แห่งเดียวในไทย! สะพานลอยข้ามทางลอดพัทยาพร้อมลิฟต์หน้ามูลนิธิพระมหาไถ่ จ.ชลบุรี

วันที่ 16 พ.ค. 2562 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานลอยข้ามทางลอดพัทยากลาง บริเวณหน้ามูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีนายกฤชเทพ สิมลี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์และความเป็นมาของสะพานลอยดังกล่าว โดยมีนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวต้อนรับ ณ บริเวณทางลอดพัทยากลาง จังหวัดชลบุรี

นายกฤชเทพ สิมลี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมได้ดำเนินการก่อสร้างทางลอดพัทยากลางและเปิดใช้งานเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด เพิ่มความปลอดภัย บริเวณทางแยกถนนพัทยากลาง เพิ่มศักยภาพของเมืองพัทยา ส่งผลให้เกิดความสะดวกปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

นอกจากนี้ยังได้ตระหนักถึงการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้สามารถดำรงชีวิตได้สะดวกมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ทช.จึงได้จัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยข้ามทางลอดพัทยากลางบริเวณหน้ามูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้พิการได้รับความสะดวกสบายในการใช้งานสะพานลอยดังกล่าว

จึงได้จัดให้มีลิฟต์โปร่งแสงและสิ่งอำนวยความปลอดภัยสำหรับผู้พิการ ซึ่งผู้พิการที่จะข้ามไปทำธุระฝั่งตรงข้ามหรือจะมาที่มูลนิธิพระมหาไถ่ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจ้างรถโดยสารในการข้ามฝั่งเหมือนแต่เดิม โดยลักษณะของสะพานลอยฯ เป็นแบบโครงเหล็กถัก ความยาว 42.780 เมตร พร้อมก่อสร้างลิฟต์แก้วแบบโปร่งแสง

เพื่อให้บุคคลภายนอกสามารถเห็นผู้พิการขณะใช้ลิฟต์ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินและมีแผงปุ่มกดสำหรับผู้พิการ/อักษรเบรลล์ ปุ่มกดกระดิ่ง ปุ่มกดโทรศัพท์ช่วยเหลือ กล้อง CCTV เพื่อส่งสัญญาณถึงอาคารควบคุมพัทยากลางในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งติดตั้งไซเรนหน้าลิฟต์ทั้งสองชั้น ติดตั้งระบบ UPS สำรองไฟ หากเกิดไฟฟ้าดับ ลิฟต์จะเลื่อนลงมาชั้นล่างเพื่อเปิดประตูให้คนออกจากลิฟต์
ได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันสะพานลอยฯ ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการแล้ว
โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 14.581 ล้านบาท

มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เป็นสถานที่สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในงานที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ ได้แก่ ส่งเสริมให้คนพิการได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ มีสถานศึกษาสำหรับคนพิการเพื่อทำการศึกษา วิจัย ค้นคว้า เผยแพร่เกี่ยวกับการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาในงานที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ ให้ความร่วมมือกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย