“วัน แบงค็อก” โครงการอสังหาฯ 1.2 แสนล้านของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ อัพเดตโครงการล่าสุด ประกาศแต่งตั้ง ซีบีอาร์อี-เจแอลแอล เป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่าอาคารสำนักงาน 2 อาคารแรกของโครงการฯ พื้นที่สำนักงานเกรด A กว่า 200,000 ตร.ม. ชูจุดขายอาคารสำนักงานอัจฉริยะแห่งอนาคตของเมืองไทย
วันที่ 10 ธันวาคม 2565 นายลิม ฮัว เทียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า ความคืบหน้าโครงการในส่วนของพื้นที่สำนักงานให้เช่า (ออฟฟิศบิลดิ้ง) ได้มีการแต่งตั้ง ซีบีอาร์อี และเจแอลแอล ที่ปรึกษาด้านบริการและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ที่มีเครือข่ายครอบคลุมเมืองสำคัญทั่วโลกเป็นตัวแทนจัดหาผู้เช่า ทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกด้านการจัดกลุ่มสินทรัพย์ (Asset Class) และสามารถสร้างสรรค์พื้นที่สำนักงานครบครันด้วยมาตรฐานสูงสุด
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราได้เปิดตัวอาคารสำนักงาน เดอะ ปาร์ค (The PARQ) ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และประสบความสำเร็จมีผู้เช่า 95% แสดงให้เห็นว่าความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานที่มีคุณภาพยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด จึงมีความพร้อมเปิดให้บริการพื้นที่สำนักงานในโครงการวัน แบงค็อก โดยเปิดก่อน 2 อาคารแรกในอาคารที่ 4-5 พื้นที่ 2 แสนตารางเมตร”
สำหรับพื้นที่สำนักงานของวัน แบงค็อก ให้ความสำคัญสูงสุดในด้านสุขภาวะ ความเป็นอยู่ที่ดีในการทำงาน ความยั่งยืน และคุณภาพที่ดีในทุกรายละเอียด โดยทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นอาคารสำนักงานแห่งแรกที่มีระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะแห่งอนาคต มุ่งสู่การรับรองมาตรฐาน WiredScore และ SmartsScore มาตรฐานอาคาร WELL Platinum รองรับด้วยระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ มุ่งสู่มาตรฐานอาคาร WELL Platinum โครงการแรกในประเทศไทย
โดย วัน แบงค็อก ได้รับรางวัล “Best Office Development” จากเวทีประกาศผลรางวัล PropertyGuru Thailand Property Awards 2022 ครั้งที่ 17 ที่ผ่านมา
นางสาวรุ่งรัตน์ วีระภาคย์การุณ กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงปี 2565-2568 CBRE คาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่สำนักงานใหม่เพิ่มขึ้น 1.17 ล้านตร.ม. ซึ่งโครงการใหม่เหล่านี้ โดยส่วนมากจะพัฒนาขึ้นโดยมีเป้าหมายให้เป็นไปตามมาตรฐานของ LEED และ WELL
โดยอาคารสำนักงานที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้เช่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารที่ได้รับการพัฒนาและบริหารอาคารโดยทีมงานที่มากประสบการณ์ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง อย่างโครงการต่าง ๆ ภายใต้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อาทิ FYI Center, สาทรสแควร์, สามย่าน มิตรทาวน์ และเดอะ ปาร์ค เป็นต้น
“นอกจากนี้ อาคารสำนักงานเก่าหลายแห่งที่สร้างขึ้นก่อนปี 2543 เริ่มมีการปรับปรุงอาคารเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน LEED และ WELL เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาด รองรับความต้องการพื้นที่สำนักงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นของบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนลและพนักงานในยุคปัจจุบัน
ซึ่งคาดหวังสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่มีความยืดหยุ่น ส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน ตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการมีสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดี เป็นตัวกำหนดปัจจัยในการพัฒนาอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่นำไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์” นางสาวรุ่งรัตน์กล่าว
นายไมเคิล แกลนซี กรรมการผู้จัดการ บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์เจแอลแอล กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญมาจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และความจำเป็นในการมีออฟฟิศที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยืดหยุ่น-คล่องตัว ดีต่อพลานามัยของผู้ใช้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะเดียวกัน
ตัวแปรที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต่อตลาดออฟฟิศบิลดิ้ง คือ การหันไปใช้นโยบายที่ให้พนักงานทำงานที่ออฟฟิศสลับกับการทำงานจากสถานที่อื่นได้ ตอกย้ำการให้ความสำคัญมากขึ้นกับการมีสุขภาวะที่ดีของพนักงาน เอื้อให้มีการทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น ส่งเสริมความรู้สึกของการมีส่วนร่วม และเพิ่มประสิทธิผลของการทำงาน
การเลือกเช่าพื้นที่อาคารที่มีคุณภาพและความยั่งยืน เป็นแนวโน้มที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นในตลาดอาคารสำนักงานของกรุงเทพฯ ทั้งนี้ กรุงเทพฯ มีบริษัท ที่อยู่ในออฟฟิศเดิมมานานกว่า 12 ปี คิดเป็นพื้นที่รวมกัน 4 ล้านตารางเมตร เชื่อว่าบริษัทเหล่านี้ จะย้ายไปอาคารใหม่ ออฟฟิศใหม่ในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานได้ดีกว่า และมีส่วนช่วยดึงดูดให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้น
“วัน แบงค็อก มีความเพียบพร้อมหลายด้านที่สามารถรองรับความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปของผู้เช่าออฟฟิศได้อย่างดี กลุ่มอาคารสำนักงานในโครงการมีคุณภาพเกรดพรีเมียม มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านไลฟ์สไตล์มากมายไร้ขีดจำกัด เชื่อมโยงกับธรรมชาติ นำเสนอศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างแรงบันดาลใจ เข้าถึงระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นหัวใจของวิถีชีวิตสังคมเมือง” นายแกลนซี กล่าว
อนึ่ง วัน แบงค็อก คือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และครบวงจรที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร
โดยมีมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท บนเนื้อที่รวม 104 ไร่ หรือ 166,400 ตารางเมตร บนถนนวิทยุและถนนพระราม 4 เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว โครงการ วัน แบงค็อก จะประกอบไปด้วย อาคารสำนักงานแบบพรีเมียมเกรดเอ จำนวน 5 อาคาร พื้นที่รีเทล 4 โซน โรงแรมระดับลักเซอรี่และไลฟ์สไตล์ จำนวน 5 แห่ง และอาคารที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่อีกจำนวน 3 อาคาร ซึ่งดำเนินงานภายใต้แนวคิดที่คำนึงถึงผู้คน ความยั่งยืน และการใช้ชีวิตแบบเมืองอัจฉริยะ
