บททดสอบ 9 เดือนแรก 2565 “บิ๊กแบรนด์” คุมเกมบุกยุคโควิด-สงคราม

อสังหาริมทรัพย์

สอบผ่านฉลุยสำหรับผลประกอบการ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2565) ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ทั้งนี้ ถึงแม้มีจำนวนเพียง 37 บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ผลประกอบการน่าจะกินส่วนแบ่งตลาดเกิน 80% ของตลาดรวม ในขณะที่ท็อป 10 บริษัท “ยิ่งมีวิกฤตเศรษฐกิจ ยิ่งเติบโตแข็งแกร่ง” เพราะครองส่วนแบ่งตลาดกระจุกตัวรวมกันที่ 77% ของตลาดรวม

บิ๊กแบรนด์ผลงานแข็งแกร่ง

“ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชัน จำกัด (LWS) บริษัทลูกในเครือ LPN ระบุว่า จากการรวบรวมผลประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า ผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2565 ของ 37 บิ๊กแบรนด์ มียอดรับรู้รายได้รวมกัน 230,852.39 ล้านบาท เติบโต 10.80% กำไรสุทธิ 33,337.92 ล้านบาท โต 30% บวกลบจากช่วงเดียวกันปี 2564

โดยเก้าอี้ดนตรีตำแหน่งแชมป์ท็อป 3 ชิงดำกันอยู่ 3 บริษัท แบ่งเป็นในด้าน “รายได้” อันดับ 1 เอพี ไทยแลนด์ 29,842.11 ล้านบาท, อันดับ 2 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 27,684.04 ล้านบาท และอันดับ 3 ศุภาลัย 25,454.53 ล้านบาท

ขณะที่ในด้าน “กำไรสุทธิ” อันดับ 1 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 6,322.01 ล้านบาท, อันดับ 2 ศุภาลัย 6,088.67 ล้านบาท และอันดับ 3 เอพี ไทยแลนด์ 4,755.13 ล้านบาท

ตัวเลขที่ต้องจับตามองคือ ไม่เพียงแต่มีผลประกอบการอู้ฟู่ในวันนี้ บิ๊กแบรนด์ที่มีความได้เปรียบด้านแผนงาน-แผนคน-แผนเงิน มีการแข่งขันลงทุนสร้างอนาคตให้กับแผนธุรกิจเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ไฮไลต์จึงอยู่ที่ “inventory-สินค้าคงเหลือและสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง” พบว่า 9 เดือนแรกปีนี้ 37 บริษัทรายใหญ่มีมูลค่ารวมกัน 583,266.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.47 % เทียบกับ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565

โดยคัดท็อป 20 พบว่ามีมูลค่ารวมกัน 542,307.11 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 93% แต่ถ้าคัดท็อป 10 จะมีมูลค่ารวมกัน 439,456.45 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 75% 

ASW ยอดขายทะลุ 1.3 หมื่นล้าน

ผลงานโดดเด่นเป็นของ “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า 2565 เป็นปีแห่งความสำเร็จของบริษัท โดย 9 เดือนแรกสร้างยอดขาย (พรีเซล) 13,104 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ก่อตั้งองค์กร และสูงเกินเป้ายอดขายทั้งปีที่วางไว้ 10,000 ล้านบาท

โครงการที่เป็น key driver ของยอดขายพรีเซล 9 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ เคฟทาวน์ โคโลนี ม.กรุงเทพ ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านบาท จำนวน 1,083 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท ซึ่งได้ประกาศ sold out เป็นที่เรียบร้อย และ แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนุช ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท จำนวน 1,110 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 40%

แผนบุกไตรมาส 4/65 จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,200 ล้านบาท ได้แก่ บ้านแนวราบ “เอสต้า รังสิต คลอง 2” 153 ยูนิต มูลค่าโครงการ 680 ล้านบาท กับ “เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน” 245 ยูนิต มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท

พราวเทิร์นอะราวด์รายได้-กำไร

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/65 มีรายได้รวม 883 ล้านบาท กำไรสุทธิ 119 ล้านบาท ทำให้ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกมีรายได้รวม 992 ล้านบาท กำไรสุทธิ 61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2564 ที่ไม่มีรายได้ ถือเป็นการเทิร์นอะราวด์อย่างแท้จริง มาจากการขายและทยอยส่งมอบห้องชุดอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน อย่างต่อเนื่อง

ในช่วงไตรมาส 4/65 เตรียมเปิดโครงการแนวราบระดับลักเซอรี่ “วี อารีย์-VI ARI” มูลค่ารวม 507 ล้านบาท ราคาขายต่อหลัง 80 ล้านบาท, คอนโดมิเนียมทำเลซอยคอนแวนต์ พร้อมกับเปิดความร่วมมือกับโรงพยาบาล BNH และแอปพลิเคชั่น Bedee by BDMS มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 4/65 และไตรมาส 1/66 ตามลำดับ

ลลิลฯซุ่มสะสมซัพพลายหมื่นล้าน

“ชูรัชฏ์ ชาครกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วง 9 เดือนแรกทำยอดรับรู้รายได้ 4,723.2 ล้านบาท ปรับลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันปี 2564 ที่มียอดรับรู้รายได้ 4,828.1 ล้านบาท ลดลง -2.2% มีอัตรากำไรขั้นต้น (กรอสมาร์จิ้น) 39.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดซึ่งอยู่ที่ 33% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายปรับเพิ่มขึ้น 18.4 ล้านบาท เป็นผลมาจากทำการตลาดช่วงเปิดโครงการใหม่

ที่ผ่านมา ลลิลฯเปิดตัวไปแล้ว 8 โครงการ คาดว่าทั้งปีจะเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ อินเวนทอรี่ของลลิลฯ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 10,136.92 ล้านบาท รองรับการขยายตัวในปี 2566

RML ได้แบ็กล็อกหนุนรายได้

นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 3/65 ขาดทุน 47.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นจากไตรมาส 2/65 ที่ขาดทุน 193 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากแบ็กล็อกโครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม และมีรายได้ประจำจากค่าบริหารโครงการและค่าธรรมเนียมการตลาด

ในปี 2565 บริษัทจะทยอยรับรู้ยอดขายรอโอน (แบ็กล็อก) ล่าสุด ณ 30 กันยายน 2565 RML มีแบ็กล็อกมูลค่า 6,100 ล้านบาท จากห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมโอน “ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์” มูลค่า 2,700 ล้านบาท และโครงการระหว่างก่อสร้าง “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์” มูลค่า 3,400 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในปี 2566

บริทาเนียคว้ากำไรสุทธิ 1,059 ล้าน

“ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 3/65 1,420.6 ล้านบาท มีรายได้สะสม 9 เดือน 4,555.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.6% และ 62.2% ตามลำดับ มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 จำนวน 330.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.8% กำไรสะสม 9 เดือน 1,059.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.2%

โดย BRI เสนอขายหุ้นกู้เป็นครั้งแรก จำนวน 2 ชุด อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00-4.70% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ ระหว่าง 17-18 และ 21 พฤศจิกายน 2565 เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายการลงทุนโครงการใหม่

แสนสิริเพิ่มเป้าขาย 4.7 หมื่นล้าน

“อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริมีการปรับเพิ่มเป้ายอดขายในปี 2565 จากเดิมตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 47,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และโตขึ้น 40% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2564 ที่ทำไว้ 33,500 ล้านบาท

ในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ แสนสิริวางแผนเปิดตัวบ้านแนวราบ 4 โครงการใหม่ ได้แก่ “สราญสิริ รามคำแหง” ราคา 7-14 ล้านบาท, โครงการ “อณาสิริ ติวานนท์-ศรีสมาน”, บ้านสไตล์ญี่ปุ่นราคา 5.59-8 ล้านบาท, “อณาสิริ สรงประภา” ราคา 5.99-8 ล้านบาท และทาวน์โฮม “สิริ เพลส ราชพฤกษ์-นครอินทร์” 4 ห้องนอน ราคา 3.69-5 ล้านบาท

SC บุกลงทุนธุรกิจน่านน้ำใหม่

“อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า 9 เดือนแรกปีนี้ ทำยอดขาย 17,182 ล้านบาท สัดส่วน 78% จากเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 22,000 ล้านบาท เติบโต 7% แบ่งเป็นยอดขายแนวราบ 14,018 ล้านบาท เติบโต 6% คอนโดฯ 3,164 ล้านบาท เติบโต 12%

ไฮไลต์ยุทธศาสตร์หลักสร้างการเติบโตบนสมรภูมิเดิมและหาโอกาสจากน่านน้ำใหม่ ล่าสุด บอร์ดบริษัทอนุมัติให้บริษัทย่อย “SCX-เอสซี เอ็กซ์เพดิชั่น” เข้าลงทุน 100% ในบริษัท เอฟเจ บีเคเค จํากัด (FJBKK) ทุนจดทะเบียน 1,420 ล้านบาท วัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อพัฒนาธุรกิจโรงแรม สร้างกำไรจากธุรกิจบนน่านน้ำใหม่

AP เดินหน้าเก็บเกี่ยวผลสำเร็จ

เอพี ไทยแลนด์ ภายใต้คำมั่นสัญญา หรือ Brand Promise “ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้” โดย “วิทการ จันทวิมล” รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี ไทยแลนด์ ระบุว่า บริษัทมียอดขายสุทธิ 9 เดือนทุบสถิติใหม่อีกครั้งอยู่ที่ 37,455 ล้านบาท มาจากดีมานด์ฟื้นตัวตอบรับดีจากลูกค้าซื้อเพื่ออยู่จริงเซ็กเมนต์กลาง-บน เติบโตดีทั้งทำเลในเมืองและปริมณฑล

ไตรมาส 4/65 ยังคงเดินหน้าลงทุนขยายธุรกิจต่อเนื่อง วางแผนเปิดตัว 27 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 37,760 ล้านบาท ในเซ็กเมนต์ใหม่ กระจายเปิดตัวทุกทำเล โดยกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเปิดแบรนด์ใหม่ล่าสุด MODEN บุกโซนปริมณฑล ราคา 3-5 ล้านบาท, กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮม ส่งแบรนด์ Pleno Town มาพร้อมฟิตเนส 24 ชั่วโมง เจาะทำเลราชพฤกษ์-345 และลำลูกกา-คลอง 5 ในขณะที่ตลาดคอนโดฯ มีการเติบโตจากยอดขายรวม 8,529 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเทียบกับปีก่อนหน้า