สุชัชวีร์ ประชาธิปัตย์ชงไอเดียแก้น้ำท่วม กทม. สร้างแก้มลิงใต้สวนจตุจักร

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก

สุชัชวีร์ ผู้สมัครผู้ว่า กทม. ประชาธิปัตย์ ชงไอเดียแก้น้ำท่วม สร้างแก้มลิงใต้สวนจตุจักร

วันที่ 21 เมษายน 2565 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” ถึงวิธีจัดการน้ำในกรุงเทพมหานครในหัวข้อ “จตุจักรพักน้ำ”

พร้อมระบุว่า เวลาที่คุณมอง “สวนจตุจักร” คุณคิดถึงอะไร ส่วนใหญ่จะคิดถึงสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้ สระน้ำขนาดใหญ่ และการพักผ่อน

แต่สำหรับผม นอกจากมิติเรื่อง “สวนสาธารณะ” แล้ว ผมจินตนาการถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมื่อฝนตกใหญ่ในแถบพหลโยธิน หมอชิต ดินแดง และลาดพร้าว จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเรามี “แก้มลิง” ขนาดใหญ่อยู่ใต้บึงน้ำสวนจตุจักรเป็น “ศูนย์พักคอยน้ำ” เวลาฝนตกใหญ่ “ความสวยงาม” ยังคงเดิม แต่เราแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ด้วย

น้ำท่วม น้ำเน่า น้ำหนุนซ้ำซากมีทางแก้นะครับ แต่ต้องแก้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว แก้โดยใช้ตัวอย่างจากเมืองที่พัฒนาแล้วและทำสำเร็จมาแล้ว

การแก้ปัญหาระยะสั้นคือการสังคายนาระบบเปิดปิดประตูน้ำและเครื่องสูบน้ำเป็นระบบอัตโนมัติ ผ่านเครือข่าย WiFi ให้ทำงานสอดประสานกันทันทีเมื่อฝนตก ให้เหมือนกับเมืองอื่น ๆ ที่พัฒนาแล้วทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น แค่เปลี่ยนจากปัจจุบันที่ต้องไปตามคนมาเปิด เพราะไม่เคยทันการณ์และไม่เคยรอด

การปรับระบบสูบน้ำอัตโนมัติจะพอปะผุชีวิตคนกรุงเทพฯ ปัญหาน้ำท่วมดีขึ้นกว่าเดิมแน่ ๆ แต่ก็ยังแก้ได้ไม่เบ็ดเสร็จ

เหตุเพราะกรุงเทพฯ เป็นแอ่งกระทะคอนกรีตที่ต้อง “สูบน้ำจากที่ต่ำขึ้นที่สูง” คือจากซอยขึ้นถนน จากถนนขึ้นคลอง จากคลองขึ้นแม่น้ำเจ้าพระยา แก้ปัญหาสวนทางธรรมชาติ เมืองอื่นเขาก็เจอปัญหาเดียวกัน ทั้งโตเกียว สิงคโปร์ ฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ เจอฝนหนัก เครื่องสูบน้ำก็เอาไม่อยู่

เขาจึงใช้วิธีสร้าง “แก้มลิงใต้ดิน” หรือบ่อพักน้ำท่วมในพื้นที่ใจกลางเมือง เป็นบ่อคอนกรีตใต้ดิน เก็บน้ำท่วมรอระบายไว้ใต้ดิน ก่อนสูบขึ้นมาตอนฝนหยุด แบบนี้ชาวบ้านไม่เดือดร้อน น้ำแห้ง ไม่ท่วม นี่คือการแก้ปัญหาเบ็ดเสร็จครับ จุดสร้างแก้มลิงใต้ดินแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากแถวจตุจักร สุขุมวิท รามคำแหง ที่พื้นที่ต่ำ น้ำรอระบายไม่เคยระบาย

ยกตัวอย่าง กรณีฝนตกหนักในเขตจตุจักร แชมป์น้ำท่วม กทม. กี่ปี ๆ ก็ท่วมตั้งแต่ พหลฯ หมอชิต วิภาวดี ลาดพร้าว ดินแดง แม้จะมีฝนตกมาก แต่อย่าลืมว่าน้ำฝนได้ถูกกระจายสู่ระบบระบายน้ำตามธรรมชาติ ทั้งคลอง ท่อระบายน้ำ บึง ที่เก็บน้ำในชุมชน และระบบสูบน้ำของ กทม. ก็ช่วยระบายน้ำเช่นกัน แต่ไม่พอ
น้ำท่วมขังตรงนี้คือน้ำที่เหลือระบายไม่ทัน จึงสร้างความเดือดร้อนซ้ำซาก

ดังนั้นจุดนี้คือจุดที่ต้องสร้างแก้มลิงใต้ดิน พักน้ำส่วนเกินที่รอระบายไว้ใต้ดินก่อน น้ำก็ไม่ท่วม ประชาชนไม่เดือดร้อน

หากเราสร้างแก้มลิงใต้ดินขนาดยาว 100-200 เมตร กว้าง 50 เมตร ลึก 20 เมตร เก็บน้ำส่วนเกินที่ล้นระบบระบายน้ำ หรือที่เราเรียกว่าน้ำท่วมรอระบายได้มากถึงหนึ่งแสนถึงสองแสนลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปริมาณไม่น้อยเลยครับ

ตั้งใจสร้างใต้บึงสวนจตุจักร ไม่ต้องเวนคืน สร้างง่ายราคาไม่สูง วิศวกรไทยทำได้สบายมาก ราคาขึ้นอยู่กับขนาด หากขนาดยาว 100 เมตร กว้าง 50 เมตร และลึก 20 เมตร รับน้ำได้ถึง 100,000 ลบม. งบค่าโครงสร้างไม่ถึง 400 ล้านบาทครับ และข้อดีคือไม่ต้องเสียค่าเวนคืนที่ดิน ใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีใช้งานได้คุ้มค่าครับ

เพราะความสูญเสียจากน้ำท่วมซ้ำซากกรุงเทพฯ หากนับเป็นมูลค่าคงมากมายมหาศาล เพราะไม่ใช่แค่ความสูญเสียทางทรัพย์สิน แต่ยังต้องรวมความสูญเสียโอกาสและเรื่องเวลาของคนกรุงเทพฯ ปีละไม่ต่ำกว่าหลายพันล้านถึงหมื่นล้านแน่ ๆ

ดังนั้นการลงทุนกับแก้มลิงใต้ดินในพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากจึงคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ลดการสูญเสียได้ทันที ที่สำคัญเมืองอื่นเขาพิสูจน์แล้วว่าทำได้และคุ้มค่าครับ จึงมีเมืองใช้วิธีนี้มากขึ้นๆ

ไอเดีย “จตุจักรพักน้ำ” จึงน่าทำและทำได้ ผมได้เป็นผู้ว่าฯ ก็จะรีบทำทันที หรือถ้าผมไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ ก็ยินดีที่จะยกไอเดียนี้เป็นไอเดียสาธารณะ ใครนำไปทำก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องให้เครดิตผม แต่ประการใดครับ