พร้อมจะก้าวกระโดด “ธนาสิริกรุ๊ป” บนเส้นทางเติบโต แตกไลน์ น่าอยู่ ยั่งยืน

ธนาสิริ

ดีเวลอปเปอร์ดาวรุ่งแห่งวงการอีกราย “ธนาสิริกรุ๊ป” ของตระกูลเสถียรภาพอยุทธ์ ก่อตั้งเมื่อปี 2528 เท่ากับปี 2566 ย่างเข้าสู่ขวบปีที่ 38 แล้ว

ล่าสุด ผลประกอบการปี 2565 เพิ่งสร้างปรากฏการณ์รายได้เติบโตสูงสุดนับแต่ก่อตั้งบริษัท จำนวน 1,024 ล้านบาท

จากความสำเร็จที่ไม่ได้เกินคาดหมายมากนัก เพราะมีตัวช่วยพันธมิตรธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่น “อนาบูกิ โคซัน-Anabiki Kosan” บิ๊กเนมวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น เรื่องใหม่ของธนาสิริกรุ๊ปมีการวาดเป้าแผนธุรกิจ 3 ปี (2566-2568) ต้องการสร้างรายได้ในปี 2568 จำนวน 5,200 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 30%

ส่งสัญญาณทั้งทางตรงและทางอ้อมว่า ธนาสิริกรุ๊ปพร้อมจะเติบโตก้าวกระโดดนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป

ผนึกอันดับ 7 ตลาดหุ้นโตเกียว

ผู้บริหารคนรุ่นใหม่ “สุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า ปี 2566 วิสัยทัศน์บริษัทตั้งอยู่บนโจทย์ Thanasiri Return on Sustainability-ธนาสิริ…บริบทเพื่อความยั่งยืน

“ผลสำเร็จของปี 2565 อยากจะเน้นย้ำว่า ธนาสิริเราขับเคลื่อนทั้งตัวเราเองและทีมงานทุกคน เราคงไม่เน้นย้ำเรื่องเปิดโครงการหลายหมื่นล้าน เป็นอันดับ 1 อันดับ 2 เป็นที่รู้จักในเรื่องที่มีผลกำไรดี บริบทเหล่านี้อาจจะไม่ใช่ passion ของธนาสิริ…”

สิ่งที่โฟกัส บริบทที่อยากจะสร้าง คือ ธนาสิริเน้นย้ำทำสังคมให้ดี ทำธุรกิจยังไงให้ไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบต่อสังคมให้น้อยที่สุด

มองไกลออกไป 5 ปีข้างหน้า วิสัยทัศน์ของเขาต้องการยกระดับธนาสิริกรุ๊ปเป็น Lifetime Total Living Solution ให้ได้

“การมีพันธมิตรอนาบูกิ โคซัน ซึ่งเป็นบริษัทญี่ปุ่น แม้ว่าเขาจะเป็นบริษัทใหญ่อันดับ 7 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว แต่อนาบูกิก็มีธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับอสังหาฯ อีกมากมาย แต่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องให้บริการสุขภาพและผู้สูงอายุ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พันธมิตรหลักจะเข้ามาช่วยเราในการขับเคลื่อนหลาย ๆ อย่างในสังคมไทยของเราต่อไป ที่จะมุ่งสู่สังคมประชากรผู้สูงอายุ”

แตกพันธมิตรจับมือกันโต

สำหรับผลประกอบการปี 2565 ทำยอดขายได้ 1,422 ล้านบาท มีรายได้ 1,024 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตสูงถึง 89% เมื่อเทียบกับปี 2564 ประสิทธิภาพการทำกำไรสุทธิขยับจาก 9% เป็น 12.2% สูงกว่าปี 2564 เกิน 3 เท่าตัว

แผนธุรกิจปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% ทอนออกมาเป็นเป้ายอดขาย 1,800 ล้านบาท

ตั้งเป้ารายได้ 1,300 ล้านบาท

ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและขาย 5 โครงการ รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 198 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

“ยอดรายได้ปีที่แล้วถือว่าเติบโตสูงที่สุดตั้งแต่จัดตั้งบริษัทขึ้นมา เป็นการเริ่มต้นโมเมนตั้มที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 นี้ โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การเติบโตอย่างสมดุล ความน่าอยู่และยั่งยืน พร้อมด้วยการพัฒนาโครงการที่ต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรกลุ่มต่าง ๆ และการขยายธุรกิจ”

และ “…ขณะเดียวกัน ธนาสิริเน้นการพัฒนาโครงการที่สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ไม่ได้ต้องการแค่ฟังก์ชั่นของบ้าน แต่ต้องการบ้านที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย เราจะส่งมอบบ้าน และสังคมน่าอยู่ ให้เหมาะกับคนทุกวัย”

ลงทุนบ้าน/คอนโด 2-20 ล้าน

ถัดมา “จรัญ เกษร” ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ ธนาสิริ กรุ๊ป กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้การเติบโตในเชิงตัวเลขของยอดขายและรายได้เป็นไปตามเป้าหมายวางไว้นั้น มาจากการดำเนินธุรกิจผ่านกลยุทธ์ “THANA Green”

ถอดรหัส THANA Green ในมิติเชิงตัวเลขคือคนเก่ง ในมิติเชิงคุณค่าคือคนดี

ดังนั้น คำศักดิ์สิทธิ์ THANA Green จึงมีจุดเน้นตอบโจทย์ความคุ้มค่า ควบคู่คุณภาพในทุกโครงการที่พัฒนา เพื่อการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิต ในสังคมแห่งการแบ่งปัน ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของการทำธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เชิงตัวเลข

ควบคู่ไปด้วยคุณค่าของการอยู่อาศัยในแนวทาง “Total Green Real Estate Development-Service”

ทั้งนี้ แผนลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยปี 2566 เน้นโครงการบ้านแนวราบทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ มีแผนเปิดตัวใหม่ 4 โครงการ รวมมูลค่า 3,300 ล้านบาท

เรื่องใหม่ปีนี้ มีทั้งเปิดบนทำเลที่บริษัทมีความชำนาญในย่านจังหวัดนนทบุรี ควบคู่แตกทำเลไปสู่ทำเลมีศักยภาพสูง เป็นทำเลที่มีความต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง อาทิ โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกย่านบางนา

ไฮไลต์แผนธุรกิจอยู่ที่ธนาสิริกรุ๊ปเตรียมลงทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการแรกของบริษัท ราคา 1-2 ล้านบาทบวกลบ ทำเลอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟฟ้า

เบ็ดเสร็จ แผนเปิดตัวใหม่ 4 โครงการ 3,300 ล้านบาท กลยุทธ์การแข่งขันทำสินค้าตอบโจทย์ทุกเซ็กเมนต์ ราคาเริ่ม 2-20 ล้านบาท

โดยภาพจำของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์โครงการในเครือคือ “ธนาสิริ…เราดูแล”