โรดแมป SC 150,000 ล้าน ปี 2566 มุ่งสร้างคุณค่าสู่คนและโลก

เอสซี แอสเสท

“เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น” เป็นหนึ่งในบิ๊กแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่เดินก้าวข้ามโควิดได้อย่างสง่าผ่าเผย มีผลประกอบการตัวเลขสีเขียวพรึ่บจากโครงการบ้านแนวราบ

เรื่องใหม่ในปี 2566 เดินเกมเหนือชั้นอีกครั้ง ด้วยการวางแผนธุรกิจด้วยโรดแมปการลงทุนที่ตั้งเป้ารายได้ 5 ปี จำนวน 150,000 ล้านบาท

โรดแมป 5 ปี 1.5 แสนล้านบาท

โดย “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดวิสัยทัศน์การพัฒนาธุรกิจและองค์กร 5 ปี (2566-2570) จะขับเคลื่อนบนยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond เติบโตอย่างมีคุณภาพ แบบเหนือชั้นและยั่งยืน มุ่งสร้างคุณค่าสู่คนและโลก

กุญแจสำคัญอยู่ที่บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้ 4 แกนหลัก “ลูกค้า-พนักงาน-สิ่งแวดล้อม-องค์กร”

บรรทัดสุดท้ายของผลงานในปี 2570 ตั้งเป้ารายได้สะสมในช่วง 5 ปี รวมกัน 150,000 ล้านบาท

ในขณะที่ปี 2566 ท่ามกลางบรรยากาศพลิกฟื้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่วงการธุรกิจที่อยู่อาศัยดูเหมือนจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นปีที่ลงทุนเชิงรุกขนานใหญ่อีกระลอก โดย SC ประกาศพัฒนาโครงการใหม่ 25 โครงการ มูลค่ารวมกัน 40,000 ล้านบาท

บุกบ้านแนวราบ 2.5-150 ล้าน

เจาะลึกยุทธศาสตร์ SC Thriving Beyond 4 แกนหลัก พบว่า แกนหลักอันแรกคือ “ลูกค้า” เป็นจุดศูนย์กลางของการพัฒนาโครงการ มีรายละเอียดมหาศาลตั้งแต่ก่อนและหลังการขาย

เริ่มต้นจาก SC มุ่งมั่นส่งมอบสินค้าและบริการคุณภาพสูง พัฒนาสินค้าทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม สรรหาและคิดค้นนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยหลากหลายราคา รูปแบบการใช้ชีวิต และเจเนอเรชั่น เพื่อลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดี ไร้ความกังวลในการใช้ชีวิต

โฟกัสปี 2566 มีแผนลงทุนเปิดตัวใหม่รวม 25 โครงการ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านแนวราบ วางแผนเปิดใหม่ 22 โครงการ รวมมูลค่า 30,000 ล้านบาท เพื่อรักษาสถานะผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวตลาดกลาง-บน

โดยมีไฮไลต์โปรดักต์ที่ใช้สื่อสารการทำตลาดตามเซ็กเมนต์และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ

“#No1LuxuryHome” ปี 2566 เรื่องใหม่หมาดของ SC มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเปิดตัวแบรนด์บ้านหรูในเซ็กเมนต์ ultimate luxury และเป็นแบรนด์ใหม่ล่าสุด “95E1” (ไนน์-ตี้-ไฟว์-อีสต์-วัน) ราคาเริ่มต้นสูงสุดที่เคยเปิดขายมา หลังละ 100 ล้านบาท จำนวนจำกัดเพียง 10 ยูนิต มูลค่าโครงการ 970 ล้านบาท

“#OneSizeDoesNotFitAll” มีการขยายผลต่อยอดแนวคิด “บ้านคนโสด” ที่มีผลตอบรับอย่างดีมาก ปี 2566 SC เปิดตัว #บ้านเกมเมอร์ (Gamer’s Home) บ้านที่ร่วมออกแบบโดยเกมเมอร์ชื่อดัง Willcomeback และ MNJ TV เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านในสายอาชีพยุคใหม่มาแรง อย่าง streamer หรือ content creator ทั้งหลาย

โครงการพร้อมเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ณ โครงการ Venue ID มอเตอร์เวย์-พระราม 9 ราคาเริ่มต้น 14.29 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีโครงการพัฒนาบ้านที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ introvert และ extrovert ในอนาคต

“#SCHomesForAll” สร้างบ้านตอบโจทย์ลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มราคา โดยปี 2566 SC จะมีสินค้าบ้านเปิดขายในราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาท ไปจนถึงหลังละ 150 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวบ้านซีรีส์ใหม่ของแต่ละ subbrand เพื่อลงสนามแข่งขันและตอกย้ำความเป็นผู้นำบ้านเดี่ยว

เปิดคอนโดฯใหม่ 3 ทำเล

ทั้งนี้ โครงการใหม่มูลค่า 40,000 ล้านบาทนั้น วางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียม 3 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 10,000 ล้านบาท รายละเอียดรัว ๆ คือ

“เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่” เน้นพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นส่วนหนึ่งของ living solutions เพื่อประสบการณ์การพักอาศัยที่ดีขึ้น ในสังคมที่เน้นความยั่งยืน บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ ย่านรัชดาฯ-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ มูลค่าโครงการ 5,500 ล้านบาท ราคาเริ่ม 2 ล้านต้น ซึ่งเป็น segment ใหม่ของ SC

กับทำเลเกษตร-ศรีปทุม ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม ติดรถไฟฟ้า 0 เมตร มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เน้นงานดีไซน์และการออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อคนเมืองรุ่นใหม่

การลงทุนภายใต้บริษัทลูก พัฒนาโครงการ “คอนโด SCOPE ประสานมิตร” เจาะกลุ่มลูกค้า international premium ที่ให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและดีไซน์ ในระดับ world-class ใช้ชีวิตในแบบ “Live the finest life-ชีวิตที่สุขสบายและสวยงาม” พรั่งพร้อมไปด้วยบริการระดับ premium ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท

บ้านอัจฉริยะ 5,000 ครัวเรือน

นอกจากการมุ่งพัฒนาสินค้าบ้านและคอนโดฯ คุณภาพสูงที่มีฟังก์ชั่นตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมา SC ยังคงสานต่อการสรรหาและคิดค้นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีในการส่งมอบ living solutions แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน เพื่อลูกค้าจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับแผนกลยุทธ์ในปี 2566 ประกอบด้วย

“ติดตั้ง smart solution” ชุดเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในบ้านและคอนโดฯ ทั้งหมด 24 รายการ ให้กับลูกค้า SC Asset ตามเป้าหมายคือไม่ต่ำกว่า 5,000 ครัวเรือนในปี 2566

“เปิดตัว Morning Coin” เชื่อมต่อลูกค้ากับโลกแห่งสิทธิพิเศษแบบเหนือชั้น ด้วยนวัตกรรม blockchain โดยมีเป้าหมายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น และมีความมั่นใจปลอดภัยในคอมมิวนิตี้ที่ดีของ “รู้ใจคลับ” พร้อมใช้งานกลางปี 2566 นี้

Inside SC องค์กรในฝันเจน Z

แกนหลักที่ 2 “พนักงาน” นโยบายบริษัทส่งเสริมพนักงาน SC เจริญก้าวหน้า ได้ทำงานที่สร้างคุณค่า ปลดปล่อยศักยภาพได้อย่างเต็มที่ ซึ่ง SC ให้ความสำคัญกับการลงทุนในทรัพยากรบุคคลเสมอมา เพราะบุคลากรในองค์กร คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ SC ลงทุนใน infrastructure ต่าง ๆ เชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้ลดเวลาในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รองรับการเติบโตของธุรกิจ

นอกจากนี้ มีการสร้างประสบการณ์ให้พนักงานมากกว่าแค่การทำงานรูปแบบเดิม ๆ มีการใช้ morning coin และระบบการสะสม NFTs ด้วยเทคโนโลยี blockchain เพื่อคนทำงานได้พัฒนาตนเอง ปลดปล่อยศักยภาพของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำงานอย่างมีคุณค่า มีความภาคภูมิใจพร้อมเติบโตไปกับองค์กร พร้อมใช้งานมีนาคม 2566 นี้

เรื่องใหม่ล่าสุดคือการเปิดตัว “Inside SC” บอกเล่าเรื่องราวในองค์กร เพื่อการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพมาร่วมงานกับ SC อย่างยั่งยืน การันตีด้วยการคว้ารางวัลอันดับที่ 17 จาก 50 องค์กรที่ทำงานในฝัน โดยเป็นอันดับหนึ่ง ในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ จัดโดย WorkVenture

นิวซีรีส์ “บ้านโลว์คาร์บอน”

แกนหลักที่ 3 “สิ่งแวดล้อม” โดย SC ประกาศพันธกิจ #SCeroMission ดำเนินธุรกิจเพื่อดูแลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น ก๊าซเรือนกระจกลดลง ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ คิดค้นนวัตกรรม และการจับมือร่วมกับคู่ค้าชั้นนำ ที่มีแนวคิดในการมุ่งลดก๊าซเรือนกระจก ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการ “ออกแบบ-สร้าง-ใช้” ตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ โดยมี 8 ภารกิจย่อยครอบคลุมครบถ้วน

วิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม SC ตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 25% ภายในปี 2573

ควบคู่กับตั้งแต่ปลายปี 2565 ได้มีการตั้งทีมพัฒนาการออกแบบ SC #บ้านLowCarbon ด้วยการทำการวิจัยจำลองการใช้พลังงานของบ้านพักอาศัย ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง สาขาวิชาสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบสินค้าที่อยู่อาศัยที่ลดการทำร้ายโลก ลดปริมาณการใช้พลังงาน ลดค่าใช้จ่าย เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีขึ้นของลูกค้าในอนาคต

โตด้วยรายได้ขาย+รีเคอริ่ง

แกนหลักที่ 4 “องค์กร” วิสัยทัศน์ในการสร้างองค์กรเติบโตจากหลากหลายเครื่องยนต์ธุรกิจ ทั้งบนธุรกิจหลัก engine 1 และธุรกิจ engine 2 ที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (recurring income) ตั้งเป้าเพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี

สะท้อนผ่านแผนธุรกิจในปี 2566 SC ตั้งเป้าตัวเลขสำคัญ ดังนี้

“ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท” คิดเป็นอัตราเติบโต 23% แบ่งเป็น บ้านแนวราบ 65% และคอนโดฯ 35%

“ตั้งเป้ารายได้รวม 25,000 ล้านบาท” เติบโต 16% ทั้งจาก โครงการเพื่อขาย และธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ในสัดส่วน 95 : 5 ตามลำดับ

“ตั้งเป้าลงทุน 25,000 ล้านบาท” แบ่งสัดส่วน 80% ลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดฯ อีก 20% ในธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ

ทั้งนี้ SC ขยายผลกลยุทธ์เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน วางแผนเพิ่มการลงทุน และเริ่มดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจโรงแรมและออฟฟิศบิลดิ้ง

เริ่มจากการเปิดตัวโรงแรม “YANH ราชวัตร” รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Workcation Hotel” รองรับวิถี remote working ที่ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด พร้อมเปิดให้เข้าพักแล้วในเดือนมีนาคม 2566 เป็นต้นไป

บริษัทพัฒนาแบรนด์โรงแรมใหม่ บนถนนสุขุมวิท 29 มูลค่าลงทุน 2,500 ล้านบาท และมีแผนลงทุนโรงแรมในพัทยา เพื่อไปให้ถึงเป้ารวมจำนวน 1,000 keys (ห้องพัก)

ธุรกิจออฟฟิศบิลดิ้ง ปัจจุบัน SC บริหารพื้นที่อาคารวมกันถึง 120,000 ตารางเมตร

ล่าสุด หลังจากการประกาศความร่วมมือกับบริษัท Flash Express ในช่วงปลายปี 2565 แผนธุรกิจปีนี้ SC วางแผนขยายคลังสินค้าตั้งเป้าพัฒนาให้มีพื้นที่รวมกัน 1 ล้านตารางเมตรภายในปี 2573

“SC Thriving Beyond คือเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนใน 5 ปีนี้ของ SC หัวใจสำคัญคือการสร้างคุณค่า เพื่อเติบโตร่วมกันไปกับสิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจของ SC คุณค่าจะกลับมาสร้างกำไรให้องค์กร และกำไรจะกลับไปสร้างคุณค่าให้ผู้คนรอบข้างต่อเนื่องอย่างยั่งยืน”