เด็ดหัว..สอยนั่งร้าน ปะทะ ทีมปราบมาร ยุทธการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งสุดท้าย

ิอภิปรายไม่ไว้วางใจ เด็ดหัว สอยนั่งร้าน

ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค นำโดยพรรคเพื่อไทย ขอเวลา 5 วัน สำหรับการซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีอีก 10 คน

แต่ฝ่ายรัฐบาล ตีกรอบที่ “เหมาะสม” แค่ 3+1 วัน คือ ให้เวลาฝ่ายค้านซักฟอก 3 วัน และ 1 วันเป็นวันลงมติ กาปฏิทินไว้ที่ 18-20 กรกฎาคม และลงมติ 21 กรกฎาคม 2565

แต่ฝ่ายค้านยังยื้อ ขอเพิ่มมากกว่านั้น ยืนกระต่ายขาเดียว 5 วัน

ฝ่ายค้าน ตั้งชื่อเกมอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย ครั้งนี้ว่า “ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน”

1 หัว คือ พล.อ.ประยุทธ์

นั่งร้าน คือ 10 รัฐมนตรี ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน

“นพ.ชลน่าน” อธิบายความหมายชื่ออยุทธการนี้ว่า จะเป็นการอภิปรายรายบุคคล พุ่งเป้าไปที่หัว คือ “พล.อ.ประยุทธ์” จนถึงนั่งร้าน คือคณะรัฐมนตรี (ครม.)

การอภิปรายอยู่ภายใต้กรอบข้อกล่าวหาหลัก 6 ข้อ ได้แก่ 1.ความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน 2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และกระทำผิดต่อกฎหมาย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม 3.ทุจริต ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์ 4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา 5.ละเมิดสิทธิมนุษยชน 6.ทำลายระบอบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และทำหน้าที่คอยประสานงานกับผองเพื่อนฝ่ายค้าน อัพเดตสถานการณ์ตอนนี้ว่า

ตอนนี้มีผู้อภิปราย 15 คน แต่อาจจะมีเพิ่มเพราะมีพี่น้องประชาชนส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ทางไปรษณีย์อีก 3-4 ราย และต้องนำมาดูว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปอาจจะเพิ่มอีก 2-3 คน

“เรามีความมั่นใจว่าครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือนได้ เพราะเมื่อดูจากข้อมูลแล้วมีหลายเรื่องหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพุ่งตรงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นเรื่องที่สามารถยื่น ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดต่อได้ โดยหลังจากอภิปรายจบก็จะมีการยื่น ป.ป.ช.ต่อ”

ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล โต้กลับตั้ง “ทีมปราบมาร” คู่ขนานกับ “ทีมเจ้ายุทธ์” เพื่อตอบโต้ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ของฝ่ายค้าน

“นิโรธ สุนทรเลขา” ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐตั้ง “ทีมปราบมาร” เป็น ส.ส.ไว้รับมือการอภิปราย 11 คน

คือนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล นายภาคิน สมมิตรธนกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตร ส.ส.สระบุรี พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม.

“นิโรธ” กล่าวอีกครั้งเมื่อ 25 มิถุนายน 2565 ว่า “รัฐบาลมีความมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด จึงตั้งแค่ทีมปราบมาร เพื่อปราบคนพูดนอกลู่ทาง หากอภิปรายในกรอบของข้อบังคับ และกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากใช้คำหยาบคาย ก็ถือว่าเป็นพวกมาร ไม่ใช่ผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม เราได้ตั้งทีมเจ้ายุทธ์ อีก 2-3 คน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้”

เมื่อฝ่ายรัฐบาลตั้งทีม “ปราบมาร – เจ้ายุทธ์” ทันทีที่ “ประเสริฐ” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ยินชื่อทีมดังกล่าว ถึงกับบอกว่า “แหม่..ถึงกับตั้งชื่อปราบมารเลยหรือ…” ก่อนกล่าวต่อว่า “จริงๆ แล้วฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ ตามกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ส่วนรัฐบาลก็ต้องตั้งทีมองค์รักษ์มาพิทักษ์รัฐมนตรี เป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่มีเลยก็คงลำบาก”

“เป็นเกมธรรมดาการเมือง”

ยุทธการเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ปะทะ ทีมองค์รักษ์ “ปราบมาร” ใครจะอยู่ – ใครจะไปกรกฎาคมนี้รู้กันทั้งบาง