กฎใหม่ฟินแลนด์ คนไทยไปเก็บเบอร์รี่ตามฤดูกาล ต้องมีใบอนุญาตพักพิง

Berries
Photo: k8/unsplash

ฟินแลนด์กำหนดแรงงานไทยไปเก็บเบอรรี่ต้องมี Residence Permits ผู้สมัคร 900 คนได้รับอนุมัติแล้ว แต่ต้องผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศบ้านเกิดก่อน ป้องกันแรงงานถูกหลอก

วิธีไปเก็บเบอรรี่ป่าที่ฟินแลนด์ในอดีต

ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนของทุกปี เคยมีคนไทยหลายพันคนเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาล เช่น เบอร์รี่ และลิงกอนเบอร์รี่ ในสาธารณรัฐฟินแลนด์เป็นระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 90 วัน (ช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่เบอรรี่ออกผล)

โดยก่อนหน้าปี 2566 ผู้เก็บผลไม้ตามฤดูกาลที่ฟินแลนด์ถูกอนุญาตให้เข้าฟินแลนด์ไปเก็บผลเบอร์รี่ได้นานสูงสุด 3 เดือนด้วยวีซ่าท่องเที่ยวเชงเก้น สามารถเก็บเบอร์รี่ป่าอย่างเสรี ภายใต้สิทธิการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติของทุกคน (Everyman’s Right) และสามารถเลือกที่จะขายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ตนเก็บได้ให้กับผู้ซื้อรายใดก็ได้

แต่พอต้นปี 2567 กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์มีมติระงับคำร้องขอตรวจลงตราวีซ่าเพื่อไปทำงานเก็บเบอร์รี่ป่าตามฤดูกาล ครอบคลุมคนจากประเทศไทย กัมพูชา และเมียนมา เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ และการละเมิดสิทธิแรงงาน เพื่อให้แน่ใจว่าคนเก็บเบอร์รี่ของไทยจะไม่ตกเป็นเป้าหมายของผู้ค้ามนุษย์ ฟินแลนด์จึงตัดสินใจระงับการออกวีซ่าเก็บเบอร์รี่

นอกจากนั้น รัฐบาลฟินแลนด์พยายามเรียกร้องให้บริษัทต่าง ๆ มีสัญญาจ้างงานสำหรับคนที่เดินทางไปเก็บผลเบอร์รี่ ทั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรับประกันรายได้ให้กับคนทำงานด้วย

ส่งแรงงานไทย ด้วยวิธีนายจ้างพาไป

ก่อนหน้าที่จะมีการระงับวีซ่าคนไทยเข้าฟินแลนด์เพื่อไปเก็บผลเบอร์รี่ป่า ในแต่ละปีจะมีการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่ายคือ สถานทูตไทยประจำประเทศฟินแลนด์ ประเทศต้นทาง และกรมการจัดหางาน เพื่อกำหนดโควตาแรงงานไทย

ADVERTISMENT

ในฤดูกาลปี 2565 กรมการจัดหางานจะกำหนดให้ผู้ประสานงานในประเทศไทยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ด้วยวิธีนายจ้างพาลูกจ้างไปทำงาน เพื่อพัฒนารูปแบบการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ของแรงงานไทยให้เกิดความยุติธรรมแก่แรงงาน

สำหรับประเทศฟินแลนด์ไม่มีสัญญาจ้างให้กับคนงาน เนื่องจากกฎหมายในประเทศฟินแลนด์ไม่เอื้อ กรมการจัดหางานจึงได้ผลักดันให้บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยจัดทำสัญญาจ้างงานให้คนงานไทยทุกรายก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย และแจ้งให้สถานทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทยทราบ

ADVERTISMENT

หากบริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยผิดสัญญา กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบสัญญาจ้างตามกฎหมาย เพื่อให้มีการดูแลคนหางานอย่างครอบคลุมเข้มงวดยิ่งขึ้น

ส่วนในเรื่องสวัสดิการ กรมการจัดหางานได้กำหนดมาตรการให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์/บริษัทผู้ประสานงานในประเทศไทยต้องจัดเตรียมสวัสดิการทั้งที่พัก ห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องรับประทานอาหาร อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว และอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ให้คนงานไทยทุกคน

โดยตัวเลขฤดูกาลปี 2565 ระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน มีแรงงานไทยเดินทางไปฟินแลนด์จำนวนรวม 3,966 คน

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยยังชะลอการจัดส่งแรงงงานไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ โดยอยู่ระหว่างหารือร่วมกับสาธารณรัฐฟินแลนด์ เพื่อปรับระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับแรงงานไทย

บริษัทเบอร์รี่ในฟินแลนด์ขาดแรงงาน

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 เชงเก้นนิวส์รายงานว่า บริษัทเบอร์รี่ในฟินแลนด์กำลังพยายามจ้างคนเก็บเบอร์รี่อย่างน้อย 1,000 คนจากประเทศไทยตามสัญญาจ้างงานในปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลระงับวีซ่าการยื่นขอวีซ่าเก็บเบอร์รี่จากคนไทยในฤดูร้อน เนื่องจากขณะนี้อุตสาหกรรมเบอร์รี่กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟินแลนด์กำลังมองหาวิธีปรับเปลี่ยนและให้ใบอนุญาตทำงานคนเก็บเบอร์รี่ 1,000 ถึง 2,000 คนจากประเทศไทยในฤดูกาลปี 2567 การมีคนมาเก็บเบอร์รี่จากประเทศไทยยังเป็นประโยชน์ไม่ให้ผลเบอร์รี่สูญเปล่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการว่าจะอนุญาตให้จ้างคนเก็บเบอร์รี่ในฤดูกาลนี้หรือไม่

ในอดีตคนงานจากประเทศไทยเก็บผลเบอร์รี่ป่าได้ถึงร้อยละ 90 ในฟินแลนด์ ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคนไทย และในขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการขาดแคลนแรงงาน

กฎใหม่ ! ต้องมี Residence Permits

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เชงเก้นนิวส์รายงานว่า ครั้งแรกของฟินแลนด์ที่กำหนดให้แรงงานเก็บผลไม้ป่าตามฤดูกาลของไทยต้องได้รับใบอนุญาตมีถิ่นที่อยู่ (Residence Permits) เช่นเดียวกับแรงงานชาวต่างชาติอาชีพอื่น ๆ

โดยต้องผ่าน 2 ขั้นตอนหลัก ๆ คือ ขั้นตอนแรก ใบสมัครจะได้รับการตรวจสอบโดยสำนักงานการจ้างงานและการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการทดสอบตลาดแรงงานด้วย ขั้นตอนที่สอง กองตรวจคนเข้าเมืองของฟินแลนด์จะประเมินสภาพที่อยู่อาศัย และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนตัดสินใจขั้นสุดท้าย

ตามที่ทางการฟินแลนด์เปิดเผย นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2567 มีคนไทยที่สนใจเก็บเบอร์รี่ป่าได้ส่งใบสมัครแล้วประมาณ 1,300 ใบ โดย 900 คนได้รับการอนุมัติ แต่อีก 400 คน ไม่ตรงกับข้อปฏิบัติที่ข้อกำหนด

ทั้งนี้ ทางการฟินแลนด์ใช้มาตรการเพื่อดำเนินการตามคำขอ Residence Permits ให้เร็วขึ้น เพื่อให้แน่ใจจะมีแรงงานเพียงพอที่จะเก็บเบอร์รี่ป่าในช่วงกรกฎาคม-กันยายน 2567

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งฟินแลนด์ยอมรับว่าเรื่องนี้ยังมีความท้าทายอยู่ เพราะต้องระวังการแสวงประโยชน์ด้านแรงงาน

โดย Info Migrants รายงานว่า นอกจากการตรวจสอบด้านเอกสาร ทางฟินแลนด์ใช้วิธีสัมภาษณ์เพื่อประเมินสถานการณ์ มีการเปรียบเทียบข้อมูลที่ลูกจ้างและนายจ้างพูดเกี่ยวกับรายได้และเงื่อนไขการจ้างงานว่าตรงกันหรือไม่ พิจาณาว่ามีการพูดเกินความจริงเกี่ยวกับค่าที่พักหรือค่าอาหารหรือไม่

อย่างไรก็ตาม คนไทยที่สมัคร Residence Permits ต้องผ่านหน่วยงานในประเทศบ้านเกิดก่อน ซึ่งจะต้องยืนยันและพิสูจน์ตัวตน ซึ่งตัดสินใจบางส่วนเกี่ยวกับการสมัคร รวมทั้งตรวจสอบให้แน่ใจว่าตลาดแรงงานสามารถรองรับผู้สมัครได้

นอกจากนี้ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของฟินแลนด์เผยว่า ผู้สมัครจำนวนมากไม่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษ จึงเป็นอุปสรรคสำหรับการติดต่อกับทางการฟินแลนด์โดยตรง และบ่อยครั้งทำให้มี “ผู้ประสานงานเถื่อน” เข้ามายื่นมือระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง ซึ่งอาจได้รับส่วนแบ่งรายได้ หรืออาจถูกหลอกได้

สกัดแรงงานไทย คาสนามบิน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 กรมการจัดหางานได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้ประสงค์ไม่ออกนามว่ามีการลักลอบเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ เดินทางโดยสายการบินกาตาร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ QR837 จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

จึงมอบหมายกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน และด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิดำเนินการตรวจสอบ ปรากฏว่าพบผู้ที่จะลักลอบไปทำงานที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ จำนวน 43 คน เป็นชาย 37 คน และหญิง 7 คน ทั้งหมดให้การยอมรับว่าจะเดินทางไปทำงานเกษตรกรเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์ โดยไม่ได้ขออนุญาตกับกรมการจัดหางานตามกฎหมาย

ได้ระงับการเดินทางพร้อมกับชี้แจงให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติมอย่างเคร่งครัด พร้อมสั่งการไปยังสำนักงานจัดหางานจังหวัดที่คนหางานซึ่งถูกระงับการเดินทางมีภูมิลำเนาอยู่ เพื่อสอบข้อเท็จจริงและขยายผลถึงขบวนการชักชวนหรือนำพาคนหางานไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่สาธารณรัฐฟินแลนด์อย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

โดยกรมการจัดหางานย้ำเตือนคนไทยที่จะเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ฟินแลนด์ ว่าประเทศไทยยังชะลอการจัดส่งแรงงานไปเก็บผลไม้ป่า เพื่อประโยชน์ของตัวแรงงาน ในระหว่างนี้ขอความร่วมมือแรงงานไทยไม่ลักลอบไปทำงาน โดยอยู่ระหว่างหารือร่วมกับสาธารณรัฐฟินแลนด์ เพื่อปรับระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า

รวมถึงนายจ้างต้องยอมรับเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์มุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การคุ้มครอง และการรักษาสิทธิของแรงงานไทย ตลอดจนความโปร่งใสและความเป็นธรรมให้แก่แรงงานไทย