ตำรวจยื่นขอศาลออกหมายจับรองหัวหน้าพรรค วันนี้ !

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ภาพจากมติชน
อัพเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 16 เมษายน 2565 เวลา 08.19 น.

ตำรวจเตรียมขอศาลออกหมายจับรองหัวหน้าพรรคใหญ่ คดีคุกคามทางเพศผู้หญิง วันนี้ (16 เม.ย.)  พร้อมประสาน ตม. เฝ้าระวังหลบหนีออกนอกประเทศ ผู้เสียหายรายล่าสุดให้ปากคำ

วันที่ 16 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พาผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่คุกคามทางเพศ เข้าแจ้งความที่ สน.ลุมพินี จำนวน 4 ราย

ล่าสุด วานนี้ (15 เม.ย.) มติชน รายงานว่า พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการครบถ้วน เพียงพอ ที่จะขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา ในความผิดฐานกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัลได้ภายในวันพรุ่งนี้ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของตำรวจ

นอกจากนี้ ยังได้สอบพยานเพิ่มเติมเป็นคนขับรถแท็กซี่ไปรับผู้เสียหายมาส่ง และวันนี้ได้ให้ผู้เสียหายยืนยันหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายในคดีลักษณะเดียวกันอีก 1 คดี ซึ่งเหตุเกิดปลายเดือน กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ให้เฝ้าระวังบุคคลที่ถูกกล่าวหาหลบหนีออกนอกประเทศแล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความในวันนี้ อายุ 18 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายรายที่ 4 ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา

ผู้เสียหายรายที่ 4 เผยพฤติกรรม

ผู้เสียหายรายที่ 4 ที่เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา เคยทำงานอยู่ในองค์กรนักศึกษาแห่งหนึ่ง มีโอกาสชวนผู้ถูกกล่าวหามาเป็นวิทยากรภายในงาน เมื่อช่วงเดือน สิงหาคม 2564 ขณะนั้นผู้เสียหายเป็นพิธีกรภายในงาน หลังจบงาน ผู้ถูกกล่าวหาแชทส่วนตัวมาผ่านทางแอพพลิเคชั่นซูม แล้วให้แอดไลน์มา ด้วยความเป็นเด็กจึงตัดสินใจแอดไลน์ไปเพื่อขอบคุณผู้ถูกกล่าวหาที่มาเป็นวิทยากร

จากนั้นผู้ถูกกล่าวหาได้ทักมาคุยกับผู้เสียหายเรื่อยมาแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป กระทั่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้ทักไปหาผู้ถูกกล่าวหาอีกครั้ง เพื่อเชิญให้มาเป็นวิทยากร จนงานได้จบลงไป แต่หลังจากนั้น ผู้ถูกกล่าวหาได้ติดต่อมาสอบถามเรื่องงานอยู่ตลอด รวมถึงโทรศัพท์มาหาเพื่อนัดไปรับประทานอาหาร ซึ่งผู้เสียหายก็คิดในแง่ดี ว่าเป็นการคุยกันเรื่องงาน และหนทางการทำงานในอนาคต จึงตัดสินใจไปทานอาหารในช่วงเวลา 17.00 น.

เมื่อผู้เสียหายไปถึงร้านอาหารที่อยู่บนโรงแรม เป็นร้านอาหารเดียวกับร้านของผู้เสียหายรายอื่น ผู้ถูกกล่าวหาได้บอกให้ขึ้นไปรอ และสั่งไวน์มาดื่ม แต่ผู้เสียหายไม่สบายใจ จึงสั่งน้ำมะเขือเทศ พร้อมส่งพิกัดให้เพื่อนมารออยู่ข้างโรงแรม เมื่อผู้ถูกกล่าวหามาถึง ก็ได้พูดคะยั้นคะยอให้ผู้เสียหายดื่มไวน์ กระทั่งบังคับให้ทาน และพูดคุยเรื่องการเรียน ก่อนจะสอบถามถามผู้เสียหายว่ามีแฟนหรือไม่ รวมถึงชวนคุยและถามแต่เรื่องเพศสัมพันธ์ อีกทั้งผู้ถูกกล่าวหายังพูดประโยคว่า “มีเซ็กส์ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันได้เลยหรือไม่”

โดยผู้ถูกกล่าวหาได้เข้ามาจับแขน จับหน้า จับมือผู้เสียหาย พร้อมอ้างว่าขอดูลายมือ และยังเดินวนมาที่เก้าอี้ ก่อนถามถึงน้ำหนักของผู้เสียหาย และอุ้มไปกลางร้านอาหาร ซึ่งขณะนั้นมีคนเยอะมาก รวมถึงโต๊ะที่นั่งอยู่ ก็ใกล้กับโต๊ะของพนักงาน

ขณะนั้นผู้เสียหายทำอะไรไม่ถูก และสงสัยว่า เหตุใดผู้ถูกกล่าวหาถึงกล้าทำ จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ และขอตัวกลับทันที แต่ผู้ถูกกล่าวหาได้เรียกเก็บเงินและได้เดินมารอที่หน้าห้องน้ำ ก่อนเข้ามาจับมือผู้เสียหาย โดยอ้างว่าจะเดินไปส่งข้างล่าง ผู้เสียหายจึงโทรหาเพื่อนและให้เพื่อนฟังเสียงไว้ จนกระทั่งผู้เสียหายขึ้นรถของเพื่อนออกมา

หลังจากนั้นผู้ถูกกล่าวหายังทักผู้เสียหายผ่านทางไลน์ และบอกว่า “very nice meeting you” รวมถึงพยายามจะนัดหมายอีกรอบ ผู้เสียหายจึงบล็อคไลน์ทันที โดยผู้เสียหายยอมรับว่า สาเหตุที่ออกมาตอนนี้ เพราะตอนแรกไม่กล้า ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย รวมถึงกลัวครอบครัวรู้ และอยากลืมเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด