BTS ทดสอบรถไฟฟ้าสาย “สีชมพู-เหลือง” เตรียมความพร้อม ก่อนเปิดให้บริการปี 2565
วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ณ โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง (Depot) ถนนศรีนครินทร์ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทบีทีเอส นำเยี่ยมชมการทดสอบเดินรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง จากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ถึง สถานีศรีนุช (YL13)
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
พร้อมด้วยคณะกรรมการ และผู้บริหาร นำโดย นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ NBM และ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด หรือ EBM ร่วมด้วยคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทบีทีเอส ผู้บริหารจากบริษัท ซิโน – ไทยเอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) และผู้บริหารจากบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมทดสอบการเดินรถฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการภายในปี 2565 นี้
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กล่าวถึงความคืบหน้าภายหลังการทดสอบรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ว่าภายในปี 2565 นี้ โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล “สายสีเหลือง” (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) ระยะทาง 30.4 กม. จำนวน 23 สถานี และโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรล “สายสีชมพู ” (ช่วงแคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 34.5 กม. จำนวน 30 สถานี จะพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว
บริษัทฯ จึงทำการทดสอบการเดินรถ รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ทั้งด้านระบบการควบคุมรถไฟฟ้า และระบบอาณัติสัญญาณ เบื้องต้นการทดสอบฯ ยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ ส่วนรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพูนั้น บริษัทฯ ได้มีการทดสอบการเดินรถไปแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา จำนวน 1 สถานี เริ่มจากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลฯ ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) เป็นการทดสอบเดินรถแบบไป – กลับ จากผลการทดสอบเดินรถยังไม่พบข้อบกพร่องใด ๆ เช่นกัน
โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะทยอยทดสอบเดินรถเป็นช่วง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานทุกระบบสอดคล้องกัน มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย
ด้านความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ภาพรวมคืบหน้า 86% งานโยธา 88% และงานระบบรถไฟฟ้า 83%
ในส่วนของโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีรางซ่อมบำรุง (Maintenance track) จำนวน 6 ราง รางจอดรถไฟฟ้า (Stabling) จำนวน 9 ราง พร้อมทั้งมีรางทดสอบ (Test track) สำหรับให้รถไฟฟ้าใช้วิ่งทดสอบจำนวน 1 ราง และติดตั้งเครื่องล้างรถอัตโนมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ขณะนี้ภาพรวมคืบหน้าแล้ว 82% งานโยธา 83% และงานระบบรถไฟฟ้า 80% โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีรางซ่อมบำรุง (Maintenance track) จำนวน 7 ราง รางจอดรถไฟฟ้า (Stabling) จำนวน 10 ราง พร้อมทั้งมีรางทดสอบ (Test track) สำหรับให้รถไฟฟ้าใช้วิ่งทดสอบจำนวน 1 ราง
สำหรับความพร้อมของสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย ได้มีการติดตั้ง ลิฟต์ บันไดเลื่อนจากชั้นจำหน่ายตั๋วไปยังชั้นชานชาลาแล้ว และกำลังทยอยติดตั้งระบบประตูกั้นชานชาลา (Platform Screen Door System) และประตูกั้นระบบจัดเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ (AFC Gate)
ทั้งนี้ ในส่วนของบันไดทางขึ้นสถานี ทางเดิน Walkway บันไดเลื่อน และลิฟท์โดยสาร จากชั้นพื้นถนน กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างและติดตั้งเช่นกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย บริษัทฯ มีแผนจะทำการทยอยเปิดเป็นช่วง ๆ ตามลำดับ ดังนี้
1.รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง
“ช่วงที่ 1” สถานีภาวนา (YL02) – สถานีสำโรง (YL23)
“ช่วงที่ 2” สถานีลาดพร้าว (YL01)
2.รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีชมพู
“ช่วงที่ 1” สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ (PK12) – สถานีมีนบุรี (PK30) ยกเว้นสถานีนพรัตนราชธานี (PK26)
“ช่วงที่ 2” สถานีชลประทาน (PK05) – สถานีแจ้งวัฒนะ14 (PK11) และสถานีนพรัตนราชธานี
“ช่วงที่ 3″สถานีแคราย (PK02) – สถานีศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี (PK01)
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนความคืบหน้าการส่งมอบขบวนรถ ขณะนี้บริษัทฯ ได้รับมอบขบวนรถแล้วทั้งหมด 33 ขบวน 132 ตู้ แบ่งเป็นสายสีเหลือง 20 ขบวน 80 ตู้ และสายสีชมพู 13 ขบวน 52 ตู้
ซึ่งคาดว่าขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองจะได้รับมอบครบทั้งหมด 30 ขบวน 120 ตู้ ภายในเดือนเมษายน 2565 และขบวนรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสายสีชมพู จะได้รับมอบครบทั้งหมด 42 ขบวน 168 ตู้ ภายในเดือน มิถุนายน 2565
ด้านความพร้อมของพนักงาน ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเปิดรับพนักงานประจำสถานีแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปี เนื่องจากเป็นรถไฟฟ้าโมโนเรลสายใหม่ และสายแรกของประเทศไทย ทางบริษัทฯ จึงต้องมีการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการให้บริการต่อไป อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง และสายสีชมพู ทั้ง 2 สาย นับเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่ได้รับโอกาสในการขับเคลื่อนการให้บริการที่มีคุณภาพ เพื่อยกระดับการเดินทางของผู้โดยสารในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล รวมถึงเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น