โดดเด่นเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในนาม “ซีวิล เอนจีเนียริง”
โดยประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้เติบโต 33% กำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ท่ามกลางโจทย์ธุรกิจที่ยากลำบาก ทั้งสถานการณ์โควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาเงินเฟ้อสูงสุดรอบ 13 ปี โดยหนึ่งในคีย์ซักเซสที่ทำให้มีวันนี้ มาจากกลยุทธ์การทำธุรกิจบริหารจัดการต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับองค์กร
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) ปรับ 8 ครั้ง ขึ้น 450 บาท รูปพรรณบาทละ 42,150 บาท
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
โดยมีมอตโต้ “ซีวิล เอนจีเนียริง วิถีชีวิตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน” CIVIL Engineering a Better Way Life for All
ประมูลโปรเจ็กต์รัฐ 1.7 หมื่นล้าน
“ปิยะดิษฐ์ อัศวศิริสุข” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซีวิล เอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ CIVIL ผู้นำด้านวิศวกรรมโยธาที่ใช้เทคโนโลยีก่อสร้างแบบครบวงจรชั้นนำของไทยระบุว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้รวม 3,211 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 33% เพิ่มขึ้น 801 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปี 2564 ที่มีรายได้รวม 2,410 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจก่อสร้างด้วยกัน
ขณะที่ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2565 บริษัทมีรายได้รวม 3,211 ล้านบาท หรือ 33% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 71 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 113 ล้านบาท
สำหรับแผนธุรกิจในไตรมาส 3/65 CIVIL มุ่งเน้นบริหารโครงการก่อสร้างในมืออย่างมีประสิทธิภาพและส่งมอบงานได้ตามแผน ควบคู่ไปกับการปรับกลยุทธ์จัดการต้นทุน อาทิ เหล็ก คอนกรีต น้ำมัน แรงงานก่อสร้าง ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตที่ส่งผลโดยตรงกับราคาต้นทุนวัสดุและการดำเนินงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างในปัจจุบัน
ไฮไลต์อยู่ที่บริษัทมีแผนเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะงานโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่กำลังจะเปิดประมูล อาทิ งานก่อสร้างทางหลวงและทางพิเศษ, งานเขื่อนและระบบน้ำ, งานก่อสร้างและปรับปรุงสนามบิน, งานก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
แผนดำเนินการที่รัดกุมรอบคอบและวางแนวทางเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20% คิดเป็นรายได้ 6,000-6,500 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2565 โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากความคืบหน้าของงานก่อสร้างทางรถไฟและทางรถไฟความเร็วสูง แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ 51% ขณะที่งานถนนและสะพานมีสัดส่วน 31%
เปิดเน็ตเวิร์ก 5 จุดหลักทั่วไทย
อัพเดตข้อมูล ณ 31 กรกฎาคม 2565 CIVIL มีเครือข่ายบริษัท 5 จุดหลัก ประกอบด้วย 1.สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ (วัดเสมียนนารี) ถนนวิภาวดีรังสิต 2.โรงงาน จ.พระนครศรีอยุธยา ผลิตแอสฟัลติกคอนกรีต 1 โรงงาน 3.โรงงาน จ.ตรัง ผลิตแอสฟัลติกคอนกรีต 1 โรงงาน กับ 1 ศูนย์บริการและซ่อมเครื่องจักร
4.โรงงานผลิต จ.สระบุรี มี 5 โรงงานผลิต ได้แก่ 4.1โรงงานผลิตแอสฟัลติกคอนกรีต 4.2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนสะพานคอนกรีตสำเร็จรูปชนิดกลวง 4.3 โรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ 4.4 โรงงานผลิตคานคอนกรีตอัดแรงและราวเหล็กลูกฟูกกันรถ สำหรับทางหลวง 4.5 โรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป และมี 1 ศูนย์ซ่อม
และ 5.โรงงาน จ.กระบี่ มี 4 โรงงานผลิตคือ 5.1 โรงงานผลิแอสฟัลติกคอนกรีต 5.2 โรงงานผลิตท่อคอนกรีตเสริมเหล็ก 5.3 โรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ 1 และ 5.4 โรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ 2 พร้อมกับมี 1 ศูนย์ซ่อม
“ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ซีวิล เอนจีเนียริง มีความภูมิใจที่ได้เป็นผู้สร้างความเจริญเติบโตให้กับประเทศ เรามุ่งมั่นทำงานบนพื้นฐานของประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ด้วยเทคโนโลยี ความตั้งใจ และจิตสำนึกในความรับผิดชอบเพื่อความยั่งยืนต่อไปในอนาคต เราจะส่งมอบโครงการที่จะส่งมอบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้เติบโตไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยผลงานที่มุ่งเน้นความเป็นเลิศในทุกมิติ”
โดยสัดส่วนรายได้ของ CIVIL สัดส่วนหลัก 95% มาจากงานภาครัฐ อีก 5% ทำวัสดุก่อสร้าง การให้บริการเช่าเครื่องจักรและเรียลเอสเตตบางส่วน
อาณาจักรศูนย์สระบุรี 2,000 ไร่
หนึ่งในแกนหลักขององค์กรคือ “ศูนย์สระบุรี” ซึ่งมีจำนวน 5 โรงงานผลิตด้วยกัน ตั้งอยู่ห่างกรุงเทพฯ 130 ก.ม. กายภาพเมื่อเดินผ่านรั้วเข้าไปตอกย้ำนโยบายการสร้างองค์กรเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ดังนั้น แม้ศูนย์สระบุรีจะมีทั้งศูนย์ซ่อม โรงเหล็ก แพลนต์คอนกรีต แพลนต์ยาง เหมืองหิน และ Yard Segment แต่สภาพที่เห็นเป็นความร่มรื่นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว
“ศูนย์สระบุรีมีโรงโม่ คนอื่นจะเข้าใจว่ามีฝุ่น แต่เราเชื่อในเรื่อง sustainability สุดๆ อยากเห็นความเขียว จึงปลูกต้นไม้เยอะ นโยบายเราเป็นมิตรกับพื้นที่ เป็นมิตรกับชุมชน เราดูแลชาวบ้านอย่างดี กิจกรรมซีเอสอาร์อยู่ใน DNA บริษัทอยู่แล้ว เวลาไปทำงานเปิดไซต์ก่อสร้างที่ไหน ทำถนน สะพาน ไปรบกวนพื้นที่ เราก็ดูแลพื้นที่ตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่เราให้ความสำคัญ”
สำหรับประวัติศูนย์สระบุรี เริ่มก่อตั้งรุ่นคุณพ่อ (ชัยวัล อัศวศิริสุข) ในปี 2533 ทำผลิตภัณฑ์ป้อนไซต์ก่อสร้างโซนภาคกลางและกรุงเทพฯ ต่อมาปี 2537 ลงทุนขยายศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องกลมาจากสำนักงานใหญ่วัดเสมียนนารี เป็น 1 ใน 3 ศูนย์ซ่อมหลัก “สระบุรี กระบี่ ตรัง” และมีโรงเหล็กผลิตงานเสาป้ายจราจร งานรั้วเชนลิงก์ งานฝาตะแกรงรางระบายน้ำ, การ์ดเรล ฯลฯ
ปี 2548 ได้รับประทานบัตรเหมืองหินปูน แบ่งเป็นประทานบัตรรอบแรกปี 2548-2558 รอบสองปี 2564-2580 ป้อนให้กับกลุ่มบริษัทและขายลูกค้าภายนอก
กิจการเหมืองหินดำเนินการภายใต้ บริษัท ศิลาสากลสระบุรี จำกัด ทำโรงโม่บดย่อยหินใกล้แหล่งหินมากที่สุด มีปริมาณสำรองหินปูนผลิตปูนซีเมนต์ 3.17 ล้านเมตริกตัน หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง 12.69 ล้านเมตริกตัน รวม 15.69 ล้านเมตริกตัน สำหรับเหมืองหินมี 3 เหมือง ได้แก่ เหมือง A กับ C เป็นแร่หินก่อสร้าง, เหมือง B แร่หินปูนซีเมนต์ ป้อนบริษัทในเครือ และยังแบ่งขายให้เอสซีจี, ปูนนครหลวง, บางปะอินคอนกรีต และบริษัทก่อสร้างอื่น ๆ ด้วย
ปี 2558 ลงทุนโรงงานผลิตแอสฟัลติกหรือแพลนต์ยาง ผลิตป้อนกลุ่มบริษัทและขายภายนอก กำลังการผลิต 90 ตัน/ชั่วโมง และปี 2559 ลงทุนโรงงานผลิต (Segment) และโรงงานคอนกรีตผสมเสร็จหรือแพลนต์คอนกรีต กำลังผลิต 40 ลบ.เมตร/ชั่วโมง ดำเนินการโดยบริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด เพื่อใช้สนับสนุนโรงงานผลิต Segment
มีพนักงาน+คนงานทั้งสิ้น 152 คน มีอพาร์ตเมนต์ที่พักพนักงาน เพราะเชื่อว่าเมื่อบริษัททำที่อยู่อาศัยให้ดีจะสามารถดึงดูดคนเก่งและดีเข้ามาทำงานได้ นโยบายเราเชื่อในทรัพยากรบุคคล ปีนี้จะลอนช์อะคาเดมี สอนตั้งแต่คนขับแบ็กโค ปีหน้าอาจเริ่มทำเทรนนิ่งโปรแกรมทางด้านเอ็นจิเนียร์ และโปรเจ็กต์แมเนเจอร์
“ศูนย์สระบุรีมีพื้นที่รวม 2,000 ไร่ เพิ่งใช้ไป 500 ไร่ ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์คุณพ่อที่มาทำไว้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว”
ธุรกิจ 3 ขา-เติบโตยั่งยืน
ซีอีโอรับเหมามหาชน “ปิยะดิษฐ์” กล่าวว่า รากฐานของ CIVIL อยู่ในวงการมานานกว่า 50 ปี หลังจากเข้าจดทะเบียนเป็น listed company วางอนาคตในการเป็นผู้นำด้านการก่อสร้าง วิศวกรรมโยธาครบวงจร เชี่ยวชาญงานโครงสร้างพื้นฐานก่อสร้างขนาดใหญ่ ทำมาแล้วมากกว่า 1,000 โครงการ ปัจจุบันด้านวิศวกรรมโยธา เป็นผู้รับเหมาชั้นสูงสุด
ทั้งนี้ CIVIL ดำเนินกิจการหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1.“ธุรกิจก่อสร้างและบริหารโครงการก่อสร้าง” มีผลงานทำ “ถนนและสะพาน” ผ่านโครงการก่อสร้างทางหลวง ทางต่างระดับ และทางพิเศษ ได้แก่ ทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี ทางแยกต่างระดับรัชวิภา ทางแยกต่างระดับห้าแยกน้ำกระจาย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง บางปะอิน-โคราช และทางลอดห้าแยกฉลอง จ.ภูเก็ต
“งานเขื่อน” ผ่านโครงการเขื่อนหัวงาน และอาคารประกอบคลองดินแดง ทำนบดินหัวงาน และอาคารประกอบอ่างเก็บน้ำคลองทรายขาว อ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อ่างเก็บน้ำคลองสังข์, “งานสนามบิน” ผ่านโครงการทางวิ่งและงานสาธารณูปโภค สนามบินนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี, งานเสริมความแข็งแรงทางวิ่งและทางขับ และลานจอดรถ สนามบินตรัง, งานขยายความกว้างทางวิ่งและเสริมผิวทางสนามบินลำปางและหัวหิน
“งานรถไฟความเร็วสูง-รางคู่” ผ่านโครงการทางรถไฟรางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร, ทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงสีคิ้ว-กุดทา, ทางรถไฟความเร็วสูง ช่วงสระบุรี-แก่งคอย, “งานนิคมอุตสาหกรรม” ผ่านโครงการก่อสร้างนิคมอุตฯยางพารา (Rubber City), งานพัฒนาริมคูน้ำริมถนนวิภาวดีฯ, ระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมชุมชนเมืองชุมพร, โครงการก่อสร้างสะพานลอยเดินเท้า (Sky Walk) เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงิน
2.“ธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง” บริษัทมีแหล่งวัสดุ อาทิ เหมืองหินปูนคุณภาพ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป พรีคาสต์กับพรีแฟบ ตั้งในตำแหน่งยุทธศาสตร์สำคัญ ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ทีมงานมืออาชีพ จัดหาและจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และจำหน่ายให้พันธมิตรการค้าอื่น ๆ
3.“ธุรกิจให้บริการอสังหาริมทรัพย์ และให้เช่าเครื่องมือเครื่องจักร” นอกจากบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพแล้ว ยังสอดคล้องกับกระแส sharing economy ให้องค์กรพันธมิตรร่วมเติบโตไปด้วยกัน
