หนุ่มรีวิวกักตัว เจอขาแมลงสาบในอาหาร โรงแรมแจ้งความแล้ว

หนุ่มรีวิวโรงแรมถูกแจ้งความ

หนุ่มรีวิวกักตัว 14 วัน ในโรงแรม บอกเล่าประสบการณ์แย่สุดในชีวิต ชนิดที่เรียกบังคับติดคุกยังดีกว่า พีคสุดเจอขาแมลงสาบในอาหาร ชาวเน็ตแห่แชร์กว่า 2 หมื่นครั้ง ล่าสุดโรงแรมเคลื่อนไหว บอกแจ้งความแล้ว

วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้รีวิวการกักตัว 14 วัน กับโรงแรมที่รัฐบาลจัดเตรียมให้ โดยระบุว่า แทบจะกลายเป็น 14 วัน ที่แย่ที่สุดในชีวิต อย่าเรียกว่ากักตัวเลย เรียกบังคับติดคุกยังจะดูดีกว่า นอกจากนี้ เจ้าตัวยังบอกด้วยว่า รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจไม่จ่ายค่ากักตัว เพราะตอนแรกคิดว่ายังไงก็อยู่ได้ และไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นโรงแรมห้าดาวเลิศหรู

พร้อมกันนี้ ได้โพสต์ภาพเล่าประสบการณ์ที่อ้างว่าเจอในโรงแรมตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ดังนี้

  • ภาพโรงแรมที่รีวิวตามเว็บไซต์ ไม่ตรงปก โดยเฉพาะห้องของเขา ที่สีประตูหลุดลุ่ย นับเป็นความไม่ประทับใจอย่างแรกที่เจอ รวมถึงชักโครกที่มีเศษอุจจาระค้างอยู่
  • น้ำอุ่นมีให้ใช้เพียงบางห้อง ส่วนตัวเขาโชคดีที่ได้ห้องที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ทว่าเครื่องระบายอากาศกลับไม่ทำงาน อาบน้ำเสร็จฝ้าขึ้นเต็มผนัง ให้บรรยากาศหนังสยองขวัญนิด ๆ
  • เมนูอาหารที่วนเวียนอยู่แต่ “ปลา” ที่มีกลิ่นคาว บางมื้อมีเกล็ดปาติดมาด้วย
  • พบสิ่งแปลกปลอมในอาหาร เช่น หนอนในผัก ขนหมู มอดในแกงมัสมั่น ถุงเกลือที่คาดว่าถูกใช้แล้ว และที่ทำให้ถึงกับอาเจียนคือ “ขาแมลงสาบ”
  • หากต้องการสั่งอาหารจากโรงแรม (นอกเหนือจากที่โรงแรมจัดไว้ให้ผู้กักตัว) ต้องเจอกับราคาที่ค่อนข้างแพง
  • ไวไฟทิพย์ สัญญาณไม่ถึง
  • โทรทัศน์รุ่นเก่า เล่นเกมไม่ได้
  • ห้องพักสกปรกและเหม็นอับมาก ต้องขอเปลี่ยนห้องถึง 3 ครั้ง
  • ยุงและแมลงสาบเยอะมาก
  • น้ำดื่มไม่เพียงพอ มีการเตรียมน้ำสำหรับการกักตัว 14 วัน ไว้เพียง 2 ขวด หากอยากได้เพิ่ม ต้องสั่งจากแม่บ้าน ราคาขวดละ 30 บาท

หลังโพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าวได้ 2 วัน มีผู้เข้ามากดแชร์ถึง 2.3 หมื่นครั้ง แสดงความเห็น 7.5 พันครั้ง และแสดงความรู้สึก 1.7 หมื่นครั้ง

ล่าสุด เมื่อช่วงกลางดึกวานนี้ (16 ก.พ.) ทางโรงแรมได้ออกหนังสือชี้แจงว่า ด้วยปรากฏเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2564 ได้มีบุคคลบางกลุ่มได้กระทำการลงข้อความอันเป็นเท็จ โดยมีความมุ่งหวังให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของโรงแรม โดยได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก และให้ข่าวต่อสื่อมวลชน รวมถึงบุคคลทั่วไปได้มีการแชร์แพร่ข้อความบนเฟซบุ๊ก อันเป็นเหตุให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหาย

เพื่อเป็นการปกป้องและรักษาสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงขอแจ้งให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทราบว่า บัดนี้โรงแรม ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้เป็นเรียบร้อยแล้ว และทางโรงแรม ขอแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลอื่นใดให้ระงับการกระทำใด ๆ ที่จะทำให้ทางโรงแรม ได้รับความเสียหายและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มิฉะนั้น โรงแรม มีความจำเป็นจะต้องดำเนินคดีทั้งทางเพ่งและทางอาญาอย่างถึงที่สุด

หลังจากนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กต้นเรื่อง ได้เข้ามาแสดงความเห็นต่อคำชี้แจงว่า “ถ้าคิดว่าเป็นเท็จ ขอให้แถให้เต็มที่นะครับ จริงไม่จริงได้รู้กัน จะมานั่งคุยออกข่าวช่องไหน ผมพร้อมมากครับ face to face ได้ แล้วก็ไม่ต้องขอโทษ ผมไม่รับคำขอโทษจากคนที่ไม่สำนึกผิดครับ”

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่น ๆ เข้ามาวิจารณ์การแก้ปัญหาของโรงแรม บางคนมาช่วยยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ขณะที่บางคนบอกว่าไปกักตัวที่นี่เช่นกัน แต่ไม่ได้เจอประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้