JAS คือบริษัทอะไร ทำธุรกิจประเภทไหน ส่องรายได้-กำไร หลังทุ่มคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก และเอฟเอคัพ มูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านบาท
นับเป็นข่าวฮือฮาสำหรับแฟนบอลและแวดวงธุรกิจในค่ำคืนที่ผ่านมา เมื่อบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ “JAS” กำลังจะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเอฟเอคัพรายใหม่ แทนที่ “ทรู วิชั่นส์”
โดย JAS แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เข้าทำรายการเพื่อให้ได้รับสิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity Right) ในการถ่ายทอดภาพและเสียงรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ บนอินเทอร์เน็ตทีวี (Internet TV) และดิจิทัลทีวี (Digital TV) รวมถึงชุดวิดีโอสั้น (Clips Package) ตลอดระยะเวลารายการฟุตบอลฟรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 3 ฤดูกาล โดยเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2025/26
หรือ 6 ฤดูกาล ในกรณีที่บริษัทได้รับแจ้งจากทางเอฟเอ พรีเมียร์ลีก (FAPL) เป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ในประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศกัมพูชา โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 19,167,723,414 บาท
กล่าวง่าย ๆ ว่า JAS ได้บรรลุข้อตกลงในการถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเอฟเอคัพ แต่เพียงผู้เดียวใน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา และลาว อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ ในฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ JAS ระบุว่า มุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดคอนเทนต์ให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ และตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก จากจำนวนคนทั้งสิ้น 96 ล้านคน โดยมีกลุ่มบริษัทโมโน (MONO) อาทิ MONOMAX และช่อง MONO29 เข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำการตลาดและจัดจำหน่ายที่สำคัญ
JAS คือบริษัทอะไร ทำธุรกิจประเภทไหน
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า JAS แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี 2.ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี โซลูชั่น และ 3.ธุรกิจอื่น ๆ โดยมี “นายพิชญ์ โพธารามิก” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 52.07% ซึ่งในปัจจุบันบริษัทย่อยของ JAS ประกอบธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี (Internet TV Business) ดังนี้
บริษัท แจส ทีวี จำกัด (เดิมคือบริษัท ทรี บีบี ทีวี จำกัด) ให้บริการแฟลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตทีวีแก่ลูกค้าจำนวนกว่า 600,000 ราย ภายใต้ชื่อบริการ 3BB GIGATV ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ โดยมีบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ดำเนินการจัดหาและรวบรวมคอนเทนต์ให้แก่ 3BB GIGATV
โดยปัจจุบัน 3BB GIGATV ให้บริการผ่านกล่อง Android Box ที่มีคอนเทนต์หลากหลาย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศในการจัดหาคอนเทนต์ เช่น HBO, CNN, Bloomberg, Tencent (We TV), MONOMAX, BBC และ NHK
รวมทั้งให้บริการแบบบอกรับสมาชิก (Subscription Channel) ภายใต้ความร่วมมือกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการให้บริการแพคบอลไทยลีคแบบรายเดือนและตลอดฤดูกาล รวมทั้งมีการให้บริการช่องกีฬาโดยเฉพาะอย่าง 3BB Sports One ด้วย
ดังนั้น การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพจึงจัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัท นั่นคือ ธุรกิจบริการอินเทอร์เน็ตทีวี
รายได้-กำไร JAS
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2563 นั้น JAS มีรายได้รวมอยู่ที่ 19,204.75 ล้านบาท ปี 2564 มีรายได้ 20,372.96 ล้านบาท ปี 2565 มีรายได้ 20,286.65 ล้านบาท ปี 2566 มีรายได้ 28,769.41 ล้านบาท และ 6 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้ 1,985.04 ล้านบาท
สำหรับกำไรสุทธินั้น ปี 2563 JAS ขาดทุน 3,125.75 ล้านบาท ปี 2564 ขาดทุน 1,500.70 ล้านบาท ปี 2565 ขาดทุน 2,028.59 ล้านบาท ปี 2566 กำไร 19,837.38 ล้านบาท และ 6 เดือนแรกของปี 2567 มีกำไร 102.22 ล้านบาท
JAS ระบุว่า การได้รับลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ JAS และ MONO ในการร่วมกันขยายธุรกิจด้านคอนเทนต์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มาอย่างยาวนาน โดยมีความพร้อมด้านเงินทุนภายหลังการขายธุรกิจ 3BB รวมถึงเป็นการกระจายพอร์ตการลงทุนครอบคลุมทั้งธุรกิจด้านเทคโนโลยี ภายใต้การนำของ บริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS และธุรกิจด้านโทรคมนาคมภายใต้การนำของ บริษัท จัสเทล เน็ทเวิร์ค จำกัด หรือ JASTEL