เลสเตอร์ฯ ปลด “เบรนแดน ร็อดเจอร์ส” แล้ว เหตุผลงานแย่เกินรับไหว

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ปลดเบรนแดน ร็อดเจอร์ส จากตำแหน่งผู้จัดการทีมแล้ว เนื่องจากผลงานของทีมย่ำแย่ อยู่ท้ายตารางพรีเมียร์ลีก 

วันที่ 2 เมษายน 2566 สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศยุติการทำงานกับเบรนแดน ร็อดเจอร์ส หลังรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชุดใหญ่มาครบ 4 ปี 

เลสเตอร์ ซิตี้ แถลงว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะอำลาถิ่น “คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” ในฐานะหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยนำทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อปี 2021 และคว้าแชมป์เอฟ เอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 

ในปีเดียวกัน ร็อดเจอร์ส ยังพาทีมจบอันดับในพรีเมียร์ลีกสูงที่สุด เป็นอันดับสองและสามของสโมสร และสามารถพาทีมลงแข่งขันในศึกฟุตบอลยุโรปติดต่อกันสองฤดูกาล รวมถึงผลงานในการพาทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก เป็นครั้งแรกในปี 2022

คริส เดวี่ส์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมและเกล็น ดริสโคลล์ โค้ชฟิตเนสทีมชุดใหญ่ จะอำลาทีมไปเช่นกัน 

สำหรับการแข่งขันที่เหลือในฤดูกาลนี้ อดัม แซดเลอร์ และไมค์ สโตเวลล์ โค้ชทีมชุดใหญ่ที่รับใช้สโมสรมาอย่างยาวนาน จะรับผิดชอบการฝึกซ้อมทีมชุดใหญ่ และการเตรียมทีมในการแข่งขันนัดต่อไป

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ความสำเร็จของทีมภายใต้การบริหารของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เป็นสิ่งที่เราทราบกันดี เราเคยมีประสบการณ์กับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นฟุตบอลภายใต้คำแนะนำของเขา และเราจะขอบคุณเขาและทีมงานเสมอสำหรับความสำเร็จที่เขาได้ทำไว้กับสโมสร” 

“เบรนแดน น้อมรับวัฒนธรรมของสโมสรและช่วยปลูกฝังสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เราปรับตัวกับสนามฝึกซ้อมเลสเตอร์ ซิตี้ เทรนนิ่ง กราวน์ แห่งใหม่ เขามีความเป็นผู้นำในช่วงที่มีระบาดของ โควิด-19 และเขาจะอยู่ในใจของเราตลอดไป”

“อย่างไรก็ตาม ผลงานของทีมในฤดูกาลปัจจุบันต่ำกว่าที่เราคาดไว้ เราเชื่อในความต่อเนื่องและความมั่นคงซึ่งเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จก่อนหน้านี้ภายใต้การบริหารของเบรนแดน น่าเสียดายที่ทีมยังไม่สามารถปรับปรุงผลการแข่งขันให้ดีขึ้น และด้วยการแข่งขันเหลืออีกเพียง 10 เกมของฤดูกาล ฝ่ายบริหารจำเป็นต้องตัดสินใจดำเนินการทางเลือกอื่น เพื่อรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีกของสโมสร”

“ยังมีงานที่รอเราอยู่ใน 10 เกมข้างหน้า ตอนนี้เราต้องร่วมมือกัน ทั้งแฟนบอล นักเตะ และ สต๊าฟ ต้องแสดงให้เห็นถึงความสุขุม คุณภาพ และการต่อสู้เพื่อรักษาสถานภาพในพรีเมียร์ลีกของสโมสร”

ทั้งนี้ ณ วันที่ 2 เมษายน 2566 เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตกชั้นไปเล่นในลีกรอง เนื่องจากคะแนนอยู่ในอันดับที่ 19 จาก 20 ทีมของพรีเมียร์ลีก ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น จะเป็นความตกต่ำที่สุดของเลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบหลายปี นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกในปี 2014 และสร้างเทพนิยายคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2015/2016