คิกออฟ “M-FLOW” นำร่องทดสอบระบบ ต.ค. นี้ ประเดิม “ด่านธัญบุรี-ทับช้าง”

m-flow

ตุลาคมนี้มาแน่ “M-FLOW” นำร่องก่อนที่มอเตอร์เวย์สาย 9 ด่านธัญบุรี – ทับช้าง ก่อนขยายไปทางด่วนฉลองรัช – มอเตอร์เวย์สาย 7 ในปี 66 “ทางหลวง”จ่อเปิดรับสมัครลอตแรกผ่านแอป-เว็บไซด์ ต.ค นี้เช่นกัน เผยเป็น Pre-Paid เปิดกว้างทุกช่องทางชำระเงิน ฮึ่ม! ใช้ทางแต่ไม่จ่ายเลยถูกปรับ 10 เท่า

วันที่ 15 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ด่านเก็บเงินค่าธรรมเนียมผ่านทางธัญบุรี 2 (ขาออก) เพื่อตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายทดสอบระบบ M-Flow เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการ

จากนั้นเดินทางต่อมายังอาคารชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ศูนย์ควบคุมกลาง (CCB ลาดกระบัง) เพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ความพร้อมของการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow ในวันนี้ เป็นการตรวจความพร้อมทั้งในส่วนของตัวอุปกรณ์และการเชื่อมต่อกับระบบควบคุมรายการผ่านทางในระดับช่องทาง รวมไปถึงการส่งข้อมูลรถที่ผ่านทางเข้าไปยังระบบ Single Platform ที่อาคารศูนย์ควบคุมฯ ด้วย

เปิด Soft Opening ต.ค. 64

ซึ่งพบว่าโดยรวมของระบบมีความพร้อมสำหรับการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการแล้ว โดยกรมมีกำหนดที่จะทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ในช่วงเดือนตุลาคม 2564 นี้ โดยคาดว่าระบบ M-Flow จะพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบในปี 2565 โดยเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ครบทั้ง 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ด่านทับช้าง 2 ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 ในช่วงเดือนมกราคม ปี 2565 โดยอัตราค่าผ่านทางแบ่งไว้ 3 ประเภทรถคือ 1. รถ 4 ล้อ 30 บาท 2. รถ 6 ล้อขึ้นไป 50 บาท และรถ 10 ล้อขึ้นไป 70 บาท

จากนั้นจะเป็นคิวของทางพิเศษในกำกับของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้แก่ ทางพิเศษฉลองรัช ระยะแรก จำนวน 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจตุโชติ ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านสุขาภิบาล 5-2 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565

ส่วนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 กรุงเทพฯ-บ้านฉาง และทางพิเศษฉลองรัช ระยะที่ 2 บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก คาดว่าจะสามารถเปิดทดสอบระบบได้ในช่วงปี 2566

M-FLOW ตรวจเข้ม 3 ชั้น

สำหรับระบบการอ่านป้ายทะเบียนนั้น จะมีระบบตรวจเช็ค 3 ชั้น เพื่อความแม่นยำ คือ

  1. กล้องตรวจจับป้ายทะเบียนอัจฉริยะ จะยิงเลเซอร์ตรวจจับป้ายทะเบียนรถทันที มีประสิทธิภาพตรวจจับรถได้สูงสุด 40 คัน/นาที และตรวจจับความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม./คัน
  2. ระบบหลังบ้านที่จะมีพนักงานคอยตรวจจับคัดกรองเป็น Manual License Plate Recognition : MLPR
  3. ระบบ RFID ซึ่งผู้ใช้ทางจะได้รับสติ๊กเกอร์ ติดไว้บริเวณกระจกรถ ตรวจอีกชั้นหนึ่ง

ส่วนปัญหาด้านทัศนวิสัย เช่น มีฝนตกหนัก หมอกหนา มีฝุ่นควัน นั้น ได้มีการทดสอบระบบกล้องพบว่า ขณะนี้มีประสิทธิภาพความแม่นยำในการตรวจจับได้ถึง 98.5% และหากมีรถใช้ความเร็วเกิน 160 กม./ชม. ฝ่าเข้าไป จะมีระบบแจ้งเตือนเข้าไปที่ระบบหลังบ้านทันที แล้วจากนั้นจะประสานตำรวจทางหลวงดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ผมเชื่อว่า ระบบ M-Flow จะใช้ทั้งมอเตอร์เวย์และทางด่วนเป็นการนำเทคโนโลยี สมัยใหม่ เพื่อให้ประเทศก้าวสู่คามเป็นดิจิทัล และเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดหน้าด่าน รถสามารถผ่านดานได้เร็วขึ้น 5 เท่าจากระบบเงินสดหรือ Easy Pass / M-Pass ที่รถผ่านได้ 400 คัน/ช่อง เป็น 2,000 คัน/ช่อง

อีกทั้ง ยังเป็นการบริหารรูปแบบ New Normal ไม่มีการสัมผัส ไม่มีความเสี่ยงโควิด-19 หรือเชื้อโรคอื่นๆ การชำระค่าบริการสะดวก ทั้งระบบพรีเพด หรือ โพสต์เพด ในหลายช่องทาง ไม่ต้องจ่ายเงินสด เติมเงิน หรือซื้อคูปอง เหมือนเดิม” นานศักดิ์สยามกล่าว

m-flow

ใช้ฟรีไม่จ่ายเลย ปรับ 10 เท่า

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้ใช้ทาง จงใจฝ่าฝืนการชำระค่าผ่านทาง จะมีระบบติดตาม ซึ่งกรมทางหลวง กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตำรวจทางหลวง จะร่วมกันบังคับใช้กฎหมาย โดยมีโทษปรับ 10 เท่า ของอัตราค่าบริการที่ติดค้าง และในอนาคตจะมีการปรับแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษให้สูงขึ้นเหมือนมาตรฐานสากล

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำหรับการทดสอบแบบเสมือนจริงนั้น จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อทดลองใช้บริการและมีส่วนร่วมในการทดสอบเสมือนจริง นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้เตรียมที่จะมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ (Promotion) เพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้ทางเข้ามาใช้ระบบ M-Flow ให้มากที่สุด

รับจ่ายแบบ Pre-Paid ได้

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้ออกแบบระบบ M-Flow ในรูปแบบของ Single Platform System เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการทางพิเศษทั่วประเทศได้บน Platform เดียวกัน โดยบูรณาการเทคโนโลยีและการให้บริการอย่างเป็นระบบ และมีมาตรฐานทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยในระดับสากล

รวมไปถึงการพัฒนาระบบให้รองรับความต้องการใช้งาน และตอบโจทย์ Lifestyle ของประชาชนในยุคดิจิทัลซึ่งเป็นสังคมไร้เงินสด ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าผ่านทางแบบอัตโนมัติด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต การหักบัญชีธนาคารแบบอัตโนมัติ การตัดชำระผ่านระบบ Pre-Paid เช่น M-Pass Easy-Pass และ Wallet อื่น ๆ ในอนาคต

แต่ในขณะเดียวกันก็จะยังคงมีบริการรับชำระเงินผ่านช่องของทางธนาคาร และ Counter Service ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่าน QR Code ด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง

เปิดรับสมัคร ตุลาคมนี้

ผู้สนใจสมัครใช้บริการในช่วงทดสอบระบบเสมือนจริงแบบครบวงจร (Soft Opening) ระบบ M-Flow ในเดือนตุลาคม 2564 โดยสามารถลงทะเบียนผ่านทางช่องทาง ดังนี้ WebSite : www.mflowthai.com
Mobile Application : Mflow จุดบริการที่กรมทางหลวงกำหนด

ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลและรายละเอียดการลงทะเบียนเพิ่มเติม ผ่านทาง Facebook : M-Flow