“พิพัฒน์” สั่งตั้งทีมศึกษาค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยว หวังใช้ข้อมูลวางแผนพัฒนาการท่องเที่ยวได้ถูกจุด หากสำเร็จนักท่องเที่ยวสามารถใช้วางแผนเที่ยวตามงบที่มี
วันที่ 2 กันยายน 2565 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ได้สั่งการให้ตั้งคณะเพื่อศึกษาเรื่องการจัดทำดัชนีค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
โดยกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานที่เสนอให้ศึกษาการจัดทำดัชนีดังกล่าวขึ้น โดยดัชนีค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยว จะช่วยสำรวจราคาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวในแต่ละจุดหมายปลายทาง จัดทำข้อมูลราคาสินค้าที่นักท่องเที่ยวนิยม อาทิ บริการแหล่งท่องเที่ยว การบริโภคสินค้า นักท่องเที่ยวสามารถเลือกปลายทาง และวางแผนการเดินทางที่สอดคล้องกับงบประมาณที่มี ในขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นมีมุมมองที่ชัดเจนขึ้นในการวางแผนพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว
ภาครัฐหรือเอกชนสามารถนำดัชนีค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยวไปใช้ในการออกแบบมาตรการส่งเสริม หรือกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทบทวนบริการแหล่งท่องเที่ยว หรือแหล่งขายสินค้าที่ระลึกด้านการท่องเที่ยว ช่วยให้การกำกับดูแลราคาสินค้าและบริการในเมืองท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพ
นางสาวฐาปณีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านการตลาดภายในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า กระทรวงพาณิชย์ ให้เหตุผลว่าหากมีดัชนีค่าครองชีพเมืองท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมราคาจะสามารถกำหนดราคาสินค้าในเมืองท่องเที่ยวได้เหมาะสม สำหรับผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยว และอาจเป็นเกณฑ์มาตรฐานอย่างเป็นทางการสำหรับคู่มือการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เช่น Lonely Planet และ Michelin Green Guide
ทั้งนี้ ในปี 2562 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ 3.3 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 17.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ภาคการท่องเที่ยวก่อให้เกิดการจ้างงาน ทั้งในภาคของการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ โรงแรมที่พักภัตตาคารร้านอาหาร ธุรกิจทัวร์ ธุรกิจก่อสร้าง สร้างรายได้สู่ท้องถิ่นและชุมชน