ศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2565 แอสตัน วิลล่า ประเดิมกุนซือคนใหม่ อูไน เอเมรี่เปิดวิลล่า พาร์ก เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ประตู
เกมนี้ผีแดงนำมาโดย คริสเตียโน โรนัลโด ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีมแทนที่ บรูโน แฟร์นันเดส ซึ่งถูกแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ก และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้รับโอกาสเป็นตัวจริง
- กูรูตลาดทุน วิเคราะห์วิสัยทัศน์ตัวเต็ง รมว.คลัง “ไม่แย่ แต่ ไม่ใช่”
- ดวงรายสัปดาห์ 28 พฤษภาคม-3 มิถุนายน 2566
- เลือกตั้งตุรกี : ทำไมชัยชนะของประธานาธิบดีแอร์โดอัน ถึงทำตุรกีแตกแยก
เจ้าบ้านนำเร็ว 2 ประตู
เริ่มเกมมาไม่นาน เป็นเจ้าบ้านที่ได้เฮก่อน โดยโอลลี่ วัตกินส์ ลากบอลพา วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ออกมาจากตำแหน่ง ทำให้ตรงกลางมีพื้นที่ว่าง และเป็นเจค็อบ แรมซีย์ ที่แทงทะลุช่องให้ ลีออน ไบลีย์ หลุดเข้าไปยิง บอลผ่านดาบิด เด เคอา เสียบเสาไกลเข้าไป สิงห์ผงาดออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 7 เรียกเสียงเฮจากวิลล่า พาร์ก ได้อย่างอื้ออึง
ถัดมาไม่นาน ผู้มาเยือนยังไม่ทันตั้งเกมได้ก็มาโดนประตูที่ 2 และเป็นลูกฟรีคิกสุดสวยของ ลูก้าส์ ดีญ ที่ได้บรรจงปั่นจากทางขวา แม้ดาบิด เด เคอา จะทยานมาสุดตัวแต่ก็ไม่ถึง บอลมุดเสาเข้าประตูไป เจ้าบ้านทิ้งห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 11 ถือเป็นการออกสตาร์ตในฝันของอูไน เอเมรี่ เลยทีเดียว
เกมเข้าสู่ช่วง 30 นาที แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ และแดนกลางตกเป็นรองแอสตัน วิลล่า อย่างชัดเจน จังหวะที่ยูไนเต็ดบุกขึ้นสูง แดนหลังก็ถูกปั่นป่วนโดยตัวรุกของเจ้าบ้าน
โอกาสได้ลุ้นจะแจ้งของผู้มาเยือนอยู่ในช่วงนาทีที่ 34 โดยอเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้ยิง และคริสเตียโน โรนัลโด ได้โหม่งในจังหวะบุกต่อเนื่องกัน แต่เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้าน ยังเชฟได้อย่างยอดเยี่ยม
เกมทำท่าจะจบ 2-0 ครึ่งแรก แต่ผีแดงก็มาได้ประตูสำคัญ เป็นจังหวะบุกต่อเนื่อง และลุค ชอว์ ยิงไกล บอลเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ไปแฉลบเจค็อบ แรมซีย์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ผู้รักษาประตูวิลลาทำได้แต่ยืนมอง ทางพรีเมียร์ลีกจึงให้เป็นลูกทำเข้าประตูตัวเองของแรมซีย์ นาทีที่ 45 ยูไนเต็ดไล่มา 2-1 ก่อนจบครึ่งเวลาแรก
วิลล่า-เอเมอรี่ร่วมทุบสถิติ
เริ่มครึ่งเวลาหลังมาได้ไม่นานเจ้าบ้านก็ทิ้งห่างผีแดงออกไปอีกอย่างรวดเร็ว โดยโอลลี่ วัตกินส์ ส่งให้ เจค็อบ แรมซีย์ ยิงเน้น ๆ บริเวณกรอบเขตโทษ จากจังหวะสวนกลับ แรมซีย์แก้ตัวได้สำเร็จ พาเจ้าบ้านหนีไปเป็น 3-1 ในนาทีที่ 49 ยูไนเต็ดเสียประตูในเวลาที่ไม่ควรเสียทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง
นาทีที่ 65 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเปลี่ยนทีเดียวถึง 3 คน โดยส่งไทเรลล์ มาลาเซีย แอนโธนีย์ อีลังกา และ อองโธนี มาร์ซียาล ลงสนามแทน ลุค ชอว์ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ก และ อเลฮานโดร การ์นาโช แต่เกมก็ยังไม่ได้ลุ้นมากขึ้นเท่าใดนัก
เกมเข้าสู่ช่วงนาทีที่ 80 โดยยูไนเต็ดยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสจบสกอร์ที่ได้น้ำได้เนื้อ และดูจะหวาดเสียวด้วยซ้ำเมื่อแอสตัน วิลล่า เล่นในจังหวะสวนกลับ
จบเกมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ เป็นแอสตัน วิลล่า ที่ประเดิมผลงานกุนซือคนใหม่ได้อย่างสวยงาม เอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปได้ 3-1 ขยับขึ้นสู่โซนปลอดภัยในอันดับที่ 13 โดยผีแดงยังคงต้องลุ้นตำแหน่งท็อป 4 ต่อไปและยังคงอยู่ที่ 5 ของตารางคะแนน
ด้านอูไน เอเมรี่ ถือเป็นผู้จัดการทีมคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ไม่แพ้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในการพบกันถึง 4 ครั้ง และสิงห์ผยองทำลายคำสาปได้สำเร็จ โดยล่าสุดที่แอสตัน วิลล่า ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในบ้านตัวเอง ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนสิงหาคม ปี 1995 หรือเมื่อ 27 ปีที่แล้วเลยทีเดียว
หลังเกม เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์ตำหนิลูกทีม ว่า เป็นเรื่องรับไม่ได้ที่เสียประตูเร็วขนาดนั้นในครึ่งหลัง
“นักเตะเรามีประสบการณ์ คุณต้องอ่านเกมให้ออกและจัดกระบวนท่า ไม่จำนนกับสองประตูแรก ซึ่งไม่จำเป็นเลย คุณต้องชนะในการต่อสู้ ช่วงเริ่มเกมควรจะครองบอลให้ดีกว่านี้ ดูเหมือนว่านักเตะแอสตัน วิลล่าจะสดกว่า แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง นักเตะต้องรับผิดชอบและพร้อมเสมอ”
ผลคู่อื่น
เซาแธมป์ตัน 1-4 นิวคาสเซิล ทำให้นิวคาสเซิล ครองอันดับ 3 ของตารางต่อไป ส่วนนักบุญอยู่ในโซนอันตราย อันดับ 18
เวสต์แฮม 1-2 คริสตัล พาเลซ ทำให้คริสตัล พาเลซ ขยับขึ้นมาที่ 9 ส่วนเวสต์แฮมอยู่ที่ 12
……
