“ภวรัญชน์ อุดมศิริ” คีย์แมน Plug in ตลาดบ้านเดี่ยวค่าย FPT

ภวรัญชน์ อุดมศิริ คีย์แมน Plug in ตลาดบ้านเดี่ยวค่าย FPT

เขาไม่ให้บอกว่าโปรเจ็กต์บ้านเดี่ยวโฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดพรีเซล มียอดขายทะลัก 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการ

ความสำเร็จของสินค้าบ้านเดี่ยวมาจากคีย์คอนเซ็ปต์สั้น ๆ “บ้าน 67 วาฟังก์ชั่นเทียบเท่าบ้าน 100 วา” บนราคา 8-12 ล้านบาท ยอดขายทะลักในช่วงพรีเซลจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน

แพ้-ชนะสตาร์ตกันที่ดีไซน์

“ประชาชาติธุรกิจ” มีนัด Exclusive Interview Distancing กับคีย์แมนบ้านแนวราบของยักษ์อสังหาริมทรัพย์อีกรายของเมืองไทย “จ๊อบ-ภวรัญชน์ อุดมศิริ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการที่อยู่อาศัย (กรุงเทพฯและปริมณฑล) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FPH ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ “FPT-เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย”

ก่อนหน้านี้ “ภวรัญชนม์” เป็นผู้บุกเบิกตลาดทาวน์โฮมแบรนด์ “โกลเด้นทาวน์” ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนแบรนด์ติดตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลยันต่างจังหวัด รวมทั้งส่งแบรนด์บ้านแฝด “นีโอโฮม” ขึ้นไปอยู่ในทำเนียบแถวหน้าเช่นกัน

คิวล่าสุดจึงได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาปลุกปั้นตลาดบ้านเดี่ยวโดยลอนช์แบรนด์เดิม “แกรนดิโอ” แต่เป็นแกรนด์ดิโอนิวซีรีส์ โดยนำเคล็ดลับความสำเร็จจากการปฏิวัติการออกแบบทาวน์โฮม-บ้านแฝด มาสู่การนำเสนอการออกแบบเพื่อพลิกโฉมบ้านเดี่ยวอีกครั้งในปี 2564

จับสัญญาณ “พอร์ตระเบิด”

อ้างอิงดาต้าเบสตลาดบ้านแนวราบของ “AREA-เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทแอฟแฟร์ส” 4 ปี (2561-ครึ่งปีแรก 2564) พื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มาร์เก็ตแชร์ 100% ของตลาดที่อยู่อาศัยพบว่า

ทาวน์เฮาส์ขยายตัวแต่ไม่มากนัก จาก 17% ในปี 2561 เป็น 20%, 23% และ 22% ตามลำดับ

บ้านแฝด ส่วนแบ่งตลาดถือว่าค่อนข้างเล็ก เพราะเป็นสินค้าทดแทนในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจจึงจะได้เห็นออกมาสู่ตลาดเยอะหน่อย ตัวเลขจึงเตาะแตะ 1 ดิจิต โดยปี 2561 มีส่วนแบ่ง 5% และ 5%, 7%, 6% ตามลำดับ

ขณะที่บ้านเดี่ยวในยุคก่อนโควิด (2561-2562) มีส่วนแบ่งตลาด 19% ในปี 2561 และ 22% ในปี 2562 ย่างเข้าสู่ยุคโควิดปี 2563-2564 กลับกลายเป็นว่าส่วนแบ่งตลาดเด้งขึ้นไปอยู่ที่33% ต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน

หมายความว่าสินค้าบ้านเดี่ยวชนะตลาดในยุคโควิด ถึงแม้จะนำส่วนแบ่งตลาดของทาวน์โฮมกับบ้านแฝดรวมกันก็ยังสู้บ้านเดี่ยวไม่ได้

2565-2566 ปลั๊กอินบ้านเดี่ยว

กลับมาดูพอร์ตบ้านเดี่ยวของ FPH กันบ้าง ซึ่งต้องเริ่มต้นทำความเข้าใจก่อนว่า FPT บริษัทแม่มีฐานบัญชาการในสิงคโปร์ ดังนั้น การทำธุรกิจจึงนับปีปฏิทินธุรกิจตามอย่างสิงคโปร์

โดย 4 ไตรมาสจะนับเหลื่อมกับปีปฏิทิน กล่าวคือ ปีธุรกิจจะเริ่มต้นไตรมาส 1 ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม ไตรมาส 2-3-4 นับถัดไปไตรมาสละ 3 เดือน

สรุปว่าสัดส่วนรายได้ปี 2564 ของ FPH ครบ 4 ไตรมาสเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 11,173 ล้านบาท นำโดยทาวน์เฮาส์ 43% ยอดรายได้ 4,771 ล้านบาท ถัดมา บ้านเดี่ยว 22% 2,476 ล้านบาท, บ้านแฝด 21% 2,323 ล้านบาท และรายได้บ้านแนวราบต่างจังหวัด 14% 1,573 ล้านบาท

จะเห็นว่าเมื่อเทียบกับเทรนด์ตลาดรวมที่ “บ้านเดี่ยวชนะตลาด” แต่เฟรเซอร์สฯโฮมยังมีมาร์เก็ตแชร์ไม่มากนักเพียงปีละ 2,000 กว่าล้านบาทในตลาดรวม และสัดส่วน 22% ของรายได้ทั้งบริษัท

นำไปสู่แผนลงทุนปี 2565 (ตุลาคม 2564-กันยายน 2565) เตรียมเปิดตัวใหม่ 17 โครงการ มูลค่ารวม 22,234 ล้านบาท คราวนี้สลับขั้วใหม่ โดยเพิ่มบทบาทพอร์ตบ้านเดี่ยวเป็น 10 โครงการ 16,240 ล้านบาท, ทาวน์โฮม 4 โครงการ 3,443 ล้านบาท, ตลาดต่างจังหวัด 2 โครงการ 1,836 ล้านบาท และบ้านแฝด 1 โครงการ 715 ล้านบาท

ขณะที่เป้ารายได้ปี 2565 บริษัทต้องการยอดเติบโต 16% ขยับขึ้นมาเป็น 13,000 ล้านบาท โดยเพิ่มบทบาทพอร์ตบ้านเดี่ยวจาก 22% ขึ้นมาเป็น 30% ที่รายได้ 3,820 ล้านบาท และปี 2565 แบ่งพอร์ตรายได้เป็น 5,000 ล้านบาท

เปิด 10 โครงการ 1.6 หมื่นล้าน

ทั้งนี้ “แกรนดิโอ” เป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวที่มีการพัฒนาในยุค Gen 1 ภายใต้พอร์ตเคแลนด์ (กรุงเทพบ้านและที่ดิน) Gen 2 ในยุคโกลเด้นแลนด์ มีระดับราคา 10-25 ล้านบาท

ล่าสุดภายใต้ชายคา FPT จึงเป็นแกรนดิโอ Gen 3 บ้านโฉมใหม่ โดยไตรมาส 1 ของ FPT (ตุลาคม-ธันวาคม 2564) เปิดตัวใหม่แล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,700 ล้านบาท

ได้แก่ 1.แกรนดิโอ สาทร ทำเลต้นถนนกัลปพฤกษ์ ระยะทาง 6 กิโลเมตร เดินทางเข้าถึงถนนสาทร สีลม บนพื้นที่ 54 ไร่ จำนวน 189 หลัง มูลค่าโครงการตัวเลขกลม ๆ 3,000 ล้านบาท (อีเวนต์เปิดพรีเซลยอดขายวิ่งปรู๊ด 1 ใน 3 ของมูลค่าโครงการ)

2.แกรนดิโอ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 อยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 30 ใกล้ทางด่วน บนพื้นที่ 28 ไร่ จำนวน 96 หลัง และ 3.แกรนดิโอ 2 วิภาวดีรังสิต ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการแรก ทำเลติดถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้จุดขึ้นโทลล์เวย์ 27 ไร่ จำนวน 112 หลัง

โดย 10 โครงการบ้านเดี่ยว มูลค่ารวม 16,240 ล้านบาท วางแผนปักหมุดบนทำเลวิภาวดีรังสิต 2 โครงการ, รัตนาธิเบศร์, วิภาวดี, รามอินทรา, บางนา, สาทร, สุขุมวิท, สุขสวัสดิ์ และพระราม 2

รีดีไซน์ 67 วาฟังก์ชั่น 100 วา

“ภวรัญชน์” เปิดโมเดลทำสงครามตลาดบ้านเดี่ยวว่า ราคาจับตั้งแต่ 8-20 ล้านบาท แต่ฐานลูกค้าเป้าหมายหลักอยู่ที่ 8-12 ล้านบาท โดยแบบบ้านมาตรฐานมี 3 แบบสไตล์ new art deco

ประกอบด้วย บ้านไซซ์ L “ลูเซิร์น” บนที่ดินเริ่ม 67 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 297 ตารางเมตร ฟังก์ชั่น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, double volume foyer, ห้องรับแขก, ห้องทานอาหาร, ห้องทำงาน, สระว่ายน้ำส่วนตัว, ห้องครัว, ห้องซักตากรีด, ห้องแม่บ้าน, ส่วนพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ, ที่จอดรถ 3 คัน

บ้านไซซ์ M “มิลาโน” บนที่ดิน 58-60 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 235 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นเหมือนไซซ์ L แต่ที่จอดรถ 2 คัน และไม่มีสระว่ายน้ำ

และบ้านไซซ์ S “เซียนา” บนที่ดินเริ่ม 50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 202 ตารางเมตร ประกอบด้วย 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, foyer, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องครัว, ห้องซักตากรีด, ส่วนพักผ่อนชั้นบน, ห้องพระ, ที่จอดรถ 2 คัน

แกรนดิโอ-บ้านฟังก์ชั่นมหัศจรรย์

ในฐานะ new comer สินค้าบ้านเดี่ยวเซ็กเมนต์ไฮเอนด์ “ภวรัญชนม์” เปิดเบื้องหลังการถ่ายทำของทีมงาน FPH หลักคิดคือ …ทุกอย่างต้องปัง เรื่องแรกเลย บ้านไซซ์ L มีสระว่ายน้ำระบบเกลือในบ้าน ชั้นล่างเพิ่มห้องฟิตเนส เอ็กซ์ตร้าขึ้นมาจากห้องนอนผู้สูงวัย, เพิ่มโถงโฟเยร์ที่ต่อยอดประโยชน์ใช้สอยได้สารพัด

ดีไซน์ new art deco หรือโมเดิร์นคลาสสิก ชิงไหวชิงพริบกันตั้งแต่ฟาซาด (หน้าตาบ้าน) เป็นรูปยูคว่ำ จากปกติจะเห็นแต่ครึ่งวงกลม หรือสี่เหลี่ยม เดินเส้นสายสีเหลืองทอง,

หน้าจั่วที่มีชายคาเหมาะกับเมืองร้อน, ระเบียงเหล็กดัดสไตล์ยุโรปเป๊ะเว่อร์, พื้นชนเพดานให้ 3 เมตรทุกหลัง จากปกติบ้าน 50 ตารางวาในตลาดให้ความสูงที่ 2.7-2.8 เมตร

ในยุค post COVID สุขภาพมาพร้อมกับความเป็นส่วนตัว พื้นที่ส่วนกลางดีไซน์ฟังก์ชั่นการ์เด้นที่มีจุดโฟกัสตั้งแต่สวนต้นไม้, สวนน้ำ (ลำธาร-น้ำพุ), สนามกีฬาบาสเกตบอล+แบดมินตัน, สนามพัตกอล์ฟ ไฮไลต์โซนสนามเด็กเล่นมีม้าหมุนที่เห็นตามสวนสนุกขนาด 8 คนนั่ง/รอบ ฯลฯ

“บ้านเดี่ยวจะเป็นสินค้าพระเอกของ FPH ทีมงานมั่นใจดีไซน์ เราลบทุกจุดด้อย เพิ่มทุกข้อดี”

ทุกคำอธิบายมาจบที่การสร้างภาพจดจำของผู้บริโภค “แกรนดิโอ” จะเป็นบ้านหรูที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา บนฟังก์ชั่นที่คุ้มเกินราคา