ฟุตบอลโลก 2022 นัดที่ 2 กลุ่มเอฟ โมร็อกโกพลิกล็อกเอาชนะเบลเยียม 2-0 โอกาสเข้ารอบสูง ด้านเบลเยียมลุ้นเหนื่อยนัดสุดท้าย
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสอง ที่สนามอัล ธูมามา สเตเดี้ยม ปีศาจแดงแห่งยุโรป “ทีมชาติเบลเยียม” พบกับ สิงโตแอตลาส “ทีมชาติโมร็อกโก” เบลเยียมประเดิมสนามด้วยการเก็บ 3 แต้มมาได้จากแคนาดา ส่วนโมร็อกโกมี 1 แต้มจากการเสมอกับโครเอเชีย เกมนี้เบลเยียมถือว่าสภาพทีมสมบูรณ์ โดยขาดเพียงแค่โรเมลู ลูกากู ส่วนโมร็อกโกนำมาโดยตัวความหวังอย่างฮาคิม ซิเย็ค
- ด่วน! วอยซ์ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
เริ่มเกมมาไม่นาน เบลเยียมมีโอกาสได้ลุ้นก่อน จากการยิงของมิชี่ บัตชูอายี่ ทางด้านซ้าย แต่บอลไปติดเซฟมูเนียร์ โมฮาเมดี้ ผู้รักษาประตูโมร็อกโก ในนาทีที่ 5
เกมผ่านช่วง 20 นาที เป็นเบลเยียมที่ค่อนข้างเหนือกว่า ได้ทดสอบเกมรับโมร็อกโกอย่างต่อเนื่องจากลูกฟรีคิกและลูกเตะมุม โดยโอกาสจบสกอร์เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
โอกาสสุดท้ายในครึ่งแรกเป็นของโมร็อกโกที่ได้ฟรีคิกทางด้านขวา และเป็นฮาคิม ซิเย็ค ที่กึ่งยิงกึ่งเปิด ส่งบอลเข้าประตูไปแล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 45+1 แต่ก็ถูก VAR ริบประตูคืน จากจังหวะล้ำหน้าของโรแม็ง ซาอิสส์ ที่ไปมีส่วนรบกวนผู้รักษาประตู
ครึ่งเวลาแรกเบลเยียมมีโอกาสยิงเพียง 6 ครั้ง เข้ากรอบ 2 ครั้ง และโมร็อกโก ยิง 4 ครั้งเข้ากรอบ 1 ครั้ง โดยที่สกอร์ยังคง 0-0
เริ่มต้นครึ่งหลังเป็นโมร็อกโกที่มีโอกาสยิงก่อน จากฮาคิม ซิเย็ค บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็ไม่ใช่งานยากของธิโบต์ กูร์ตัวส์ จากนั้นเป็นเอเดน อาซาร์ ที่ได้ซัดให้เบลเยี่ยมได้ลุ้น ซึ่งมูเนียร์ โมฮาเมดี้ ผู้รักษาประตูโมร็อกโกก็เซฟไว้ได้เช่นกันในช่วงนาทีที่ 50
จากนั้นรูปเกมเริ่มเร็วขึ้นกว่าในครึ่งแรก ทั้งคู่ผลัดกันชิงจังหวะในแดนกลาง และเป็นโซฟิยาน บูฟาล ที่ได้ลากและบรรจงปั่นจากทางซ้าย บอลโค้งหนีมือกูร์ตัวส์ไปแล้วแต่หลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 57
ในนาทีที่ 60 ม้านั่งสำรองของเบลเยี่ยมเริ่มขยับ โรแบร์โต มาร์ติเนซ เลือกส่งยูรี ตีเลอมันส์ ลงแทนอมาดู โอนาน่า ที่โดนคาดโทษใบเหลือง และส่งดรีส์ เมอร์เท่นส์ แนวรุกตัวเก๋าลงแทนเอเดน อาซาร์ ซึ่งฟอร์มค่อนข้างเงียบในเกมนี้
สำรองอย่างเมอร์เท่นส์ มีโอกาสได้กดจากหน้ากรอบเขตโทษหลังลงมาไม่นาน ทำให้โมฮาเมดี้ต้องออกแรงพุ่งปัดออกไป
และแล้วประตูแรกของเกมก็เกิดขึ้น จากจังหวะฟรีคิกของโมร็อกโกทางด้านซ้าย เป็นอับเดลฮามิด ซาบิรี ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 68 กึ่งยิงกึ่งผ่านไปทางเสาแรก บอลผ่านมือกูร์ตัวส์ มุดเข้าประตูไป ทำให้โมร็อกโกได้ประตูสำคัญออกนำเบลเยียม 1-0 ในนาทีที่ 73 แม้รูปเกมจะตกเป็นรอง
ช่วงท้ายเกมเบลเยียมพยายามเร่งเครื่องและครองบอลบุกแต่ก็ไม่มีจังหวะจะเเจ้งเท่าไรนัก และกลายเป็นโมร็อกโกที่มาบวกประตูย้ำชัยได้โดย ซากาเรีย อาบูคลัล ในนาทีที่ 90+3
จบเกมเป็นโมร็อกโกที่เก็บ 3 แต้มสำคัญ ชนะเบลเยียมไป 2-0 ทำให้ตอนนี้มี 4 คะแนนขึ้นเป็นจ่าฝูงของกลุ่มแทนเบลเยียมที่มี 3 คะแนน กลุ่มเอฟจึงต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย ซึ่งโมร็อกโกจะพบกับแคนาดา และดูจะเป็นเบลเยียมที่ต้องเจองานยากกว่าโดยจะพบกับโครเอเชียในนัดต่อไป
