สมเด็จพระสังฆราช จัดสร้างรูปกระเบื้องโมเสกภาพพระคุณ 10 ประการของ ร.5

สมเด็จพระสังฆราช ลงนามสัญญา

สมเด็จพระสังฆราช เสด็จเป็นประธานลงนามสัญญาจ้าง บริษัท ทราวิสซานุตโตโมเสก แห่งสาธารณรัฐอิตาลี จัดสร้างรูปกระเบื้องโมเสกภาพพระคุณ 10 ประการ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตามพระราชดำริในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 รวมจำนวน 12 ภาพ เพื่อประดับผนังภายในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช รายงานว่า วันจันทร์ ที่ 5 ธันวาคม 2565 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ทรงเป็นประธานในลงนามสัญญาจ้างจัดสร้างรูปกระเบื้องโมเสกภาพพระคุณ 10 ประการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และประวัติวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตามพระราชดำริในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 รวมจำนวน 12 ภาพ เพื่อประดับผนังภายในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เนื่องในศุภวารสมโภช 150 ปีแห่งการสถาปนาพระอาราม 22 มกราคม 2563 ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นประธานกิตติมศักดิ์ของโครงการ

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะให้ประดับผนังพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามด้วยรูปโมเสกพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระองค์ แต่ยังไม่ทันดำเนินการให้ลุล่วง ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงสืบสานพระราชดำริ กะเตรียมการสนองพระราชประสงค์ ร่วมกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงกำหนดแบบให้สร้างเป็นรูปพระคุณ 10 ประการในรัชกาลที่ 5 ตามลายพระหัตถ์ลงวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2470 แต่ยังติดขัดด้วยงบประมาณ การจึงยังไม่อาจลุล่วง จึงทรงระงับโครงการไว้ก่อน และทรงพระราชปรารภว่าในอนาคตกาลอาจมีผู้ทำให้สำเร็จได้

ครั้นถึงศุภวารสมโภช 150 ปีแห่งการสถาปนาพระอาราม เมื่อพุทธศักราช 2563 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช จึงมีพระบัญชาโปรดตั้งคณะกรรมการดำเนินงานในอันที่จะดำเนินการสนองพระราชดำริในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7 ให้แล้วเสร็จลุล่วง

ทั้งนี้ ภายใต้การควบคุมกำกับการวาดจิตรกรรมต้นแบบของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และโดยความร่วมมือของกระทรวงการต่างประเทศ ประสานงานแสวงหาและเลือกเฟ้นช่างผู้ชำนาญงานมารับจ้างดำเนินการ

ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินงานติดตั้งเมื่อจัดทำรูปกระเบื้องโมเสกแล้วเสร็จ กรมศิลปากรได้กำหนดให้เป็นรูปแบบแขวนผนึกครอบผนังพระอุโบสถ บนพื้นที่ระหว่างช่องหน้าต่างที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงกำหนดไว้ โดยไม่มีการทุบรื้อผนังเดิม เพื่อคงสภาพของผนังเดิมที่ถูกซ่อมแปลงด้วยปูนปั้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ไว้ภายใน เป็นการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ควบคู่กันไป

โอกาสนี้ ประทานพระอนุญาตให้ไวยาวัจกรและผู้แทนคณะผู้บริจาคโดยเสด็จพระกุศล เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้จ้าง, เจ้าของบริษัท ทราวิสซานุตโตโมเสก แห่งสาธารณรัฐอิตาลี เป็นผู้ลงนามในฐานะผู้รับจ้าง พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลีประจำประเทศไทย และผู้อํานวยการสำนักจัดหาและบริหารทรัพย์สิน สำนักปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามเป็นพยาน

เสร็จแล้ว เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า

“พระราชประสงค์ของพระองค์ผู้ทรงสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในอันที่จะประดับประดาพระอารามนี้ให้งดงามวิจิตรด้วยศิลปกรรมชั้นเลิศ นอกจากจะเป็นไปเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศ ในฐานะเป็นวัดประจำรัชกาลของพระองค์แล้ว ยังเป็นไปเพื่อถวายพุทธบูชา และเพื่อเป็นศรีสง่าแห่งราชอาณาจักรไทย อาตมภาพทราบมาว่าภาพประดับกระเบื้องโมเสกนั้น มีอายุทนทานนานนับพันๆ ปี การที่ท่านร่วมกันสร้างสรรค์ภาพพระคุณ 10 ประการของสมเด็จพระปิยมหาราช และภาพประวัติวัดราชบพิธ ให้เป็นสมบัติศิลป์ชิ้นเอกของประเทศชาติ และพระบวรพุทธศาสนา จึงเท่ากับว่าท่านได้ฝากหัวใจแห่งความศรัทธา ความกตัญญูกตเวที และความจงรักภักดี ไว้ให้อยู่คู่โลกนี้ไปอีกนานแสนนาน

แม้ชีวิตของเราทั้งหลายจะล่วงลับดับสูญไป แต่ภาพแห่งพระคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน และภาพประวัติศาสตร์แห่งวัดราชบพิธ จักยังคงปรากฏอยู่ เป็นเครื่องประกาศไว้ให้อนุชนได้ศึกษา เรียนรู้และแลเห็น เพียงเท่านี้ ก็เกินคำว่าคุ้มค่าแล้วสำหรับการลงทุนลงแรง ตั้งใจอุทิศศิลปกรรมทั้งนี้ ถวายเป็นพุทธบูชาและเป็นราชพลีบูชาพระมหากรุณาธิคุณ

กุศลเจตนาของท่านทั้งหลายในการนี้ หากสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุก ๆ พระองค์ ผู้พระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แก่พระอาราม ได้ทรงทราบโดยพระญาณวิถีใด ๆ ย่อมทรงพระโสมนัสอนุโมทนา และพระราชทานพรให้ทุกท่าน ได้ประสบแต่ความเจริญสำเร็จในกรณียกิจทุกประการ

อาตมภาพเห็นว่าพรนั้นย่อมประเสริฐสูงสุดแล้ว จึงไม่อาจมีคำพรใด ๆ ที่จะอำนวยให้ท่านในวันนี้ นอกจากขออนุโมทนาบุญของทุกท่านด้วยใจจริง ในอันที่จะช่วยกันทำให้การสร้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม สำเร็จลุล่วงสมบูรณ์สมพระราชประสงค์ แม้เวลาจะล่วงผ่านมานานกว่า 150 ปีแล้วก็ตาม แต่เราทั้งหลาย คงจะไม่ทอดทิ้งวัดของเรา คงจะช่วยกันสืบสานพระราชศรัทธาอันยิ่งใหญ่นี้ ให้วัฒนาสถาพรยิ่ง ๆ ขึ้นสืบไปตลอดกาล”

จากนั้น ประทานพระวโรกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาโดยเสด็จพระกุศล และคณะกรรมการดำเนินงาน เฝ้ารับประทานของที่ระลึก