
ไทยน้ำทิพย์ ผู้ผลิตและจำหน่าย โคคา-โคล่า ชูนวัตกรรมด้านความยั่งยืนผสานแผนธุรกิจ โชว์ระบบบำบัดน้ำเสีย เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด ปรับสายการผลิตรองรับบรรจุภัณฑ์จากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 100%
วันที่ 10 กันยายน 2567 ปุณฑริกา สุสัณฐิตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ องค์กรสัมพันธ์ การสื่อสาร และความยั่งยืน บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัทฯ ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ และสังคม โดยในแต่ละด้านมีเป้าหมายและโร้ดแม็ปจนถึงปี พ.ศ. 2573
แผนงานด้านความยั่งยืนถูกผนวกอยู่ในแผนงานในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่แผนงานด้านทรัพยากรบุคคล การกำกับดูแลกิจการ ไปจนถึงแผนงานด้านซัพพลายเชน ซึ่งให้ความสำคัญกับ 3 เสาหลัก คือ การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนตั้งแต่ต้นจนถึงปลายน้ำ
เทอดพงษ์ ศิริเจน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการด้านคุณภาพ ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และบรรจุภัณฑ์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวขยายต่อว่า ไทยน้ำทิพย์ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในทุกกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด
ด้วยการนำเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความยั่งยืน โรงงานไทยน้ำทิพย์ ปทุมธานี มีการใช้ระบบบำบัดน้ำเสีย MBR (Membrane Bio Reactor) ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้
ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บริษัทฯได้มีการใช้กลยุทธ์ 3R (Reduce, Reuse, Recycle) ในกระบวนการผลิต เริ่มด้วยการ ลด (Reduce) ปริมาณการใช้น้ำ โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ทำมาใช้คือแอปพลิเคชัน “บำรุง” ที่พัฒนาโดยบริษัทไทย
นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิต รวมถึง บำบัด (Recycle) น้ำที่ผ่านการใช้งานแล้ว เช่น ติดตั้งระบบ Membrane Bio Reactor บำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีระบบ R.O. (Reverse Osmosis) เพื่อนำน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดจนสะอาดได้มาตรฐานกลับมาใช้ใหม่ในขั้นตอนการผลิตที่ไม่ใช่วัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องดื่ม
ซึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2566 โรงงานไทยน้ำทิพย์ทั้ง 5 โรงงาน (โรงงานรังสิต โรงงานปทุมธานี โรงงานนครราชสีมา โรงงานขอนแก่น และโรงงานลำปาง) สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 907 ล้านลิตร สะท้อนถึงความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม
เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดภายในกระบวนการผลิต ปัจจุบันมีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงานไทยน้ำทิพย์ครบทั้ง 5 แห่ง ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานสะอาดรวม 12.6242 MWp คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน
นอกจากนี้ ยังมีการนำรถพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในรถยกสินค้า (EV Forklift) ในคลังสินค้า และรถขนส่งสินค้า (EV Truck) พร้อมนำระบบ Telematics มาใช้บริหารจัดการการขนส่ง ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยให้กับพนักงานขับรถ โดยในปี พ.ศ. 2566 สามารถลดการใช้พลังงานได้ 34.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
เพื่อดำเนินการตามโร้ดแม็ป ไทยน้ำทิพย์ได้ปรับสายการผลิตให้รองรับการผลิตขวดโค้กที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล 100% (ไม่รวมฉลากและฝา) ซึ่งใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสอาหารได้อย่างปลอดภัย เป็นไปตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานระดับโลกของโคคา-โคล่า โดยมีแผนงานในการเพิ่มสัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ในทุกๆปีอีกด้วย
เทอดพงษ์กล่าวต่ออีกว่า ตามเป้าของโคคา-โคล่า ที่มุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2568 และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกโดยใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50% รวมถึงช่วยเก็บรวบรวมและรีไซเคิลขวดหรือกระป๋องในจำนวนเทียบเท่ากับที่จำหน่าย ภายในปี 2573
เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทฯจึงดำเนินการสร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์ ผ่านการลดปริมาณพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ผ่านการ lightweight โดยยังคงรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งสามารถลดการใช้เม็ดพลาสติกลงได้กว่า 7,645 ตัน
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 และใช้วัสดุรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์อย่างน้อย 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 ไทยน้ำทิพย์ได้เปลี่ยนขวดสไปรท์จากขวดสีเขียวเป็นขวดใส เพื่อเพิ่มความสามารถในการนำบรรจุภัณฑ์กลับไปรีไซเคิล
อีกทั้งยังพร้อมสนับสนุนการจัดเก็บและรีไซเคิลขวดพลาสติกและกระป๋องที่ใช้แล้ว (Collection & recycling) เพื่อสร้างวงจรปิดของบรรจุภัณฑ์ โดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน และองค์กรไม่แสวงผลกำไร เพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลขยะพลาสติกในประเทศไทย และกระตุ้นให้ผู้บริโภครับรู้และมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับบรรจุภัณฑ์