พินัยกรรมชีวิต พระไพศาล วิสาโล ความตาย-ธรรมชาติ

เปิดผนึกพินัยกรรมชีวิต พระไพศาล วิสาโล ย้ำเตือนให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท จุดประกายให้คนในสังคมเห็นความสำคัญของการเตรียมตัวตาย พร้อมทางเลือกในการรักษายามเจ็บป่วย และการรักษาสิ่งแวดล้อมจากกายา

พระไพศาล วิสาโล เปรียบเสมือน “แบรนด์แอมบาสซาเดอร์” ด้านการเตรียมตัวตายในสังคมไทยยุคปัจจุบัน ในบทบาทพระนักขับเคลื่อนแถวหน้า ผู้บุกเบิกทำให้คนหันมาเห็น ความสำคัญของการเตรียมตัวตาย

บทเรียนความตาย 2560 โดยโครงการความตาย พูดได้ เครือข่ายพุทธิกา สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้หยิบยก “ผนึกพินัยกรรมชีวิต พระไพศาล วิสาโล” ย้ำเตือนให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ทางเลือกในการรักษายามเจ็บป่วย และการรักษาสิ่งแวดล้อมจากกายา

จุดประกาย ให้คนในสังคมเห็นความสำคัญของการเตรียมตัวตาย รื้อ สร้างทัศนะ ‘ความตายน่ากลัว’ ของสังคมไทย กลายเป็น ‘ความตาย พูดได้’ และน่าพูด หากอยากตายดี ท่านมักกล่าวว่า ท่านเตรียมตัวตายอยู่เสมอ ซึ่งพินัยกรรมชีวิตเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการเตรียมตัว

พินัยกรรมชีวิต

เมื่อข้าพเจ้าป่วยอยู่ในระยะสุดท้าย รักษาไม่หาย ไม่ตอบสนองต่อการรักษา ต้องตายแน่ ๆ ไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองได้ ในพินัยกรรมของอาตมา ห้ามกระทำต่อร่างกายอาตมาดังต่อไปนี้

ADVERTISMENT

1. ห้ามผ่าตัดใหญ่
2. ห้ามใช้เครื่องช่วยหายใจ หากหายใจด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว
3. ห้ามปั๊มหัวใจ หากหัวใจหยุดเต้น
4. ห้ามใช้เทคโนโลยีเพียงเพื่อยื้อชีวิต โดยไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

ในกรณีที่ใช้เครื่องช่วยหายใจกับข้าพเจ้า เนื่องจากแพทย์ไม่ทราบเจตจำนงมาก่อน หากได้ทราบแล้ว ขอให้ถอดเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้ร่างกายของข้าพเจ้าเป็นไปตามวิถีธรรมชาติ โดยไม่มีการยื้อชีวิต

ADVERTISMENT

การเจ็บป่วยในระยะสุดท้ายของอาตมา ระบุไว้ในสมุดเบาใจ หน้า 5 คือ ไม่เอาการกู้ชีพโดยปั๊มหัวใจ, ไม่เอาการเจาะคอหรือท่อช่วยหายใจผ่านหลอดลม, ไม่เอาการล้างไตเมื่อไตวาย, ไม่เอาการให้อาหารทางสายยางเมื่อไม่ช่วยให้ดีขึ้น และไม่เอายาปฏิชีวนะหรือสารน้ำใด ๆ ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกาย

อาตมาได้ระบุชื่อคนที่จะช่วยตัดสินใจคือ หมอ 1 ท่าน และฆราวาส 2 ท่าน ทั้งหมดได้ร่วมการอบรมกับอาตมามานาน 10 กว่าปี จะเข้าใจและรับรู้ความคิดด้านนี้พอสมควร ขอให้บุคคลเหล่านี้ดำเนินการให้เป็นไปตามเจตนาดังกล่าว หรือตัดสินใจร่วมกันหากมีเหตุการณ์พิเศษ หรือมีข้อเสนอในมาตรการที่นอกเหนือจากที่ระบุข้างต้น

พระไพศาล วิสาโล

เมื่อตายแล้ว อวัยวะและร่างกายของข้าพเจ้าขอมอบให้สภากาชาดไทยในกรณีที่สมองตาย ถ้าไม่สามารถทำได้ ขอมอบร่างกายให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ใช้ประโยชน์ทางการศึกษาและวิจัย

หากมอบอวัยวะที่สภากาชาดไทยแล้ว ขอให้ปลงศพที่วัดป่าสุคะโต โดยมีพิธีกรรมทางศาสนาไม่เกิน 3 วันที่วัดป่าสุคะโต แบบเดียวกับที่หลวงพ่อคำเขียน สุวัณโณ ได้ระบุไว้สำหรับการปลงสรีระของท่าน คือ 1. สวดธัมมจัก-กัปปวัตนสูตรและอภิธรรมแปล 2. มีการแสดงธรรม 3. งดการทอดผ้าบังสุกุล โดยสวด 3 วัน แล้วรอเผา แต่จะเผาวันไหนให้ประกาศล่วงหน้าเพียง 1 วัน เพื่อไม่เป็นภาระของญาติโยมในการเดินทางมางานเผาศพ

แต่หากมอบร่างให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น การปลงศพขอให้ทำพร้อมพิธีเผาศพอาจารย์ใหญ่ ที่จัดโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

จากนั้นให้บรรจุอัฐิไว้ที่ลานหินโค้ง วัดป่าสุคะโต ใกล้ ๆ กับหลวงพ่อคำเขียน หลวงพ่อเทียน อาจารย์กำพล และเพื่อนพระอีกหลายท่าน

อัฐิส่วนหนึ่งมอบให้กับโยมพี่สาวนำไปจัดการตามที่เห็นสมควร ส่วนอังคารให้โปรยในป่าภูหลง เพราะอาตมาเคยค้างแรมระหว่างรักษาป่า เพื่อให้อัฐิคืนสู่ธรรมชาติ อาจป้องปรามว่า มีอัฐิของอาตมาอยู่ตรงนั้น พร้อมจะมาหลอกหลอนได้ทุกเมื่อ หากใครตัดไม้ทำลายป่า