อภิปรายไม่ไว้วางใจ ครม.ประยุทธ์ ลุ้นเอฟเฟ็กต์เขี่ยรัฐมนตรีโลกลืม

ครม.

การอภิปรายไม่ไว้ใจกำลังจะระเบิดศึกขึ้นครั้งสุดท้ายในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ คอการเมืองแทงหวยล่วงหน้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับพวก 10 รัฐมนตรีจะรอดคมฝีปาก-กระสุนน้ำลายพรรคฝ่ายค้านไม่ยาก

ทว่าแม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จะชนะศึกซักฟอก แต่อาจจะไม่ได้ชนะสงคราม

เพราะเอฟเฟ็กต์เสร็จศึกซักฟอก-หลังเดือนกรกฎาคม รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ต้องเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีมลทิน-มือไม่ถึง เพื่อฝ่ามรสุมเศรษฐกิจ ผลพวงจากแผลเป็นจากโควิด-สงครามรัสเซียกับยูเครน

รายแรกที่สถานะบนเก้าอี้รัฐบาลลูกผีลูกคน คือ ครูโอ๊ะ-กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ค่ายพรรคภูมิใจไทย หลังจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 อัยการสูงสุดมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ประกอบมาตรา 86

และยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2-อยู่ระหว่างรอศาลประทับรับฟ้อง

หลังจากถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 9 มิถุนายน 2565 กรณีการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวรโดยมิชอบ

กนกวรรณ สกุลเดิม “ศรีจันทร์งาม” ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ในฐานะ “ผู้นำเดินสำรวจ” ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม-ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อตําแหน่ง

รายที่สอง นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ จำนวน 2 คัน เป็นเงิน 50.85 ล้านบาท ให้แก่บริษัทคู่สัญญา

ล่าสุด 9 มิถุนายน 2565 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ อบจ.สงขลา ชำระเงิน 52,062,041 บาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน นับถัดจากวันฟ้องจนถึงวันที่ 10 เม.ย. 64 และดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 64 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมือ “ผู้ฟ้องเอง” ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ หากศาลประทับรับฟ้องอาจต้อง “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ไปอีกคนหรือไม่

เนื่องจากเป็นการฟ้องนายนิพนธ์ ขณะกระทำความผิดในตำแหน่ง “นายก อบจ.สงขลา”

“นิพนธ์” ยังเป็น 1 ในรัฐมนตรีที่ถูกพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในข้อกล่าวหา ไร้ความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน มีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ปล่อยปละละเลย รู้เห็น สนับสนุนให้มีการทุจริตและแสวงหาผลประโยชน์ภายในหน่วยงานในกำกับดูแล

ไม่ดำเนินการตรวจสอบ ระงับ ยับยั้งและป้องกันการทุจริตจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง

นอกจากนี้ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีไขมันส่วนเกิน ที่เป็นรัฐมนตรีโลกลืม-อยู่นาน แต่ไม่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์

เป็นตัวจำกัดขีดความสามารถทางการแข่งขันทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ และฉุดรั้งกระแสความนิยมให้กับพรรครัฐบาล

โดยเฉพาะรัฐมนตรีโควตาบ้านใหญ่-รัฐมนตรีนายทุนของพรรครัฐบาล-พรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม

พรรคภูมิใจไทย อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม

พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมช.เกษตรและสหกรณ์ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ

พรรคชาติไทยพัฒนา อาทิ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

รวมถึงรัฐมนตรีที่ถูกจองกฐิน ขึ้นเขียงศึกซักฟอก ที่ไม่สามารถชี้แจงในสภา-นอกสภาได้ ที่สำคัญคือ อาจจำนนด้วยหลักฐาน-ใบเสร็จ

อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

นับรวมถึงรัฐมนตรีโควตากลางที่มือไม่ถึง เพื่อเปิดทางให้บุคคลที่มีความรู้-ความสามารถ เข้ามาบริหาร
ประเทศที่ตกที่นั่งลำบาก-วิกฤตซ้อนวิกฤต


แม้กระทั่งพี่-น้อง 3 ป. พี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพี่รอง-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไม่ให้ตายตกไปตามกัน