อภิปรายไม่ไว้วางใจ : สลับชื่อสุชาติ-สุพัฒนพงษ์ อัครเดช ขู่ มีข้อมูลเด็ด-ป้อนฝ่ายค้าน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์

อัครเดช ส.ส.ประชาธิปัตย์ เดือด ชง สลับชื่อ “สุพัฒนพงษ์-สุชาติ” ญัตติซักฟอก ขู่ มีข้อมูลเด็ด รมว.พลังงาน บริหารผิดพลาด ป้อนฝ่ายค้านเชือด

วันที่ 22 มิถุนายน 2565 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์พาดพิงว่าตนและพรรคประชาธิปัตย์ตีกินทางการเมืองและไม่มีมารยาททางการเมืองว่า ตนยึดถือผลประโยชน์และความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่ามารยาททางการเมือง

วันนี้หากพูดถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน จะเห็นว่ามีหลากหลายกลุ่มได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือด้านราคาพลังงาน เนื่องจากรัฐมนตรีบริหารงานผิดพลาดหลายเรื่อง เพราะประชาชนเดือดร้อนเป็นวงกว้างและเป็นที่ประจักษ์ ถึงความล้มเหลวในการบริหารงานด้านพลังงาน

ดังนั้นการที่จะมาคำนึงถึงมารยาททางการเมือง การที่เป็น ส.ส.ของรัฐบาลแล้วไม่กล้าพูดถึงความเดือดร้อนของประชาชน ตนคิดว่าเราไม่ได้ทำหน้าที่ผู้แทนที่ดี จึงขอฝากไปยังนายสายัณห์ว่า ในฐานะผู้แทนอยากให้ยึดประโยชน์ของประชาชนมากกว่ามารยาททางการเมืองและไปปกป้องรัฐมนตรีที่บริหารงานผิดพลาดล้มเหลว

“นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ เช่นเดียวกับนายสุพัฒนพงษ์ การที่ตนเสนอสลับรัฐมนตรี เพราะทราบว่า ญัตติของฝ่ายค้านมีปัญหาอยู่จึงเสนอให้เอาชื่อ รมว.พลังงานเข้าไปแทน รมว.แรงงาน ตนก็เสนอด้วยความสุจริตใจ เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า รมว.พลังงานบริหารงานทำให้ประชาชนเดือดร้อน ผิดกลับ รมว.แรงงานที่มีผลงานชัดเจนตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่มีการดูแลผู้ใช้แรงงาน”

นายอัครเดชกล่าวว่า ดังนั้นเรื่องการตีกินทางการเมืองนั้น จึงขอฝากนายสายัณห์ให้กลับไปพิจารณาใหม่ เพราะตนเสนอด้วยความบริสุทธิ์ใจ และที่สำคัญตนมีข้อมูลพร้อมว่ามีความผิดพลาดอะไร และพร้อมจะให้ข้อมูลนี้กับฝ่ายค้าน และตนไม่ได้เสนอให้นำชื่อของรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ออกแล้วเอารัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐแทนจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะส่วนตัวยินดีให้อภิปรายรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ หากบริหารงานผิดพลาดแล้วไม่สามารถชี้แจงได้ ตนเองไม่เคยปกป้องรัฐมนตรีของพรรคที่ทำงานผิดพลาด

ส่วนที่นายสายัณห์ระบุจะเพิ่มชื่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเสนอกับฝ่ายค้านได้เลย อย่างไรก็ตามฝากไปยังนายสายัณห์ว่า ขอให้คำนึงถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชน อย่าให้ประชาชนคิดว่าที่ประชาชนพูดถึงความเดือดร้อนทุกวันเหมือนเป็นการสีซอให้ฟัง

“ผมในฐานะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยินดีถ้ารัฐมนตรีของพรรคบริหารงานล้มเหลวและผิดพลาด และรัฐมนตรีไม่สามารถชี้แจงได้ ผมเองในฐานะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดจะปกป้องรัฐมนตรีที่บริหารงานผิดพลาด แต่ผมมั่นใจว่ารัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์สามารถชี้แจงได้ และมีผลงานชัดเจน ก็เรียนกับคุณสายัณห์ว่าถ้าจะเสนอเสนอได้เลย เพราะผมเองเสนอให้ฝ่ายค้านอภิปรายนั้นมีข้อมูลอยู่ในมือ และคิดว่าหากประชาชนและ ส.ส.รัฐบาลฟังก็สามารถน็อกรัฐมนตรีพลังงานกลางสภาได้”

นายอัครเดชกล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะทบทวนหรือไม่ทบทวนก็เคารพความเห็นของผู้นำฝ่ายค้านและสมาชิกสภาผู้แทนฝ่ายค้าน จะเพิ่มหรือจะดึงออก ก็เป็นสิทธิของฝ่ายค้านตนเคารพ แต่ตนก็มีสิทธิเสนอ เพราะประชาชนเดือดร้อนและพร้อมจะให้ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการอภิปรายเพื่อซักฟอกรัฐมนตรีพลังงาน แต่ก็เสียดายที่ไม่มีชื่อรัฐมนตรีพลังงาน และเรียกร้องไปยังนายสุพัฒนพงษ์ให้มาตอบกระทู้ถามในวันพรุ่งนี้เรื่องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับพลังงาน หลังได้ยื่นกระทู้ถามไป แต่นายสุพัฒนพงษ์ขอเลื่อนทั้งที่เป็นหน้าที่สำคัญของรัฐมนตรีที่ต้องรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ในคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน สภาผู้แทนราษฎร แถลงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ปลดนายสุพัฒนพงษ์ออกจากตำแหน่ง

เนื่องจากละเลยต่อการแก้ปัญหาค่าน้ำมันที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้นอีก ทั้งไม่เข้าร่วมการชี้แจงต่ออนุกรรมาธิการ ซึ่งติดตามการแก้ไขปัญหาบรรเทาผลกระทบต่อราคาพลังงานกับประชาชน และให้นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ดำรงตำแหน่ง รมว.พลังงานแทน

โดยนายอัครเดชกล่าวว่า อนุกรรมาธิการได้เชิญนายสุพัฒนพงษ์ให้มาชี้แจงหลายครั้ง ซึ่งตนได้ทำหนังสือแจ้งและเชิญ แต่ถูกปฏิเสธมาชี้แจงด้วยตนเอง และส่งให้หน่วยงานเข้าชี้แจงแทน ขณะเดียวกันทางอนุกรรมาธิการได้ขอให้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับราคาการกลั่นมาให้พิจารณา แต่ไม่ดำเนินการ แม้จะทวงถามไปแล้ว 2 ครั้ง สำหรับปัญหาราคาน้ำมันแพง ซึ่งอนุกรรมาธิการได้ศึกษาและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง พบว่าด้วยนโยบายและกลไกของรัฐสามารถแก้ไข และทำให้ราคาลดลงได้ แต่ไม่ทำ

นายอัครเดชกล่าวว่า ตนให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาพิจารณาว่าหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ละเลยไม่ใส่ใจการแก้ปัญหา จะดำเนินการยื่นเอาผิดฐานกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึงจะฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบผู้บริหารของ ปตท. ฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ

“ตนยังให้โอกาสอีก 1 ครั้ง หากไม่สามารถติดตามข้อมูลราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นได้ หรือรัฐมนตรีไม่สั่งการหรือ ปตท.ไม่ดำเนินการ ตนจะเสนอคณะกรรมาธิการชุดใหญ่ เพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ”