ครม.เฉือน งบกลางปี 65 วงเงิน 937 ล้านบาท ชำระหนี้ค่าซ่อมบำรุงอากาศยานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ บ.การบินไทย แลกบังคับคดีในชั้นศาล
วันที่ 12 เมษายน 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรอบวงเงิน 937 ล้านบาท
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้ค่าซ่อมบำรุงอากาศยานปีงบประมาณ 2563 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมอนุมัติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ภายในกรอบวงเงิน 937 ล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับจัดสรรงบประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในแผนงานยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ โครงการการบังคับใช้กฎหมายอำนวยความยุติธรรม และบริการประชาชน กิจกรรมการบังคับใช้กฎหมายและบริการประชาชน รายการค่าซ่อมบำรุงอากาศยานจำนวนเงิน 949 ล้านบา
แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบินตำรวจ ได้บริหารสัญญากับบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เกินกว่าวงเงินที่ได้รับจัดสรรจำนวนเงิน 937 ล้านบาท ซึ่งเป็นการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563
น.ส.ไตรศุลีกล่าวว่า ในเบื้องต้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบินตำรวจได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อชำระหนี้รายการค่าซ่อมบำรุงอากาศยานปีงบประมาณ 2563 จำนวนเงิน 975 ล้านบาท แต่ได้เจรจาต่อรองภาระหนี้ที่เกิดขึ้นจริงกับผู้บริหารแผนของบริษัทการบินไทยเรียบร้อยแล้ว
สรุปยอดเงินที่กองบินตำรวจได้ก่อหนี้ผูกพันไว้เกินกว่าวงเงินงบประมาณ 2563 เงินต้นรวมดอกเบี้ย ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2564 จำนวนเงิน 937 ล้านบาท โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องดำเนินการชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 เมษายน 2565 ตามผลการพิจารณาของคณะผู้บริหารแผนโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการเจ้าหนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ทางบริษัทการบินไทยระบุว่า หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติชำระหนี้ตามคำบังคับของศาลรวมจำนวนเงิน 937 ล้านบาท ให้แก่บริษัทจนครบถ้วน ภายในวันที่ 30 เมษายน 2565แล้ว บริษัทจะไม่ติดใจเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชำระหนี้ตามคำบังคับของศาลในส่วนที่เหลืออีกต่อไป