ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดฉากฤดูกาลใหม่ ด้วยความพิเศษมากมาย ทั้งเป็นปีที่ 30 ของการก่อตั้ง และเป็นปีที่ต้องพักการแข่งขันกลางคัน ให้ศึกฟุตบอลโลก
วันที่ 5 สิงหาคม 2565 การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022/23 จะเปิดฉากด้วยแมตช์ คริสตัล พาเลซ พบ อาร์เซนอล เวลาสองทุ่มของอังกฤษ และตรงกับช่วงตีสองของไทย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ความพิเศษของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้คือการครบรอบปีที่ 30 ของการก่อตั้งนับจากปี 1992 (พ.ศ. 2535) และจะเป็นฤดูกาลแรกที่การแข่งขันจะพักกลางคัน 6 สัปดาห์ เพื่อเปิดทางให้การแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ วันที่ 21 พ.ย. ถึง 18 ธ.ค. ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ และจำเป็นต้องจัดการแข่งขันในช่วงฤดูหนาว
หมายความว่า ก่อนฟุตบอลโลก พรีเมียร์ลีก แต่ละทีมจะแข่ง 16 นัด ในจำนวนนี้แข่งในเดือนสิงหาคม 5 นัด กันยายน 3 นัด ตุลาคม 6 นัด และพฤศจิกายน 2 นัด
แมตช์ที่จัดวางไว้วันที่ 12-13 พ.ย. หรือก่อนบอลโลกเปิดฉาก กำหนดไว้แล้วว่า ทีมใหญ่ “big six” (บิ๊กซิกซ์) จะไม่ดวลแข้งกันเอง ตามคำขอของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ FA เพราะเหล่านักเตะทีมชาติอังกฤษต้องเริ่มรวมตัวก่อนวันที่ 14 พ.ย. ก่อนไปสู้ศึกที่กาตาร์
แมตช์ที่กำหนดไว้วันที่ 26-27 ธ.ค. ให้ขยับไปเล่นวันที่ 29, 30 และ 31 ธ.ค. ส่วนแมตช์วันขึ้นปีใหม่ ให้ขยับไปเล่น วันที่ 2, 3, 4 หรือ 5 ม.ค.
แมนฯซิตี้-ลิเวอร์พูล
นอกเหนือจากฟุตบอลโลก สำนักข่าว เอเอฟพี วิเคราะห์ว่า ฤดูกาล 2022/23 จะเป็นการชิงตำแหน่ง ท็อปโฟร์ที่เข้มข้นมาก แมนเชสเตอร์ ซิตี และลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะจองที่ไว้สองอันดับแล้ว จึงเหลือ 2 อันดับให้ทีมใหญ่อื่นต้องขับเคี่ยวกัน
เห็นได้ชัดว่า 4 สโมสร เชลซี อาร์เซนอล ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามกวาดนักเตะใหม่เข้าเสริมทัพเพื่อบีบช่องห่างกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี และลิเวอร์พูล ให้แคบลง
เชลซียุคเจ้าของใหม่
สำหรับ เชลซี เป็นฤดูกาลของนายใหม่ ทอดด์ โบห์ลีย์ ชาวอเมริกัน ที่มาแทน เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ซึ่งเจอพิษสงครามรัสเซีย-ยูเครน บีบให้ขายสโมสร
ดังนั้น โธมัส ทูเคิล กุนซือเยอรมัน จึงออกอาการว่ารู้สึกถึงอุณหภูมิร้อนที่ต้องสร้างผลงาน ไม่ว่า การดึง ราฮีม สเตอร์ลิง จากแมนฯซิตี เป็นนักเตะใหม่คนแรกของเชลซีในยุคนายใหม่ ค่าตัว 47.5 ล้านปอนด์ ขณะที่โรเมลู ลูคาคู ถูกส่งกลับไปมิลาน
ตำแหน่งนักเตะที่เชลซีโฟกัสมากกว่าคือการหากองหลัง มาแทน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อันเดรียส คริสเตนเซน ที่พาไปกันอยู่เรอัล มาดริด ล่าสุด เชลซีคว้า มาร์ก กูกูเรยา นักเตะชาวสเปนมาจากไบรท์ตัน ด้วยดีล 60 ล้านปอนด์ ต่อเนื่องจาก คาลิดู คูลิบาลี่ จากนาโปลี 33 ล้านปอนด์
ท็อตแนมและอาร์เซนอล
สองทีมใหญ่ทางเหนือของกรุงลอนดอน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ และ อาร์เซนอล เพิ่งบดบี้ในช่วงท้ายฤดูกาลก่อน และเป็นไก่เดือยทองที่เข้าป้ายท็อปโฟร์
อันโตนิโอ คอนเต โค้ชของสเปอร์ กล่าวตอนนั้นว่าเป็น “ปาฏิหาริย์” ที่ได้ไปเล่นแชมเปียนส์ลีก จนเจ้าของสโมสร ดาเนียล เลวี ยอมเปิดกระเป๋าตังค์ช็อปนักเตะใหม่เข้ามา ไม่ว่า ริชาร์ลิซอน, อีฟส์ บิสซูมา, อิวาน พูลิซิช และเฟรเซอร์ ฟอสเตอร์
ส่วนอาร์เซนอล ต้องทิ้งความผิดหวังไว้กับฤดูกาลเก่า แล้วเริ่มต้นใหม่ ด้วยทุนช็อปนักเตะ 100 ล้านปอนด์
โค้ช อาร์เตตาดึงตัว กาเบรียล เชซุส และ โอเลกซานเดอร์ ซินเชนโก มาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวรวมกัน 75 ล้านปอนด์ และเซ็น ฟาบิโอ วิเอรา จากปอร์โต มา 34 ล้านปอนด์
แมนฯ ยูไนเต็ด สุดอลวน
เอริก เทน ฮาก โค้ชใหม่ชาวดัตช์ ได้คะแนนเห็นใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มฤดูกาล นอกจากจะช็อปนักเตะที่หมายตาไว้ไม่ได้ครบดังหวัง การผ่าตัดทีมที่ ราล์ฟ รังนิก ผู้จัดการทีมคนเก่าแนะนำไว้ว่าต้องถึงระดับ “ผ่าตัดหัวใจ” ยังเต็มไปด้วยอุปสรรคที่ส่อถึงความลำบากยากเย็น
ไม่เท่านั้น ความเป็นซูเปอร์สตาร์คับฟัาของ คริสเตียโน โรนัลโด ยังตีรวนด้วยการขอย้ายสโมสร อีกทั้งการขับรถออกจากสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดกระชับมิตรกับทีมราโย บาเยกาโน ทั้งที่เกมยังไม่จบ ทำให้เทน ฮาก ถึงกับกล่าวว่า “รับไม่ได้”
ถึงวันนี้ ปีศาจแดงเซ็นนักเตะใหม่เข้ามาได้เพียง 3 คน คือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย และ คริสเตียน เอริกเซน
นัดแรกที่แมนฯยูฯจะพบกับไบรท์ตัน วันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. จะเป็นจุดสำคัญสำหรับ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช ว่าจะรักษาโอกาสที่สองที่ได้รับไว้หรือไม่
สิ่งที่ห้ามและสิ่งที่เลิก
ฤดูกาลใหม่นี้ พรีเมียร์ลีกและฟุตบอลลีก แถลงร่วมกันว่า จะใช้มาตรการลงโทษฉบับใหม่ต่อผู้ที่ยังฝ่าฝืนโยนระเบิดควันและจุดดอกไม้ไฟในสนาม หลังจากเคยทำให้นักเตะและทีมงานบาดเจ็บมาแล้ว รวมถึงแพตทริก วิเอรา โค้ช คริสตัล พาเลซ และบิลลี ชาร์ป ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
สมาคมฟุตบอลอังกฤษแถลงว่า “ฤดูกาลใหม่นี้ บุคคลที่ยังกระทำการดังกล่าวจากการรายงานของสโมสรต่อตำรวจและอัยการ จะปรากฏชื่อในบันทึกคดีอาชญากรรมไปตลอด ซึ่งจะมีผลต่อการศึกษาและการจ้างงาน รวมถึงการต้องโทษจำคุกด้วย”
สำหรับกิจกรรมที่จะเลิกทำในฤดูกาลใหม่ คือการคุกเข่าเพื่อรณรงค์ต่อต้านการเหยียดสีผิว ที่เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2020 จากกรณีความตายของจอร์จ ฟลอยด์ ในสหรัฐอเมริกา หลังจากเห็นว่า การแสดงออกดังกล่าวนอกจากไม่ช่วยในการรณรงค์แล้ว นักเตะยังถูกโห่และกลายเป็นข้อขัดแย้ง
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกดังกล่าวจะยังจะมีเป็นบางโอกาส เช่น เดือนตุลาคม และเดือนมีนาคม นัดบ็อกซิ่งเดย์ และนัดชิงชนะเลิศของถ้วยคาราบาวคัพ และเอฟเอคัพ
แมตช์สัปดาห์แรกของฤดูกาล
ศุกร์ที่ 5 ส.ค. คริสตัล พาเลซ กับ อาร์เซนอล
เสาร์ที่ 6 ส.ค.
- ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล
- บอร์นมัธ พบ แอสตัน วิลลา
- ลีดส์ ยูไนเต็ด พบ วูล์ฟแฮมตัน
- เลสเตอร์ ซิตี พบ เบรนต์ฟอร์ด
- นิวคาสเซิล พบ นอตติงแฮม ฟอร์เรสต์
- ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พบ เซาแธมป์ตัน
- เอฟเวอร์ตัน พบ เชลซี
วันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบรท์ตัน
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี
++
