แสนสิริ โชว์แกร่งปี’66 เปิดโครงการใหม่ 75,000 ล้าน ตั้งเป้ารายได้-กำไรทำนิวไฮ

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

แสนสิริ รุกแกร่งปี 2566 เดินหน้าเต็มกำลัง วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 52 โครงการ มูลค่ารวมทุบสถิติ 75,000 ล้านบาท ประกาศเผยยอดขายปี 2565 ทะลุ 50,000 ล้านบาท โต 49% คว้ายอดโอนทะลุเป้า 36,800 ล้านบาท แผนปี 2566 มั่นใจทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่ เป้ารายได้ 40,000 ล้านบาท ควบคู่ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ALL-Time High)

วันที่ 30 มกราคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2565 แสนสิริสามารถเดินหน้าอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนประสบความสำเร็จ ด้วยยอดขายรวม 50,000 ล้านบาท โตขึ้นเกือบ 50% จากปี 2564 มียอดโอน 36,800 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเช่นกัน

เป้าแผนธุรกิจปี 2566 All Time High

แผนลงทุนใหม่ในปี 2566 แสนสิริยังคงมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและเดินหน้าเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสังคมและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง วางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 75,000 ล้านบาท นับเป็นการทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 30 โครงการ คอนโดมิเนียม 22 โครงการ ตั้งเป้ายอดขาย 55,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม 40,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึงเป้าหมายกำไรสุทธิ ที่จะทุบสถิติ ALL-Time High พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

ลงทุนใหม่ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์-ทุกทำเลทั่วไทย

ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ จากัด (มหาชน) หรือ (SIRI) เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในปี 2566 นี้ แสนสิริจะก้าวแกร่งเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์สำคัญ ภายใต้ 3 กุญแจสำคัญขับเคลื่อนองค์กร รุกขยายธุรกิจเต็มสูบ สนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม

บริษัทวางแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่ารวมสูงถึง 75,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 74% และโตขึ้นจากช่วงเกิดโควิดถึง 1,000% หรือ 10 เท่าตัว ครอบคลุมทุกโปรดักต์ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ทุกเซ็กเมนต์ระดับราคารองรับทุกความต้องการ และครอบคลุมในทุกทำเล เจาะกลุ่ม real demand

อุทัย อุทัยแสงสุข
อุทัย อุทัยแสงสุข

โดยเฉพาะแนวราบ วางแผนเปิดตัว 30 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,700 ล้านบาท โครงการไฮไลต์ในปีนี้ ได้แก่ การเปิดตัว “นาราสิริ พหล-วัชรพล” มูลค่าโครงการ 5,300 ล้านบาท เพื่อต่อยอดความสำเร็จปีที่ผ่านมา จากการ Sold out ปิดการขาย “นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา” ในเวลาเพียง 1 เดือน ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอสังหาฯ ซูเปอร์ลักเซอรี่ไทย

บุกบ้านลักเซอรี่ยกแผง

นอกจากนี้ แสนสิริมีแผนต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ “บูก้าน” โดยเปิดตัว “บูก้าน” เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 โครงการ บน 3 ทำเลไพร์มใหม่ ได้แก่ ทำเลกรุงเทพกรีฑา, พัฒนาการ และพระราม 9-เหมงจ๋าย มูลค่ารวม 3,600 ล้านบาท โดยจะเปิดตัวโครงการแรก “บูก้าน กรุงเทพกรีฑา” วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2566 นี้

รวมถึงตอกย้ำความสำเร็จบ้านเดี่ยวระดับลักเซอรี่แบรนด์ “เศรษฐสิริ” ระดับราคา 12-25 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อายุน้อยลง ประสบความสาเร็จเร็ว ด้วยการเปิดตัว New Design Series ภายใต้แนวคิด Portrait of Success กับ 4 ดีไซน์ใหม่

ประเดิมโครงการแรก “เศรษฐสิริ ดอนเมือง” ดีไซน์ใหม่ล่าสุด สไตล์ “Georgian-จอร์เจียน” แรงบันดาลใจจากบ้านของเหล่าเศรษฐีอเมริกัน หรูหรา สง่างาม แต่ยังคงความคลาสสิกไว้ ทำเลดอนเมือง เพียง 2 นาที จากรถไฟฟ้าสายสีแดงสถานีดอนเมือง และ 5 นาทีจากสนามบินดอนเมือง ราคาเริ่มต้น 13 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนพฤษภาคม 2566 นี้

พร้อมรุกต่อแบรนด์ “สราญสิริ” บ้านเดี่ยวหลังแรกของครอบครัว ดีไซน์ใหม่ซีรีส์ Modern Farmhouse ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มลูกค้า ในปีนี้แสนสิริมีแผนรุกแบรนด์บ้านเดี่ยว สราญสิริ 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้แสนสิริยังเตรียมรุกเปิดตัวมิกซ์โปรดักต์ บ้านและทาวน์โฮมในโครงการเดียว แบรนด์ “อณาสิริ” 9 โครงการใหม่ กับ 2 ดีไซน์ ที่ได้รับการตอบรับที่ดี Japanese และ Mediterranean

เปิด 9 แบรนด์ใหม่ขยายฐาน Sansiri Luxury Collection

ในปี 2566 นี้ แสนสิริเตรียมการเปิดตัว 9 แบรนด์ใหม่ ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ เพื่อขยายในแต่ละ Portfolio ให้แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกความต้องการและระดับราคามากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย แบรนด์ที่อยู่ใน Sansiri Luxury Collection เพื่อขยายพอร์ตลักเซอรี่ เซ็กเมนต์ของแสนสิริให้โตขึ้นแบบก้าวกระโดด ได้แก่ No.19 (นัมเบอร์ นายทีน) และ Sirinsiri (สิริณสิริ)

แบรนด์ใหม่ในระดับพรีเมี่ยม เซ็กเมนต์ ได้แก่ Narinsiri (ณริณสิริ) และ Ombré (ออมเบร) รวมทั้งแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ ได้แก่ HUB (ฮับ) และ Cabanas (กาบานาส) ทำเลหัวหิน ที่จะเริ่มทยอยเปิดตัวแบรนด์ใหม่ต่าง ๆ ในปีนี้ เพื่อตอกย้ำ Forward Thinking Brand และความเป็น First Mover ของแสนสิริ

กรีธาทัพคอนโดฯ 22 โครงการใหม่

สำหรับโครงการแนวสูง แสนสิริจะรุกขยายเปิดตัวคอนโดมิเนียม 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,300 ล้านบาท โตขึ้นจากปี 2565 ถึง 151%

โดยคอนโดมิเนียม ที่เป็นไฮไลต์ในปีนี้ ได้แก่ การเปิดตัว New Luxury Condominium ในสุดยอดทำเลศักยภาพ อาทิ ทำเลใจกลางเมืองอย่าง “อารีย์-ราชเทวี”

การเปิดตัวคอนโดมิเนียม แบรนด์ใหม่ที่เป็น One of a kind Project หรือแบรนด์ใหม่ที่มีความโดดเด่นบนโลเคชั่นเดียว อาทิ Cabanas Huahin และ อีก 2 แบรนด์คอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์ในย่านสุขุมวิท

รีเฟรชแบรนด์ “ดีคอนโด” ในรอบ 13 ปี

ประเดิมต้นปีด้วยการรุกตลาดคอนโดฯ ในไตรมาส 1/66 ด้วยการรีเฟรชแบรนด์ “ดีคอนโด” ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของแสนสิริในกลุ่มคอนโดฯ ราคาเข้าถึงง่าย ที่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมมาตลอด 13 ปี ทั้งด้านยอดขายและการพัฒนาโครงการที่โดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่

ในปี 2566 นี้ แสนสิริปรับภาพแบรนด์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ในคอนเซ็ปต์ “Stay Well-Rounded คอนโดที่คิดเพื่อชีวิตดีรอบด้าน” นำเสนอคอนโดฯแนวคิดใหม่ ใส่ใจความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิตทุกด้าน โดยมุ่งเน้นในเรื่องของ Well-Being สร้างพื้นที่ Safe Zone ทั้งกายและใจ กับ “ดีคอนโด” ซีรีส์ใหม่ 5 โครงการ 5 ทำเลศักยภาพ ทั่วประเทศตลอดปีนี้ รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท

นำร่องด้วยการส่ง 2 โครงการแรกใน “หาดใหญ่-ภูเก็ต” รับเรียลดีมานด์ และตลาดท่องเที่ยวฟื้น “ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต” เริ่ม 1.59 ล้านบาท* ทำเลศักยภาพใกล้ใจกลางเมืองและหาดป่าตอง แหล่งท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ชื่อดังของภูเก็ต และ “ดีคอนโด แซนด์ หาดใหญ่” เริ่ม 1.79 ล้านบาท* ใจกลางเมืองหาดใหญ่ เชื่อมต่อถนนกาญจนวนิช โดยเตรียมเปิดตัว ทั้ง 2 ดีคอนโดใหม่วางแผนเปิดพรีเซลเดือนมีนาคม 2566 นี้

บุกเพิ่ม 12 โครงการย้ำแบรนด์ผู้นำตลาดต่างจังหวัด

สำหรับการรุกตลาดต่างจังหวัดต่อเนื่อง ใน 6 จังหวัด ได้แก่ หัวหิน, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่, ขอนแก่น และชลบุรี ซึ่งแสนสิริประสบความสำเร็จและได้รับความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ ในปี 2566 นี้จะเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัด 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,500 ล้านบาท

ขณะที่กลยุทธ์ในการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ แสนสิริจะเน้นการเปิดตัวโครงการที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ในแต่ละทำเล เพื่อบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ แสนสิริจะรุกโมเดล New Sansiri Communities เพื่อต่อยอดความสาเร็จจากการปั้น “สังคมอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ” ในแต่ละทำเลที่แสนสิริเข้าไปพัฒนาโครงการ ต่อยอดความสำเร็จจาก T77 และ กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ ในปี 2565 ที่ผ่านมา โดยทำเลที่เตรียมพัฒนาในปีนี้ อาทิ บางนา-เลค 26 รังสิต-บางพูน, กรุงเทพ-ปทุมธานี, ราชพฤกษ์-346, พระราม 2-วงแหวน, ประชาอุทิศ 90 และเวสต์เกต

No.1 in International Market

แสนสิริยังได้ชูความพร้อมรับปัจจัยบวก “การกลับมาของตลาดต่างชาติ” โดยวางเป้าหมายยอดขายและยอดโอนตลาดต่างชาติ ในปีนี้ 12,000 ล้านบาท โตขึ้น 54% จากปี 2565 ที่มียอดขายจากตลาดต่างชาติ 7,800 ล้านบาท ตอกย้ำเบอร์หนึ่งแบรนด์อสังหาฯ ไทยในใจตลาดต่างชาติ ที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้บุกเบิกการขายอสังหาฯ ในต่างประเทศเป็นรายแรกของไทยมากว่า 10 ปี

โดยกลยุทธ์การรุกตลาดต่างชาติในปี 2566 นี้ แสนสิริจะรุกตลาดในกลุ่ม CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar, Vietnam) เพื่อขยายตลาดต่างชาติให้กว้างขึ้นจากเดิมมีฐานลูกค้าชาวจีน ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และรัสเซีย

ภารกิจผู้นำเทรนด์ Net-Zero

แสนสิริยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าในพันธกิจสีเขียว โดยวางเป้าหมายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่เป็น Net-Zero องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ โดยพันธกิจในปี 2566 แสนสิริกำลังเดินหน้าพัฒนา “Low Energy Community Model” โดยยกโครงการ “บุราสิริ กรุงเทพกรีฑา” เป็นโครงการต้นแบบ

ด้วยการเริ่มพัฒนาบ้านด้วย Green Materials รวมทั้งติดตั้ง Solar Panel ในบ้านทุกหลัง, ติดตั้ง Solar Light บริเวณส่วนกลาง ติดตั้ง EV Charger ส่วนกลางและที่บ้าน ทดลองปลูกต้นไม้ยืนต้นและไม้พุ่มในสวนส่วนกลาง พัฒนาโดยทีมเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะ หรือ “Dedicated team for Net Zero Home”

นอกจากนี้ ทุกโครงการของแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด ด้วยแผนติดตั้ง Solar Panel ในส่วนกลางของโครงการใหม่ 100% รวมทั้งติดตั้ง Solar Panel ในบ้านทุกหลังของโครงการใหม่ ไฟในสวนต้องเป็นไฟพลังงานแสงอาทิตย์ 100% ทุกโครงการในปีนี้ โดยวางเป้าหมายติดตั้ง 1,100 หลังในปี 2566 และอีก 1,500 หลังในปี 2567

รวมถึงส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายติดตั้ง EV Charger ในทุกโครงการใหม่ของแสนสิริในทุกเซ็กเมนต์ โดยวางเป้าหมายติดตั้ง EV Charger 650 หลังในปี 2566 และอีก 750 หลังในปี 2567

สานต่อกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง

แสนสิริยังคงเดินหน้าต่อยอดแคมเปญดี ๆ เพื่อสังคม อาทิ ZERO DROPOUT ก้าวเข้าสู่ปีที่ 2 เดินหน้าสู่เป้าหมายสูงสุดในการช่วยเหลือเด็กจังหวัดราชบุรีหลุดนอกระบบการศึกษาต้องเป็น “ศูนย์” ภายในปี 2567 โดยเตรียมจับมือกับ Partner ระดับโลกเพื่อช่วยเหลือและวิเคราะห์ปัญหาเด็กหลุดนอกระบบในจังหวัดราชบุรี

การสานต่อจุดยืนความเท่าเทียมปีที่ 5 หรือ LIVE EQUALLY โดยปี 2566 นี้ เตรียมขยายผลกับพาร์ตเนอร์ที่มีวิสัยทัศน์เดียวกัน WASTE TO WORTH แยกขยะให้เกิดประโยชน์ ที่ในปีนี้แสนสิริยังคงสานต่อและเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย การลดขยะในครัวเรือนของลูกบ้าน โดยร่วมมือกับพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์เดียวกันพร้อมกระตุ้นให้ลูกบ้านและทุกคนมีส่วนร่วมในการลงมือทำจริง แยกจริง

เพราะแสนสิริมุ่งมั่นให้ธุรกิจเติบโตควบคู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นรวมถึงคุณภาพชีวิตของคนและสังคมที่จะก้าวไปพร้อมกัน