ภาพยนตร์เรื่อง Blonde เริ่มสตรีมฉายทาง Netflix ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. เล่าชีวิต มาริลีน มอนโร มีจุดเด่นหนึ่งที่เครื่องแต่งกายอันเป็นตำนาน
สำนักข่าว เอพี รายงานถึงภาพยนตร์ใหม่ เวอร์ชั่น เน็ตฟลิกซ์ นำเสนอเรื่องราว “มาริลีน มอนโร” สวมบทโดยนักแสดงสาว อนา เดอ อาร์มาส (Ana de Armas) กำกับโดย แอนดรูว์ โดมินิก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ปรากฏฉากไฮไลต์ชุดกระโปรงสีขาวปลิวพลิ้วไหวในภาพยนตร์ “The Seven Year Itch” เป็นตำนานประจำตัวของนางเอกสาวชื่ออมตะของฮอลลีวูด และเคยทำเงินในการประมูลสูงถึง 4.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 170 ล้านบาท เมื่อปี 2011 (พ.ศ. 2554)
เช่นเดียวกับฉากที่มาริลีนใส่ชุดเกาะอกสีชมพูบานเย็นในเพลง “Diamonds Are a Girl’s Best Friend”
เวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่อัตชีวประวัติ และให้อารมณ์ที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีลำดับเหตุการณ์ หรือความพยายามที่จะทำให้เรื่องสมบูรณ์ เพราะสร้างจากนวนิยาย เรื่อง “Blonde” เขียนโดย จอยซ์ แคโรล โอตส์ ที่เขียนอ้างอิงจากผลงานการแสดงของมาริลีนที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่ภาพยนตร์ และผลงานเพลง
เจนนิเฟอร์ จอห์นสัน ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกายในภาพยนตร์เรื่อง Blonde กล่าวว่า กดดันมากในการออกแบบชุดในเรื่อง เพราะชุดที่มาริลีนเคยใส่ในผลงานต่างๆ หลงเหลือเพียงแจ๊กเก็ตจากภาพยนตร์เรื่อง “Niagara” ที่เก็บไว้ที่ Western Costume ในลอสแองเจลิส
ขณะเดียวกัน จอห์นสันยังได้ศึกษาผลงานการออกแบบของ วิลเลียม ทราวิลลา นักออบแบบที่เป็นที่รู้จักอย่างมากในการออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับมาริลีน มอนโรในภาพยนตร์ 8 เรื่องของเธอ
“เราไม่สามารถเข้าถึงเนื้อผ้าชนิดเดียวกันได้อย่างชัดเจน แต่มันสำคัญมากที่จะต้องรักษาคุณภาพของการออกแบบให้เหมือนกับชุดเดิมเหล่านั้น เพื่อให้ออกมาเหมือนจริงมากที่สุด” จอห์นสันกล่าว
นักออกแบบหญิงกล่าวเสริมด้วยว่า “มันค่อนข้างยากที่จะหาของที่มีอยู่ เพราะเสื้อผ้าวินเทจกำลังจะหมดไปอย่างแท้จริง”
ชุดที่ยากที่สุดในการสร้างขึ้นมาใหม่ คือ ชุดในตำนานจากภาพยนตร์เรื่อง “The Seven Year Itch” ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ ทราวิลลา อีกชุดหนึ่ง
ลักษณะการจีบซับซ้อนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีสถานที่ไหนในสหรัฐอเมริกาที่เชี่ยวชาญในเทคนิคการจับจีบแบบนั้นหลงเหลืออยู่ ซึ่งต้องใช้แม่พิมพ์แบบกำหนดเอง
“มันน่าทึ่งมากที่ต้องใช้ผ้ามากแค่ไหนในการสร้างส่วนโค้ง ฉันคิดว่าเราต้องใช้ผ้าประมาณ 50 หลา เพราะการจีบที่ดูดีมาก แต่แม่พิมพ์ไม่ได้ออกแบบมาอย่างถูกต้องสำหรับการจีบ เราใช้ผ้าเยอะมากในการทำจีบขึ้นมา แต่สุดท้ายถือว่าคุ้มค่าที่ได้เห็นในภาพยนตร์ ฉากนี้ในภาพยนตร์ที่มีความสำคัญ และน่าจดจำอย่างมาก” นักออกแบบหญิงกล่าว
ขณะที่สไตล์การแต่งตัวนอกจอของมอนโร ดูเรียบง่ายกว่ามาก ซึ่งส่วนใหญ่มอนโรเลียนแบบสไตล์บีทนิก หรือสไตล์ฝรั่งเศส สวมกางเกงคาปรี และสเวตเตอร์คอเต่า ซึ่งบางส่วนเป็นเสื้อผ้าวินเทจที่หาได้จากร้านเครื่องแต่งกายในลอสแองเจลิส
ทางผู้กำกับปรับการออกแบบเสื้อผ้าให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ รวมถึงการตรวจสอบให้แน่ใจว่าชุดนั้นเหมาะกับเดอ อาร์มาส นักแสดงในเรื่อง สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เอามาใช้ คือ หินอ่อนที่มอนโรเย็บติดเสื้อในของเธอ เพราะมันไม่เข้ากับยุคสมัยนี้
….