สลด หนุ่มติดโควิดเสียชีวิต เคยไลฟ์เล่าอาการสุดทรมาน ติดต่อรพ.ไม่ได้ ไม่มีรถมารับไปตรวจ สุดท้ายสิ้นใจสงบ เผยอาการหนัก เดินยังไม่ไหว “ชัชชาติ” ตั้งคำถามมันเกิดอะไรขึ้น?
เป็นอีกเคสที่น่าเศร้าสำหรับผู้ที่ป่วยโควิดแล้วเสียชีวิต เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่ง ได้ใช้เฟซบุ๊กไลฟ์บอกเล่าอาการป่วยของตัวเอง และสงสัยว่าจะติดโควิด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากไปอยู่ใกล้กับคนป่วยรายหนึ่ง ก่อนที่เขาจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ทว่าเขาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยในไลฟ์ ชายคนดังกล่าว ระบุว่า ติดต่อโรงพยาบาลไม่ได้ สายด่วนก็ไม่รับสาย มีอาการแสบคอ ตัวร้อน เดินไปห้องน้ำยังไม่ไหว อยากให้คนที่รู้จักในเฟซบุ๊กที่พอรู้ช่องทางและสามารถพาไปตรวจได้ขอรบกวนหน่อย พยายามไหวมาหลายวันแล้ว
โดยคิดว่าน่าจะติดจากการไปขี่มอเตอร์ไซต์ แล้วไปอยู่ใกล้กับดีเจรายหนึ่งที่ทำงานทองหล่อ ซึ่งหลังจากนั้นหนึ่งวันเขาบอกว่าผลตรวจเป็นบวก ปัญหาคือช่องทางไปตรวจไม่มี ออกไปเองไม่ไหว ตรวจเจอแล้วไม่รู้ว่าจะมีช่องทางรักษาอยู่ไหม ได้แต่กินยาตามอาการ จ่ายยาตัวเองกิน แล้วขังตัวเอง ใช้บริการร้านสะดวกซื้อเดลิเวอรี่
โทรไปหาเจ้าหน้าที่รัฐเขาก็บอกให้นั่งรถสาธารณะไปตรวจ ซึ่งตนพยายามป้องกันไม่แพร่เชื้อ แต่ยังถูกไล่ให้ไปแพร่เชื้อ ฟังแล้วก็ช็อก ไม่รู้จะทำยังไงดี
ปัญหาคือติดต่อรถพยาบาลไม่ได้ และไม่มีช่องทางจะหารถให้มารับตัว ได้แต่รักษาตามอาการ ถ้าใครหารถโรงพยาบาลให้ได้จะขอบคุณมาก ไม่ไหวจริงๆ
ตอนนี้ได้แต่กินยาพารา กินฟ้าทะลายโจร วิตามิน กินยาแก้ไอ แก้เจ็บคอ และถ้าอาการทรงตัวจะหาทางไปหาหมอดู เพื่อตรวจ แต่ช่วงนี้เป็นคนติดเตียง ที่แย่คือกินข้าวไม่ลง ทำให้กินยาลำบาก 2 วันที่ผ่านมากินโจ๊กไปเพียง 6 ช้อน
ล่าสุดวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของเขาได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของเจ้าตัว โดยมีผู้โพสต์แทน ระบุว่า พี่เขาไปสบายเเล้วนะคะ ก่อนไป ICU มันเพิ่งหันหน้ามาถามว่าอยู่คนเดียวเหงาไหม เดี๋ยวกูรีบกลับมา เเต่เขาก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาเเล้ว เขาไม่อยากตาย เขาโทรหาหน่วยงานทุกหน่วยเพื่อให้ได้รอดชีวิต เพราะเหนื่อยมาก เเล้วที่ตรวจโควิดเเถวบ้านไม่มี มีก็ไกลเลย
เขาหายใจไม่ออกไปไม่ไหว เขามีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่เรียกเเกร็บหรือเเท็กซี่ เพราะกลัวคนอื่นติด เเต่ขับรถเองไม่ไหว เลยทำให้ทรุดหนัก ก่อนจากไปอย่างสงบ
ล่าสุด ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นักการเมืองอิสระ ผู้ที่กำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ “พี่อัพ VGB” กุลทรัพย์ วัฒนผล
ชัชชาติระบุว่าตนเอง ไม่ได้รู้จักคุณอัพเป็นการส่วนตัว แต่น้องในทีมงานมีความคุ้นเคยและเล่าเรื่องคุณอัพให้ฟัง อ่าน FB ของคุณอัพแล้วเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ และเราได้ยินเรื่องราวที่ไม่น่าจะเกิดแบบนี้หลายๆครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้
ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
สถานการณ์โควิดของ กทม.น่าเป็นห่วงมากกว่าทุกจังหวัด (จำนวนผู้ป่วยต่อวัน ย้อนหลัง 5 วัน: 350 365 446 740 1,582) รพ.ของในกรุงเทพ มีหลายหน่วยงาน เช่น รพ.กทม. รพ.โรงเรียนแพทย์ รพ.กระทรวงสาธารณสุข รพ.หน่วยราชการอื่นเช่น ทหาร ตำรวจ รพ.เอกชน
เเต่การที่กรุงเทพมหานครไม่ได้มีระบบบัญชาการรวมศูนย์เหมือนระบบของกระทรวงสาธารณสุขในต่างจังหวัด (สาธารณสุขจังหวัด) ซึ่งอาจทำให้การบริหารจัดการไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ยิ่งตอนนี้ มีประกาศของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ว่าถ้า รพ.แห่งใดตรวจ ตรวจหาการติดเชื้อ COVID เมื่อผลการตรวจเป็น “บวก” รพ.นั้นๆต้องรับผู้ป่วยไว้ ทำให้ รพ.ต่างๆโดยเฉพาะภาคเอกชนไม่ต้องการทำการช่วยตรวจ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ป่วย หาที่ตรวจ Swab ไม่ได้ ทำให้อาจมีการแพร่เชื้อ และเมื่อผู้อาการหนัก ถึงไปหาหมอ หรือเสียชีวิตอยู่ที่บ้าน
จากการหารือกับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขในกลุ่ม Better Bangkok เราเห็นว่าควรจะต้องมีการประสานงานศูนย์บัญชาการร่วมเพื่อมีการทำงานร่วมกันระหว่าง กทม. กระทรวงสาธารณสุข รพ.สังกัดโรงเรียนแพทย์ รพ.ของส่วนราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวมถึง รพ.เอกชน เพื่อดำเนินการ
– 1. รวบรวมทรัพยากรที่มีเพื่อบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– 2. ตั้งศูนย์ตรวจกลาง เพื่อตรวจเชื้อให้มากที่สุด
– 3. จัดสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับรองรับผู้ป่วย ผู้ป่วยที่อาการน้อยและยังไม่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาล อาจให้อยู่ที่บ้าน (ถ้ามีความพร้อม) หรือสถานที่อื่นที่จัดเตรียมไว้เพื่อลดการแพร่เชื้อและลดภาระโรงพยาบาลและมีมาตรการในการติดตามที่เข้มงวดและพร้อมจะรับกลับมารักษาที่ รพ.และให้ยาที่เหมาะสม
– 4. วางแผนในการจัดตั้ง รพ.เฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เพื่อเป็นการช่วยผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับการรักษาตัวใน รพ.ได้
– 5. ขอความร่วมมือ รพ.โรงเรียนแพทย์ รพ.สังกัดอื่นๆ และ รพ.เอกชน เพื่อบริหารจัดการการดูแลรักษาส่งต่อผู้ป่วยร่วมกันอย่างเป็นระบบ
ในกรุงเทพฯ เรามีทรัพยากรและบุคลากรด้านการแพทย์ที่เก่งและมีศักยภาพสูงอยู่มาก ขอเพียงให้มีการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างเป็นระบบก็จะสามารถพาพวกเราผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้ ตอนนี้ทุกๆท่านปฏิบัติงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย
อย่าให้ต้องมากังวลเรื่องการบริหารจัดการหรือการขาดแคลนอุปกรณ์อีก ผู้รับผิดชอบต้องทุ่มเททรัพยากรที่มีมาช่วยสนับสนุนและร่วมมือกันอย่างเต็มที่ อย่าเอากฎระเบียบมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขทุกๆท่าน และขอให้ท่านที่ป่วย รักษาตัวหายจากอาการ ปลอดภัยแข็งแรงดีไวๆนะครับ
เราต้องอย่าให้การสูญเสียคุณอัพ อาม่า และคนอื่นๆจากโควิดเป็นเรื่องสูญเปล่า อย่าให้เราต้องใช้ Social Media ในการขอรถพยาบาลหรือหาเตียง เราต้องเรียนรู้ พัฒนา ปรับปรุง เพื่อไม่ให้เรื่องที่ไม่น่าเกิดนี้เกิดขึ้นกับคนอื่นๆอีกในอนาคต
นอกจากนี้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก พร้อมแสดงความเสียใจต่อการจากการไปจากไปจากชายหนุ่นคนดังกล่าว แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม
ขณะที่หลายรายก็กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล บางคนก็บอกว่ารอให้ชัชชาติมาบริหารจัดการ