ศาลปกครองกลาง ยกคำร้อง’กลุ่มซี.พี.และพันธมิตร’ ปมร้องไม่รับซองโครงการสนามบินอู่ตะเภา

แฟ้มภาพ
ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของกลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร

เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ในคดีหมายเลขดำที่ ๗๕๗/๒๕๖๒ ระหว่าง บริษัทธนโฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ ๑ บริษัทบี.กริม จอยน์ เว็นเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ ๒ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ ๓ บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้ฟ้องคดีที่ ๔ และบริษัทโอเรียนท์ซัคเซส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ฟ้องคดีที่ ๕ คณะกรรมการคัดเลือกของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าฟ้องว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าในนาม “กลุ่มกิจการค้าร่วมบริษัท ธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร” ได้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนกับรัฐในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีได้ออกหลักฐานการยื่นซองข้อเสนอให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าแล้ว โดยข้อเสนอทั้งหมดประกอบด้วย เอกสารซองที่ไม่ปิดผนึก เอกสารซองที่ ๑ คุณสมบัติทั่วไป เอกสารซองที่ ๒ ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ เอกสารซองที่ ๓ ข้อเสนอด้านราคา และเอกสารซองที่ ๔ ข้อเสนออื่น ๆ รวม ๑๑ กล่อง และกล่องสำเนา แต่ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือแจ้งผลการยื่นข้อเสนอว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับข้อเสนอในส่วนของซองที่ ๒ ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนธุรกิจ กล่องที่ ๖ และซองที่ ๓ ข้อเสนอด้านราคา กล่องที่ ๙ เนื่องจากเป็นเอกสารที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นข้อเสนอ ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว พร้อมทั้งมีคำขอคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีรับซองข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไว้พิจารณาตามขั้นตอนการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนต่อไป

ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำขอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า เป็นคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ซึ่งศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการทุเลาการบังคับได้เมื่อมีองค์ประกอบครบทั้งสามประการ คือ
๑. กฎหรือคำสั่งทางปกครองที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนั้นน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ๒. การให้กฎหรือคำสั่งทางปกครองดังกล่าวมีผลใช้บังคับต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไข
ในภายหลัง และ ๓. การทุเลาการบังคับตามกฎหรือคำสั่งทางปกครองนั้นไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่การบริการสาธารณะ ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา
คดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบข้อ ๗๒ วรรคสาม แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยมีปัญหาที่ต้องพิจารณาในประการแรกว่า มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไว้พิจารณา น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยที่เอกสารการคัดเลือกเอกชน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ ข้อ ๓๑ (๑) กำหนดว่า กองทัพเรือจะเปิดให้มีการรับซองข้อเสนอในวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๙.๐๐ นาฬิกา และปิดการรับซองในวันเดียวกัน เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา และ (๓) กำหนดว่า ผู้ถูกฟ้องคดีจะไม่รับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาการยื่นซองเอกสารข้อเสนอตามที่ระบุในข้อ ๓๑ (๑) ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ากับผู้ยื่นข้อเสนออีกสองรายได้ไปยังสถานที่รับซองข้อเสนอและลงทะเบียนก่อนเวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา

อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนดังกล่าวเป็นเพียงการแจ้งในเบื้องต้นว่า ได้ไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอและประสงค์ยื่นข้อเสนอเท่านั้น โดยการรับข้อเสนอจะครบถ้วนตามขั้นตอนก็เมื่อผู้ยื่นข้อเสนอได้ส่งมอบซองข้อเสนอและกล่องเอกสารให้แก่เจ้าหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีก่อนเวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงในชั้น
ไต่สวนว่า ผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายื่นส่งเอกสารกล่องที่ ๖ กับกล่องที่ ๙ เกินเวลาปิดรับซอง โดยแสดงพยานหลักฐานเป็นภาพถ่ายบุคคลยกกล่องเอกสารดังกล่าวไปถึงจุดลงทะเบียนในเวลาประมาณ ๑๕.๐๙ นาฬิกา และผู้ฟ้องคดีทั้งห้ายอมรับตามคำแถลงชี้แจงเพิ่มเติมว่า เอกสารข้อเสนอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า กล่องที่ ๖ และกล่องที่ ๙ ไปถึงห้องรับรองชาวต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพเรือ ในเวลา ๑๕.๐๘ นาฬิกา เหตุที่ล่าช้าเนื่องจากในวันดังกล่าวการจราจรติดขัดมาก ข้อเท็จจริงในชั้นนี้เป็นอันรับฟังได้ว่า เอกสารข้อเสนอ กล่องที่ ๖ และกล่องที่ ๙ ของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าไปถึงสถานที่รับซองข้อเสนอภายหลังกำหนดเวลาปิดรับซองข้อเสนอ ซึ่งข้อ ๓๑(๓) ของเอกสารการคัดเลือกเอกชน กำหนดห้ามผู้ถูกฟ้องคดีรับซองเอกสารข้อเสนอที่ยื่นภายหลังกำหนดเวลาดังกล่าว ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับซองข้อเสนอดังกล่าว จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นคำสั่งที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนการที่ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าอ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ถือเอากำหนดเวลายื่นและรับซองข้อเสนอเป็นสาระสำคัญและได้ขยายระยะเวลาการรับซองข้อเสนอโดยปริยายนั้น ประเด็นดังกล่าวเป็นข้อโต้แย้งที่ศาลจะต้องพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเพื่อวินิจฉัยในเนื้อหาคดีต่อไป เมื่อในชั้นนี้ยังรับฟังไม่ได้ว่าคำสั่งพิพาทน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กรณีก็ไม่จำต้องพิจารณาเงื่อนไขแห่งการมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาประการอื่นอีกต่อไป เนื่องจากถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ครบองค์ประกอบแห่งเงื่อนไขทั้งสามประการที่ศาลจะมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการมีผลของคำสั่งไม่รับซองข้อเสนอบางส่วนของผู้ถูกฟ้องคดี ตามหนังสือสำนักงานบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ ด่วนมาก ที่ กพอ.ทร.๑๘๒/๒๕๖๒ ลงวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ ตามคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า

จึงมีคำสั่งยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของผู้ฟ้องคดีทั้งห้า

คลิกอ่านที่นี่…  กลุ่มซี.พี. และพันธมิตร ยื่นศาลปกครองไม่เห็นพ้องด้วยกับมติ และคำสั่งของบอร์ดคัดเลือกโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก