เปิดสเป็ก NEW MG ES (EV) สเตชั่นแวกอน สุดหรู

เอ็มจี ส่งรถยนต์ไฟฟ้า NEW MG ES ใหม่แทนที่ MG EP ปรับโฉมครั้งใหญ่เปลี่ยนชื่อใหม่ ปรับลุกเพิ่มความหรูหรา วิ่งไกล 412 กิโลเมตร

วันที่ 13 มีนาคม 2566 ค่ายรถยนต์เอ็มจีเปิดสเปกรถยนต์สเตชั่นแวกอนอีวีรุ่นใหม่ NEW MG ES ที่นำเข้ามาทำตลาดแทนที่รถยนต์ รุ่น EP เพื่อเพิ่มความสดใหม่ให้กับลูกค้าในประเทศไทยพร้อมปรับลุก เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือ EP Major Change

พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อรุ่นมาเป็น NEW MG ES สเตชั่นแวกอนไฟฟ้ามาพร้อมแนวคิด“COMFORTABLE เป็นทุกอย่างเพื่อทุกโมเมนต์” เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ

MG ESภายใต้การออกแบบ BRIT DYNAMIC เน้นที่เรียบหรูแต่ดูล้ำสมัยและพื้นที่กว้างขวางเหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบ NEW MG ES ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย แบบLED ได้รับการออกแบบใหม่แบบ Light Curtain Design เน้นความโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว มาระบบควบคุมการเปิดปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน

MG ES

ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว,กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว,ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง,ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้ายมีชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม

MG ES

ส่วนภายในห้องโดยสาเน้นความพรีเมียมที่ใช้งานได้จริงเรียบหรู กว้าง พร้อมพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร คอนโซลแบบ DOUBLE LAYER โทนสีดำ  มีเส้นสายตัดการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP มีช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว

เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทางส่วนเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับวางโทรศัพท์,หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด10.25 นิ้ว,ลำโพง 6 จุด

MG ESรองรับระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ ช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C รองรับApple CarPlay และAndroid เพิ่มระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART เข้ามา ส่วนกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ,ระบบปรับอากาศแบบดิจิตัล มีกรองอากาศ PM 2.5 และระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start

NEW MS ES ใช้ E- PERFORMANCE ที่เอ็มจีได้เพิ่มสมรรถนะให้กับรถคันนี้ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ  8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (PMSM) ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร
ช่วงล่างแบบ
EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวที่ดี ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็ก กันโครง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม

MG ESส่วนแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)มาพร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่

มีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย รถคันนี้มีรัศมีวงเลี้ยว 5.65 เมตร

รถคันนี้ ES มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบ ความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ เรียกว่าครบครันกว่า เจ้า MG EP เวอร์ชั่นก่อน

NEW MG ES รองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบโดย

ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด87 kWh

ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาทีที่ 6.6 kWh รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh

และยังสามรถรองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์ได้ด้วย

MG ES