พรรคสมคิดโชว์กึ๋น แก้วิกฤตน้ำมันแพง แฉโรงกลั่น 5 ปี กำไรมหาศาล

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

สนธิรัตน์ เลขาฯพรรคสร้างอนาคตไทย-อดีต รมว.พลังงาน ชี้เลิกอ้างอิงราคาน้ำมันดิบสิงคโปร์ชั่วคราว ลดต้นทุนแฝง สันติ แฉตัวเลขย้อนหลัง 5 ปี โรงกลั่นกำไรมหาศาล คาดผลประกอบการในไตรมาสแรกปี’65 พุ่ง 28 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสันติ กีระนันทน์ กรรมการบริหารพรรค และนายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงมาตรการการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และการเติบโตของเศรษฐกิจ ในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนในระดับสูงจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคสร้างอนาคตไทยมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ราคาน้ำ,yoแพง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในขณะนี้ ซึ่งตนในฐานะอดีต รมว.พลังงานมองว่ายังมีแนวทางที่สามารถบริหารต้นทุนราคาน้ำมันให้ถูกลงเพื่อลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนได้

“ผมเคยทำมาแล้วสมัยเป็น รมว.พลังงาน แนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีทั้งมาตรการแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนและการแก้ปัญหาเชิงรุกในระยะยาวให้ครอบคลุม สำหรับมาตรการระยะเร่งด่วนที่สามารถทำได้และต้องทำทันที คือ การลดราคาหน้าโรงกลั่น ลงโดยทบทวนการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ชั่วคราว ด้วยการหักค่า FIL ได้แก่ ค่าขนส่ง ประกันภัย และค่าความสูญเสีย ออกในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตเช่นนี้” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า มาตรการที่เสนอมานี้สามารถทำได้และต้องทำทันที ในช่วงที่ประชาชนลำบาก การงดการอ้างอิงชั่วคราวถือเป็นการลดต้นทุนแฝงในราคาน้ำมันได้ โดยรัฐต้องเป็นเจ้าภาพในการเข้าไปดูแลและหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่น เพื่อหาจุดตรงกลางที่สามารถเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขร่วมกันได้

“ที่สำคัญรัฐไม่ควรปล่อยให้ราคาน้ำมันดีเซลเกินเพดานที่สูงเกินไป เพราะจะทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ ขยับขึ้นตามค่าขนส่ง กระทบค่าครองชีพประชาชน ขณะเดียวกันก็ยังกระทบไปถึงต้นทุนและการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ เหมือนวิกฤตซ้ำวิกฤตอีกด้วย” นายสนธิรัตน์กล่าว

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ขณะที่การแก้ปัญหาเชิงรุกระยะยาวขอเสนอ 3 แนวทางสำคัญ คือ 1.การพิจารณาเพดานค่าการกลั่นให้มีความเป็นธรรมทั้งต่อประชาชนผู้บริโภคและผู้ประกอบการโรงกลั่น โดยพิจารณาในส่วนของค่าพรีเมี่ยมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งตรงนี้รัฐต้องเป็นเจ้าภาพเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน 2.การหาแหล่งพลังงานราคาถูกในต่างประเทศเพิ่มเติม และ 3.การสร้างยุทธศาสตร์พลังงาน

สันติ กีระนันทน์
สันติ กีระนันทน์

นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ระยะยาว 2 แนวทาง คือ 1.การวางแผนการสำรองน้ำมันในภาวะวิกฤต (Storage Petroleum Reserve) ซึ่งเป็นแผนที่ใช้รองรับช่วงที่เกิดวิกฤต โดยสามารถดำเนินการในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีราคาถูกลง เพื่อสำรองใช้เมื่อเกิดวิกฤต นอกเหนือจากการใช้เพียงกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในปัจจุบันเพียงอย่างเดียว

2.การหันมาใช้ภาษีคาร์บอน ที่สามารถนำมาปรับใช้ร่วมกับภาษีสรรพสามิต เพื่อนำเงินภาษีนี้มาใช้ส่งเสริมการลงทุนในพลังงานทางเลือก ซึ่งพรรคมีนโยบายการส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ทั่วประเทศ ซึ่งจะลดการพึ่งพิงพลังงานจากปิโตรเลียมลง

ด้านนายสันติกล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน มีกำไรที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเทียบตัวเลขย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีกำไรมหาศาล และคาดการณ์จากผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเห็น กลุ่มโรงกลั่นจะมีกำไรพุ่งขึ้นกว่า 28 เปอร์เซ็นต์ หากคิดเป็นผลประกอบการเต็มปี

“โรงกลั่นใหญ่ 3 โรง ซึ่งเป็นผู้นำตลาด ล้วนแล้วแต่มี ปตท. เป็นผู้ถือหุ้นแต่ละบริษัทไม่น้อยกว่า 45% ของหุ้นทั้งหมด และ ปตท.เองก็มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 51.11% และยังมีกองทุนรวมวายุภักษ์ถือหุ้นอีก 12.16% ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงกลั่น ก็คือรัฐนั่นเอง” นายสันติกล่าว

นายสันติกล่าวทิ้งท้ายว่า เชื่อว่ารัฐสามารถมีมาตรการเพื่อให้บริษัทเหล่านั้นเปลี่ยนจากการมุ่งทำกำไรระยะสั้นลง แต่หันไปมองผลกำไรระยะยาว ตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) แทน