รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” ต้อนรับสภาองค์การนายจ้างฯ เผย 17 ม.ค. 2567 ตั้งอนุกรรมการพิจารณาสูตรค่าแรงขั้นต่ำ ฝั่งนายจ้างขอให้กระทรวงแรงงานนำเงินชราภาพออกมาใช้จ่าย เพื่อผู้ประกันตน ม.33
วันที่ 5 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้การต้อนรับ ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) และคณะกรรมการบริหาร ณ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2567 และได้กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างที่จะมีในวันที่ 17 มกราคม 2567 ว่า จะมีการพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการปรับปรุงสูตรการคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำ
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำมิติใหม่
นายพิพัฒน์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องที่หารือกันในวันนี้ คือเรื่องค่าแรง ซึ่งยืนยันว่าทุกคนจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และมองในทุกมิติ แต่คงเป็นตามที่ได้ประชุมกันไปเรียบร้อย แต่วันที่ 17 มกราคม 2567 นี้ จะเป็นการพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการปรับปรุงสูตรการคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งจะรวมไปถึงการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในมิติใหม่ว่าอาชีพไหนควรขึ้น หรือไม่ควรขึ้น และไม่เหมารวมทั้งจังหวัด
“ผมจะไตร่ตรองให้ดีที่สุดและขอให้สบายใจได้ ผมจะดูให้ดีที่สุดและหลังจากที่ได้คุยกันตกผลึกแล้ว จะขอเชิญทางสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) มาคุยอีกครั้ง โดยจะทำให้ SME กระทบน้อยที่สุด เนื่องจากถือครองผู้ใช้แรงงานกว่า 80% และขอบคุณสำหรับข้อแนะนำต่าง ๆ ซึ่งสามารถประสานมาได้”
ไม่ปรับค่าจ้างตามกระแสการเมือง
ด้าน ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) กล่าวว่า สภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้า และอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) ขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่เปิดโอกาสให้เข้าพบและหารือ
ซึ่งในวันนี้ เราเห็นด้วยที่ไม่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำตามกระแสการเมือง พร้อมขอเสนอให้ภาครัฐหารือกับกรมสรรพากร เรื่อง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ up-skill/re-skill ให้แก่พนักงานเพื่อการพัฒนาทักษะเรียนรู้เสริมทักษะใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง ให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานโลก
เพราะเห็นว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนี้ ต้องการให้นายจ้างสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้เป็น 2 เท่าถ้าเป็นไปได้ นอกจากนี้ ยังเสนอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาในเรื่องของการนำเอาเงินชราภาพออกมาใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพของผู้ประกันตน ม.33 ของประกันสังคม เพื่อประโยชน์ในการครองชีพได้ ซึ่งทางสภาองค์กรนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย ยินดีสนับสนุนทางกระทรวงแรงงาน เพื่อประโยชน์ต่อพี่น้องแรงงานต่อไป
