ปารีณาเปิดใจ เสียงเย้ยเป็นแรงกระตุ้น มุ่งเป็นกูรูการเมือง ประเดิมคอมเมนต์ปม “ปริญญ์”

ภาพจากรายการโหนกระแส

อดีต.ส.ส. “ปารีณา ไกรคุปต์” เปิดใจ โหนกระแส เผยจุดเปลี่ยนให้ฟื้นจากความชอกช้ำ มาจากเสียงจุดประทัดเยาะเย้ย ลั่นจะแรงกว่าเดิมล้านเท่า ยินดีรับบทบาทกูรูการเมือง จี้ตร.เร่งคดี “รองหัวหน้าพรรค” ล่วงละเมิดผู้หญิง

วันที่ 15 เมษายน 2565 นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เปิดใจในรายการโหนกระแส โดย หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ทางช่อง 3 หลังถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ห้ามเป็นส.ส. ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต

นางสาวปารีณา กล่าวว่า วันนี้ดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้เริ่มฟื้น สภาพจิตใจดีขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์ หลังจากวันที่ได้ยินคำพิพากษา ตอนนั้น ช็อกมาก ตัวชาและร้องไห้หนักมาก เรื่องที่น่าตกใจ ก็ต้องทำใจ และน้อมรับคำพิพากษาอยู่แล้ว

หนุ่ม กรรชัยถามว่า จากนี้จะไปทำอะไร เอ๋-ปารีณาตอบว่า “ไม่ทำค่ะ ก็จะเป็นประชาชนคนนึง ขอเป็นพลเมืองคนนึงที่จะทำหน้าที่แบบปารีณาต่อไป ทำอาชีพที่เอาไว้ทำมาหากิน ดำรงชีพ คงเป็นเกษตรกรเหมือนเดิม”

“ดิฉันทำอย่างอื่นไม่ค่อยเก่ง อยากขายของออนไลน์ อยากทำหลายอย่าง ดิฉันโทร.ไปหาเพื่อนเยอะ ไม่รู้จะทำอะไร บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เป็นการตายแล้วเกิดใหม่ ชาติที่แล้วดิฉันเป็นเหมือนนักการเมืองเป็นเกษตรกร ชาตินี้เกิดใหม่ในชีวิตใหม่ ๆ จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว” อดีตส.ส.คนดังระบุ

เมื่อถามว่า พรรคต้นสังกัดว่าอย่างไรบ้าง เอ๋ ปารีณากล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐอีกต่อไป

“หลังคำพิพากษาดิฉันถูกยกเลิกความเป็นสมาชิกโดยกฎหมายอัตโนมัติเลย ดิฉันไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐแล้วค่ะ”

เสียงประทัด: ปลุกชีพขึ้นมาใหม่

อย่างไรก็ตาม ต่อคำถามเรื่องที่ถูกเยาะเย้ย อย่างที่ราชบุรี มีการจุดประทัดไล่ อดีตส.ส.หญิงกล่าวว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่จะกลับมาแรงได้อีก จากทุรนทุรายร้องไห้ ต้องทำใจหนักมาก แต่เสียงประทัดเยาะเย้ยทำให้ฟื้นเร็ว

“จริง ๆ ต้องขอบคุณคนจุดประทัด ซึ่งเป็นคนขับรถของคู่แข่งดิฉัน พอเห็นคลิปนี้ มันเหมือนคนนอนอยู่ในโลงศพตายอยู่แล้วก็ตื่นขึ้นมา เป็นอะไรที่ปลุกใจตลอด ก็เป็นเสียงที่เยาะเย้ยเรา”

“ตอนแรกกะว่าจะอยู่เป็นพลเมืองเงียบ ๆ แต่พอมีการเยาะเย้ยเกิดขึ้นก็เปลี่ยนใจแล้ว ประกาศเลยว่าดิฉันจะกลับมาแรงกว่าเดิมล้านเท่า ตอนนี้ฟื้นแล้วค่ะเพราะเสียงประทัด”

รับบทใหม่ กูรูการเมือง

เมื่อหนุ่ม-กรรชัยเสนอว่า มีบทบาทให้เป็นกูรูเกี่ยวกับการเมืองดีหรือไม่ น.ส.ปารีณากล่าวว่า “ได้ค่ะ ได้หมดค่ะ ให้คุณหนุ่มบอกมา เดี๋ยวทำได้หมด แต่จะเป็นการวิเคราะห์ตามประสบการณ์ดิฉันค่ะ”

พิธีกรกล่าวต่อว่า ถ้าเช่นนั้นลองวิเคราะห์เรื่องราวที่เป็นประเด็นล่าสุด เรื่องรองหัวหน้าพรรคใหญ่ ถูกสตรีหลายคนกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่คุณปริญญ์ พาณิชภักดิ์แถลงว่า ตกใจมาก และไม่ได้เป็นแก

น.ส.ปารีณากล่าวว่า ขณะนี้สังคมกำลังจับจ้อง เพราะวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาคือรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือว่าเป็นฝ่ายรัฐบาลที่มีอำนาจ วันนี้คดีอาจจะช้า แต่มีผู้เข้ามาดำเนินคดีต่าง ๆ แล้ว

“สังคมเห็นภาพการล่วงละเมิดทางเพศ การขืนใจกัน เป็นรสนิยมทางการเพศที่สังคมยอมรับไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีจริยธรรม หรือมีมาตรฐานจริยธรรมในพรรคการเมือง ในรัฐสภา หรือหน่วยงาน หรือองค์กรใดก็ตามแต่ด้วย” น.ส.ปารีณากล่าว

หนุ่ม-กรรชัยถามว่า ถ้ามาเป็นกูรูทางการเมือง ภาพลักษณ์ คำว่าปารีณา อาจมีคนไม่ชื่นชอบ คิดว่าคนจะรับกับบทบาทนี้หรือไม่ เอ๋-ปารีณากล่าวว่า “ดิฉันไม่ได้มายด์ว่าใครจะคิดอะไรยังไงอยู่แล้ว ดิฉันแสดงความคิดเห็นในส่วนของดิฉันไป แต่อย่าลืมดิฉันไม่ได้เข้าข้างอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และคิดว่าคนในรัฐสภา ส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์จะไม่เข้าข้างผู้ที่กระทำความผิดหรือขัดต่อกฎหมายอย่างแน่นอน”

ฝากตำรวจทำงานตรงไปตรงมา

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ในฐานะเคยสู้เรื่องผู้หญิงมาเหมือนกัน เอ๋-ปารีณากล่าวว่า เรื่องนี้ในอดีตคุณพ่อที่เคยอยู่กับประชาธิปัตย์ก็มีเรื่องเล่าในพรรคเยอะที่สังคมก็รับทราบ บางทีพรรคการเมืองก็มีมาตรฐานจริยธรรม เรื่องของเพศด้วย เรื่องนี้ไม่ว่าใครทำผิดหรือถูกกล่าวหา ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผิดถูกไปว่ากันที่ศาล

“เรื่องใหญ่มาก ๆ เลยนะคะ เป็นเรื่องน่าอับอาย เป็นเรื่องที่สังคมยอมรับไม่ได้ และฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมากับคดีนี้ด้วย เพราะยังไม่แสดงชัดเท่าไหร่ว่าตรงหรือไม่ตรง แต่ที่แน่ ๆ ถ้ายังชักช้าหรือไม่ดำเนินการใด ๆ อย่างที่ทนายตั้มโพสต์เฟซบุ๊กไปแล้ว สังคมจะประณาม กระบวนการยุติธรรมถูกประณาม” เอ๋-ปารีณากล่าว

ภาพจากรายการโหนกระแส