ลุ้นศาลปกครองหย่าศึกประมูล “นภา vs ITD” ปมไฮสปีดไทยจีน สัญญา 3-1 วันนี้

ลุ้นศาลปกครองกลางผ่าทางตันประมูลไฮสปีดไทยจีน สัญญา 3-1 แก่งคอย-กลางดง/ปางอโศก-บันไดม้า หลัง “นภา-ทุนมาเลย์” งัดข้อ “อิตาเลียนไทย-ทุนจีน” ทั้งยื่นอุทธรณ์กรมบัญชีกลาง-ยื่นฟ้องศาล

วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.45 น. ศาลปกครองกลางจะนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด (อุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา) คดีการประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงฯ งานสัญญาที่ 3-1 งานโยธา ช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก-บันไดม้า ณ ห้องพิจารณาคดี 10 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

สำหรับคดีนี้ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เทน เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จำเลยที่ 1, คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง จำเลยที่ 2 และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง จำเลยที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้สืบเนื่องจากการประมูลงานโยธารถไฟความเร็วสูงไทยจีน ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา สัญญาที่ 3-1 งานโยธาช่วงแก่งคอย-กลางดง และช่วงปางอโศก–บันไดม้า ระยะทาง 30 กม.ราคากลาง 11,386 ล้านบาท ซึ่งในครั้งแรกคณะกรรมการคัดเลือกได้ให้ บริษัท บีพีเอ็นพี จำกัด (ประกอบด้วย BINA จากมาเลเซีย-นภาก่อสร้าง) เป็นผู้ชนะ โดยเสนอราคา 9,330 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 2,056 ล้านบาท และเฉือนราคาเสนอของบริษัท ITD-CREC No.10JV (ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตร ซีอาร์อีซี (CREC: China railway Engineering corporation) ไปเพียง 19 ล้านบาท

แต่ต่อมาคณะกรรมการคัดเลือกได้ตัดสิทธิ์บริษัทบีพีเอ็นจี จำกัด เพราะไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติจากเหตุเอกสารการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ไม่ถูกต้อง และให้บริษัท ITD-CREC No.10JV เป็นผู้ชนะ ทางบีพีเอ็นพีจึงยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ซึ่งอุทธรณ์เป็นผล คณะกรรมการคัดเลือกจึงให้บีพีเอ็นพีกลับมาเป็นผู้ชนะโครงการอีกครั้งหนึ่ง

ทาง ITD-CREC No.10JV จึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางแต่ไม่เป็นผล จึงยื่นเรื่องถึงศาลปกครองกลาง

และเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นในที่สุด