี 2540 ก่อนเกิดพรรคไทยรักไทย เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจล้ม ชาวบ้านสิ้นหวัง ตนในฐานะข้าราชการตัวเล็ก ๆ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม อยากได้ผู้นำที่รู้เรื่องเศรษฐกิจ พูดกับโลกได้ เหมือนคนไทยคนอื่นๆ

แต่มีผู้นำภาคธุรกิจที่ตัดสินใจมาลงรับสมัครเลือกตั้ง ได้รับฉายาว่าอัศวินคลื่นลูกที่สาม ชีวประวัติตาดูดาวเท้าติดดิน คือนายทักษิณ ชินวัตร ตนไม่รีรอเป็นผู้ช่วยอธิการบดี ลาออกมาเป็นผู้สมัครพรรคนี้พรรคแรก คิดใหม่ ทำใหม่ นำเสนอนโยบายแบบสั้นๆ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ พักหนี้ 3 ปี พักแล้วให้กู้ หมู่บ้านละล้าน เรากระตุ้นเศรษฐกิจ อัดเม็ดเงินลงไปกระตุ้นการผลิต โอท็อป SMEs พอถึงการเลือกตั้ง 248 ที่นั่งอันดับหนึ่ง ชนะพรรคเก่าที่เกิดก่อนเราไม่รู้กี่ทศวรรษ

ได้นายกรัฐมนตรีครั้งแรก คือนายทักษิณ ชินวัตร 4 ปีที่เป็นรัฐบาล ชาวบ้านลืมตาอ้าปาก ประเทศตั้งตัวได้ ชาวบ้านรู้สึกว่าประชาธิปไตยกินได้ ประเทศมีเงิน ชาวบ้านก็มีตังค์ ในที่สุดประเทศเราจากติดหนี้ต้องกู้ไอเอ็มเอฟ จนมีเงินใช้หนี้หมดก่อนกำหนด 2 ปี วันนั้นเรามีเงินคงคลังเยอะ เป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่มีรัฐบาลอยู่ครบ 4 ปี ในการเมืองไทย

ก้าวเข้าสู่สมัยสอง จาก 4 ปีซ่อม เป็น 4 ปีสร้าง ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย ได้ ส.ส. 377 ที่นั่ง ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เป็นครั้งแรก เราได้จัดงบประมาณสมดุล ปี’48-49 เป็นครั้งแรก ก้าวสู่ประเทศที่มีความเชื่อถือระดับโลก เป็นผู้นำเอเชียอย่างไม่อาย เป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย ก่อนจะเป็นหมาตัวที่ 1 ในวันนี้

ประเทศกำลังฉายแสง เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ถูกถอดปลั๊ก บ้านเราถูกทำลายล้าง นำมาสู่การเผาทำลายล้างครอบครัว ศาลออกมายุบพรรคไทยรักไทย คนเก่งๆ ของเรา 111 คนถูกสังหารโหด แต่ครอบครัวเราวันนั้นไม่ตาย สร้างบ้านหลังใหม่คือพรรคพลังประชาชน

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนที่ตนเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทย พวกเราไฟแรงกันมาก ในบ้านไทยรักไทยทุกอย่างเป็นจริงได้ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จนลืมการเมืองในอดีตที่แจกรองเท้า แจกปลาทู หิ้วกระเป๋าเงินลงไปพื้นที่ เปลี่ยนเป็น นโยบายที่ทำได้จริง

แต่ 19 กันยายน 2549 การรัฐประหารไม่ใช่ทำแค่บ้านแตก แต่ทำให้บุคลากรที่มีคุณภาพถูกตัดสิทธิ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศชะงักงัน ตอนทำประชามติรัฐธรรมนูญ บุคลากรไทยรักไทยที่ยังหลงเหลืออยู่ได้รณรงค์โหวตโนรัฐธรรมนูญ 2550 แม้ผ่านก็ผ่านแค่คาบเส้น ซึ่งภาคอีสานเป็นภาคที่โหวตโนมากที่สุด

ในบ้านหลังใหม่พรรคพลังประชาชน เราได้นายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค มี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเลขาธิการพรรค เราตั้งใจทำงานด้วยดีเอ็นเอเดิม

“ตอนที่ลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชน ยังไม่มั่นใจว่าพรรคจะได้รับชัยชนะ แต่หลังจากหาเสียงไปเรื่อยๆ จึงมั่นใจว่าประชาชนยังให้การสนับสนุนเรา สุดท้ายการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชน ชนะ 233 ที่นั่ง ขาดแค่ 18 ที่นั่งก็จะเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งที่ 3 ที่ชนะเลือกตั้งติดต่อกัน นโยบายดีๆ ของไทยรักไทย ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค โครงการ SML รถไฟฟ้า 15 บาทตลอดสาย ได้สานต่อ”

แต่หลังจากนั้นเกิดวิกฤตพลังงาน แต่พรรคพลังประชาชนก็ผ่านมาได้ ไม่ได้เกิดแค่ยุคนี้ ขึ้นอยู่กับใครมีฝีมือมากกว่ากัน เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบ มีการแตกพรรคครั้งใหญ่ ส่วนหนึ่งมีการแตกพรรคใหม่ แต่บางส่วนอยู่ต่อสู้ในบ้านหลังใหม่แต่นโยบาย และดีเอ็นเอเดิม คือ พรรคเพื่อไทย

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งภายใต้การนำของนายกฯ หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเลือกพรรคเพื่อไทยกว่า 265 ที่นั่ง เพราะชัยชนะในวันนั้นถือเป็นชัยชนะของประชาชน

นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท เด็กจบใหม่ได้เงินเท่ากันทั่วประเทศทันที กองทุน SML ประชาชนมีสิทธิได้คิด เสนอโครงการในสิ่งที่ประชาชนอยากได้จริงๆ ขณะนี้ประชาชนยังกล่าวถึงว่าเสียดายที่รัฐบาลชุดถัดมาไม่ได้รับการสานต่อ มีโครงการ tablet per child ถ้าได้รับการสานต่อวันนี้คงไม่มีปัญหา วันนั้นเรามีโครงการรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง จากเหนือจดใต้ เชื่อมโยงทุกเศรษฐกิจ มองเห็นโอกาสทุกมิติในการขนส่งแบบราง

มองกลับมา 22 พฤษภาคม 2557 รัฐประหาร ครั้งที่ 13 เกิดขึ้น คงไม่ต้องอธิบายว่าการบริหารงานของผู้นำปัจจุบันทำให้คน เจ็บช้ำ จนตรอก ไร้ซึ่งหนทางอย่างไรบ้าง วันนี้เด็กไร้ความฝัน ความหวัง ประเทศไทยสูญเสียโอกาสมามากพอแล้ว 23 ปี ที่พรรคไทยรัไทย เพื่อไทย พลังประชาชน แม้มีความพยายามรื้อถอนบ้านของเรากี่ครั้ง แต่เรายังจับมือกันไว้ การนำพาความหวังคืนกลับมาให้ประชาชนอีกครั้ง

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความหวังของประชาชนจะเกิดขึ้นไม่ได้ ความฝันของลูกหลานจะเกิดขึ้นไม่ได้ ญาติมิตร พี่ๆ น้องๆ ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม เราเองไม่มีโอกาสสร้างความหวัง สร้างอนาคตที่ดีให้กับลูกหลาน ให้กับประชาชน ไม่มีโอกาสทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง แม้ชนะเลือกตั้ง 137 เสียง เพราะรัฐธรรมนูญที่ปิดกั้นและทำลายเรา

เขียนรัฐธรรมนูญที่เอาเปรียบ กำจัดเพื่อไทยโดยเฉพาะ อ้างเหตุผลว่าคะแนนเพียงเพราะไม่ตกน้ำ เราได้เสียง 7 ล้านเสียง ตกทะเล ไม่มีบัญชีรายชื่อแม้แต่คนเดียว ปล้นอำนาจเราไม่พอ ยังสร้างวิกฤต สร้างความทุกข์ยาก จนจริง เจ็บจริง ตายจริง

ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม เราสืบสายเลือดมาจากไทยรักไทย พลังประชาชน ครอบครัวเพื่อไทยจะเป็นนวัตกรรมใหม่ภาคประชาชน ที่พรรคเพื่อไทยตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาการปิดกั้น โอกาสการมีส่วนร่วมจากประชาชน ที่มีหัวใจเดิมคือพรรคเพื่อไทย จะใช้กลไกนี้มาสร้างกลไกภาคพลเมืองมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ให้ชนะเลือกตั้งถล่มทลายแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

เราต้องสร้างพลังครอบครัวเพื่อไทย สร้างความรักครอบครัวเพื่อไทย สร้างโอกาสให้ครอบครัวเพื่อไทยที่จะไปขับเคลื่อน สร้างอนาคตให้กับบ้านเมือง สำคัญที่สุดคือผู้นำ ผู้นำครอบครัวเพื่อไทย จะต้องสามารถหลอมเอาหัวใจเดิมๆ สืบทอดพันธุกรรม มาสืบทอดความสำเร็จ โอกาสของพี่น้องประชาชนคือสิ่งที่เราต้องการทำ ไม่ใช่ผู้นำที่จะเป็นผู้นำของความเกรี้ยวกราด ไม่เห็นมนุษย์อยู่ในสายตา

เราต้องมีผู้นำที่เข้มแข็ง มีจิตใจเอื้ออาทรเห็นอกเห็นใจประชาชน โดยเฉพาะครอบครัวเพื่อไทย เรามีความจำเป็นที่จะมีสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย เป็นการเมืองภาคประชาชน การเมืองภาคประชาชนจะไม่เดินอย่างโดดเดี่ยว เราจะเคียงคู่สรรสร้างสิ่งที่ดีให้กับบ้านเมือง

เรามั่นใจนวัตกรรมการเมืองภาคพลเมือง 400 เขต ภายใน 2 เดือนนี้ 8 ล้านสมาชิก และครอบครัวจะใหญ่โตขึ้นในบ้านหลังใหม่ของพวกเรา มั่นใจจะได้ 15 ล้านถ้าเราช่วยกัน เพื่อไทยหัวใจเดิม เป้าหมายแลนด์สไลด์จะเป็นของเรา แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดผู้นำ เราได้สายเลือดแห่งพันธุกรรมของผู้มีความปรารถนาดีต่อบ้านเมือง

เราภาคภูมิใจที่จะประกาศว่า ผู้นำของครอบครัวเพื่อไทย คือ ประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมคือ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย