“ศุภาลัย” ปลื้มปี’60 พรีเซลทะลุทะลวง 3 หมื่นล้าน ปีนี้ขอโต 30% 3.3 หมื่นล้าน เปิดใหม่ 35 โครงการร่วม 4 หมื่นล้าน พร้อมผุดมิกซ์ยูสที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย

ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)​ เปิดเผยว่า แนวโน้มภาคอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 สามารถเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ในส่วนของศุภาลัย ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการแล้ว 140 โครงการทั้งในและต่างประเทศ เฉลี่ยมีการส่งมอบบ้านปีละ 10,000 ยูนิต นโยบายเป็นองค์กรที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อัตราเติบโตปีละ 15-20% ผ่านกลยุทธ์ต่อไปนี้

1.กระจายพอร์ตลงทุนที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโดมิเนียม ทำเลใจกลางเมือง กรุงเทพฯและปริมณฑล กับโครงการแนวราบ ทำเลชานเมืองกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดหัวเมืองหลัก

2.รายได้รีเคอริ่ง หรือรายได้ประจำ มีการกระจายพอร์ตอสังหาฯ ให้เช่าเพิ่มมากขึ้น ดังเช่น ออฟฟิศบิลดิ้ง ศุภาลัย แกรนด์​พระราม 3 มีรายได้น้ำซึมบ่อทรายปีละ 100 กว่าล้าน ค่าเช่าสามารถปรับขึ้นได้ตามเงินเฟ้อปีละ 3-4% นโยบายต้องการลงทุนเพิ่ม โดยเฉพาะที่ดินที่ชนะประมูลซื้อมาจากสถานทูตออสเตรเลีย บนถนนสาทร

3.เจ้าตลาดต่างจังหวัด ศุภาลัยเป็นบริษัทที่มีการพัฒนาใน 20 จังหวัด บางแห่งซื้อที่ดินรอพัฒนา เช่น ประจวบคีรีขันธ์ อยุธยา ลำพูน สัดส่วนรายได้จาก 20% เพิ่มเป็น 30% เมื่อล่าสุด

4.ตลาดต่างประเทศ มีสองแนวทาง เริ่มจากการขายคอนโดฯ ในเมืองไทยให้กับลูกค้าต่างชาติ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ยูโรเปี้ยน อเมริกัน. ฯลฯ ขณะเดียวกัน ตลาดในเมืองไทยถือว่าแคบ กฎหมายไทยเปิดให้ต่างชาติซื้อคอนโดฯ ได้ 49% ของโครงการ โดยมีจุดขายราคาถูกกว่าหลายสิบเปอร์เซนต์ เปรียบเทียบการซื้อขายคอนโดฯ ในเมืองจีน เป็นแบบสิทธิการเช่า 70 ปี

แนวทางที่สอง ลงทุนพัฒนาโครงการในต่างประเทศ โดยมีพอร์ตอสังหาฯ ในออสเตรเลีย 6 โครงการ มองลู่ทางลงทุนตลอดเวลา บางประเทศศึกษาตลาดสิบปีมาแล้ว พื้นที่หลักอยู่ในอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ฟิลิปปินส์

ในด้านการพัฒนาองค์กร พันธกิจองค์กรมีเป้าหมายให้ศุภาลัยเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) ส่งเสริมสนับสนุนให้พนักงานเรียนในหลักสูตรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ, ส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในสายงานตัวเอง (Career Development), ส่งเสริมนวัตกรรมทั้งระดับเล็กและใหญ่ มีการประกวดนวัตกรรมภายในบริษัท ผลงานได้รับรางวัลมากมาย โดยอินโนเวชันของบริษัทต้องทำให้ดีกว่าเดิม มีการคิดริเริ่มใหม่ๆ ทุกเดือน

สุดท้ายมีแผนธุรกิจนำไปสู่ความสำเร็จ (Successtion Plan) ระบบภายในปัจจุบัน ระดับผู้จัดการฝ่าย ผู้อำนวยการฝ่าย รองและผู้ช่วยแต่ละสายงานสามารถทำงานแทนได้ เพราะมีแผนสืบทอดทุกมิติทุกระดับ สามารถโยกย้ายข้ามสายงานหรือข้ามแอเรียได้

ดร.ประทีปกล่าวว่า บริษัทยังเน้นเรื่องธรรมาภิบาล (Governance) นำส่งภาษีปีละหลายพันล้านบาท, คำนึงและเอาใจใส่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน (Stakeholder), การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการศุภาลัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลประกอบการปี 2560 ตั้งเป้ายอดพรีเซล 27,000 ล้านบาท ทำได้จริง 30,777 ล้านบาท เติบโตเกินเป้า 14% มาจากยอดพรีเซลคอนโดฯ 15,440 ล้านบาท แนวราบ 15,337 ล้านบาท โดยเปิดตัวรวม 20 โครงการ เป็นแนวราบ 15 โครงการ คอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่ารวม 31,220 ล้านบาท

แผนลงทุนปี 2561 ตีมดำเนินธุรกิจ Sustainable Growth 2018 วางแผนเปิดตัวใหม่ 35 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 5 โครงการเท่าเดิม แนวราบ 30 โครงการ ตั้งเป้ายอดพรีเซล 33,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารับรู้รายได้ 26,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปีที่แล้วเดิมตั้งเป้าเปิดตัวใหม่ 27 โครงการ เปิดจริง 20 โครงการและเลื่อนมาเปิดตัวปีนี้ แผนลงทุนปีนี้เตรียมเปิดตัว 35 โครงการ ตลาดต่างจังหวัดทำแล้ว 11 จังหวัด เตรียมบุกลงทุนจังหวัดที่ 12 ที่เชียงราย เป้าหมายต้องการเพิ่มจำนวนโครงการและเพิ่มจังหวัด จากสัดส่วนรายได้ 24% ต้องการเพิ่มเป็น 30% ในปีนี้

“ปี 60 มีการเปลีย่นแปลงของอินฟราสตรัคเจอร์ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายใหม่ทั้งที่เปิดบริการแล้วและเส้นทางอยู่ระหว่างก่อสร้าง เป็นปัจจัยขับเคลื่อนอสังหาฯ ตัวหลักๆ ยังมีทางด่วนศรีรัชที่เสร็จสมบูรณ์เชื่อมการเติบโตโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก, ในด้านผังเมืองยังมีสุญญากาศหลายพื้นที่ อาทิ นนทบุรี ที่เตรียมประกาศบังคับใช้ซึ่งมีปัจจัยทั้งบวกและลบ ในขณะที่ลูกค้าต่างชาติสนใจซื้อห้องชุดมากขึ้น เป็นดีมานด์ใหม่ที่เข้ามา, ด้านราคาที่ดินยังปรับเพิ่มขึ้นตลอดเวลา มีผลต่อราคาห้องชุดที่คาดว่าราคาต่อตารางเมตรปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

นายไตรเตชะกล่าวว่า อัตราเติบโตปีละ 10-15% การพัฒนาโครงการเป็นธุรกิจเรียลเอสเตทที่ไม่มีอะไรเรียลกว่านี้แล้ว มี 3 บริษัทที่เติบโตยั่งยืนและเสมอต้นเสมอปลาย คือศุภาลัย, แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และพฤกษา เรียลเอสเตท เหตุผลเพราะมีทีมงานพร้อมรองรับเป้าเติบโตขององค์กร

สำหรับปรากฏการณ์ปี 2560 เห็นการตอบรับของกำลังซื้อในตลาดคอนโดฯ อย่างเด่นชัด โดยช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา กำลังซื้อระดับกลางเป็นมนุษย์เงินเดือน สะท้อนจิตวิทยาผู้ซื้อที่อิงกับความเชื่อมั่นตลาดในอนาคตค่อนข้างมาก เช่น เศรษฐกิจยังเติบโตได้ดี การงานมั่นคง รายได้มั่นคง เพราะซื้อคอนโดฯ แล้วต้องรอสร้างและโอนในอนาคต การวางเงินดาวน์ เงินผ่อนเป็นเงินก้อนใหญ่ในชีวิต ในขณะที่มีปัจจัยบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล

ไฮไลต์การเติบโตของตลาดต่างจังหวัด ปีที่แล้วบริษัทเติบโตประเภทคอนโดฯ 27% แนวราบโต 35%

นายไตรเตชะกล่าวต่อว่า กลยุทธ์การเติบโตของศุภาลัย 1.โปรดักส์ดีไซน์ เห็นชัดเจนในช่วง 2-3 ปี พืนที่ส่วนกลาง ซุ้ม-ป้อม-ป้าย ฟาซาด อินทีเรียร์ ฟังก์ชันห้อง เพื่อให้ตรงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงและชัดเจนที่สุด แตกต่างจาก 20-30 ปีที่ผ่านมา สาเหตุจากยุคโซเชียลออนไลน์ทำให้คนมีมุมมองของตัวเองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

2.การพัฒนาระบบการทำงานของบริษัท (Streamlined Processes) ระบบแม้ดีแค่ไหนแต่ถ้าระบบการทำงานไม่ตอบรับ ไม่เร็วทันใจ ไม่ถูกใจลูกค้าก็ทำให้บริษัทดีขึ้นไม่ได้ บริษัทมีการนำระบบ SPA พัฒนาระบบงานก่อสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตั้งเป้าแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้, ลดเวลาการทำงาน ลดเวลาเชื่อมต่อกับสถาบันการเงิน

3.เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ (Penetrate New Segmentation) เดิมจับลูกค้ากลุ่มเดิม 3-5 ล้านบาท เริ่มเจาะราคา 10 ล้านบาทมากขึ้นแต่สัดส่วนอยู่ที่ 2% ทำยังไงเจาะตลาด 8 ล้านจนถึง 10 ล้านบาทบวกลบได้มากขึ้น

4.Property Technology-PropTech บริษัทเริมในช่วงสอง-สามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่บริษัทนำมาใช้ต้องการให้แน่ใจว่าซื้อวันนี้ ก่อสร้างและส่งมอบในอีกสามปีหน้ายังเป็นเทคโนฯ อัพทูเดตและลูกค้ายินดีที่จะใช้งานจริง

5.ตลาดโลกมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย (Explore Foreign Customer Base) บริษัทเริ่มไปแล้วโดยมียอดขายลูกค้าต่างชาติในคอนโดฯ กว่า 1,000 ล้านบาท

ในด้านรายได้ บริษัทมีแบ็กลอก (ยอดขายรอโอน) 39,881 ล้านบาท) ทยอยรับรู้จนถึง 2564 เป็นตัวหนุนหลังให้แนวโน้มรายได้คอนโดฯ บริษัทในปี 2562 เติบโตอีกเช่นกันเพราะมีแบ็กลอกสูง

สำหรับคอนโดฯ ที่เตรียมส่งมอบในปีนี้มี 4 โครงการ ก่อสร้างเสร็จและพร้อมส่งมอบเร็วขึ้น 1 เดือนเศษ ได้แก่ ศุภาลัย ลอฟต์ แครายสเตชัน, ศุภาลัย ซิตี้รีสอร์ท ชลบุรี, ศุภาลัย มอนเต้ 2 เชียงใหม่, ศุภาลัย ซิตี้รีสอร์ท แจ้งวัฒนะ

“สรุป ยอดขาย รายได้ การเปิดตัวใหม่ บริษัทตั้งเป้าทำนิวไฮทุกรายการ โดยปีที่แล้วเปิดตัวคอนโดฯ 5 โครงการไฮไลต์ในกรุงเทพฯ แนวราบเปิดตัว 4 โครงการทำเลรอบนอก ภาพรวมไลน์อัพคอนโดฯ ยังเติบโตได้เช่นเดียวกันปีที่ผ่านมา เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยทำ ทำเลแนวรถไฟฟ้า และมีคอนโดฯ ติดสถานีรถไฟฟ้า ทำเลชุมชนดั้งเดิม และคอนโดฯ ต่อยอดความสำเร็จจากปีที่แล้ว มีจุดขายทั้งหมด”

ในส่วนสินค้าแนวราบ ปีที่แล้วพัฒนาในทำเลรอบนอก ปีนี้ขยับทำเลเข้ามาในเมืองมากขึ้น เดิมทำนอกเมืองเพื่อให้ต้นทุนต่ำ, ขยับเข้าทำเลวงแหวนมากขึ้น 3-5 ล้านบาท, ทำทาวน์โฮม 2-5 ล้านบาทใกล้เมือง เรื่องใหม่มีแบรนด์ใหม่ ใกล้เมืองมากขึ้น มีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ รองรับลูกค้าได้บ้านใกล้เมืองกว่าในอดีต ราคา 7-10 ล้านบาทที่ลูกค้าจับต้องได้ (affordable)

ขณะที่คอนโดฯ ทำเลลงทุนเกาะรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน สีม่วง จากเดิมเป็นลีเนียร์ ใกล้เมืองมากขึ้นราคาที่ดินสูงขึ้นราคาขายแพงขึ้น เดิมทำราคา 1 แสนบาท/ตารางเมตรต้นๆ ปีนี้เรื่องใหม่มีคอนโดฯ แฟล็กชิปทำเลสาทร บนที่ดินสถานทูตออสเตรเลีย ตั้งเป้าเปิดตัวปลายปีนี้