China is Back ตัวแปร (หลัก) ฟื้นท่องเที่ยวไทย

China is Back

คาดการณ์กันว่าปี 2566 นี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก หลังจากที่ทางการจีนโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน หรือ NHC ได้ประกาศยกเลิกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยว “ขาเข้า” ประเทศทั้งหมด

โดยใช้วิธีแสดงผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ 48 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องบินแทน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป

เรียกว่า เป็นการปิดฉากมาตรการคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น หรือ Zero COVID ที่ใช้มานานเกือบ 3 ปีเต็มไปเรียบร้อยแล้ว

การประกาศนโยบายเปิดประเทศของทางการจีนแบบรัว ๆ รอบนี้ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ต้องเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน และกลุ่มผู้ประกอบการซึ่งเป็นซัพพลายไซด์ทุกภาคส่วน

อาทิ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว, สมาคมท่องเที่่ยวไทยจีน, สมาคมโรงแรม, สมาคมมัคคุเทศก์, สำนักงานการบินพลเรือน, ตัวแทนสายการบิน, สมาคมรถขนส่ง ฯลฯ ประชุมร่วมเพื่อประเมินดีมานด์ และเตรียมพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวจีนทันทีเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

8 ม.ค. 65 จีนเปิดเต็มรูปแบบ

“ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่าจากการมอนิเตอร์ของสำนักงานการท่องเที่ยวในประเทศจีนมีพบว่า

ภาพรวมของการผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศของจีนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ด้วยการออกนโยบาย 5-1 (five-one) หนึ่งสายการบิน หนึ่งประเทศ หนึ่งเส้นทาง หนึ่งเที่ยวบิน หนึ่งสัปดาห์

และเดือนสิงหาคม 2565 ที่อนุญาตให้ชาวจีนและชาวต่างชาติที่ถือใบอนุญาตพำนักในประเทศจีน ทั้งที่เป็นนักศึกษา หรือนักธุรกิจ APEC ออกเดินทางได้ก่อน จากนั้นพฤศจิกายน 2565 ที่มีการเดินทางมาร่วมการประชุม APEC ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และภริยา ทำให้เกิด sentiment เชิงบวกต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก

กระทั่ง 26 ธันวาคม 2565 รัฐบาลจีนประกาศผ่อนปรนมาตรการการเดินทางใน 3 ประเด็น คือ 1.ยกเลิกการกักตัวทั้งหมด 2.ยกเลิกนโยบาย 5-1 ของสายการบิน และ 3.อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนออกเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2565

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ

และล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 27 ธันวาคม 2566 สำนักบริหารการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน ได้ออกประกาศอีกฉบับว่า ให้คนจีนสามารถออกเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวในต่างประเทศได้ รวมถึงการรับและอนุมัติคำขอหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ทั่วไปของพลเมืองจีนที่มีจุดประสงค์ท่องเที่ยวและเยี่ยมเพื่อนในต่างประเทศ

รวมทั้งจะกลับมาให้บริการเกี่ยวกับการยื่นขอวีซ่าทั่วไป ใบอนุญาตพำนัก และใบสำคัญถิ่นที่อยู่ สำหรับชาวต่างชาติซึ่งอาจต้องการดำเนินขั้นตอนเร่งด่วนในกรณีจำเป็น และบริการออกวีซ่า ณ ด่านตรวจลงตรา นโยบายเดินทางผ่านแบบฟรีวีซ่าระยะ 24/72/144 ชั่วโมง และใบอนุญาตพำนักชั่วคราว

เรียกว่า ทางการจีนได้เปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้ว ทั้งชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศ (นักท่องเที่ยวขาเข้า) และคนจีนที่เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวต่างประเทศ (นักท่องเที่ยวขาออก) เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ แล้ว

China is Back

“ธเนศวร์” บอกด้วยว่า หลังจากที่ทางการจีนประกาศนโยบายดังกล่าวออกมาพบว่า มีสัญญาณเป็นบวกภายในประเทศจีนในหลาย ๆ ประเด็น อาทิ 1.ดีมานด์การเดินทางกลับมาอย่างชัดเจน โดยข้อมูลจากแพลตฟอร์ม Qu Na er (ชู่วหน่า) รายงานว่า ปริมาณการค้นหาสำหรับตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 7 เท่า และจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 คือ ไทย ตามด้วย ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม Tong Cheng Lu Xing (ก๋งเฉิง) มีการค้นหาตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 850% และมีปริมาณการค้นหาทันทีของวีซ่าเพิ่มขึ้น 10 เท่า และกลุ่มผู้ใช้ในการค้นหาหลักมาจากปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว

นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ สื่อโทรทัศน์ CNBC ยังรายงานว่า หลังจากการประกาศผ่อนคลายนโยบายการเดินทางระหว่างประเทศของรัฐบาลจีน ประเทศไทยติดอันดับท็อป 10 เดสติเนชั่นที่นักท่องเที่ยวจีนต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทั้ง 5 แห่งในประเทศจีนมอนิเตอร์และเตรียมแผนการตลาดล่วงหน้ามาเป็นระยะ และได้เตรียมแผนยุทธศาสตร์สำหรับตลาดจีนไว้แล้วว่าจะดำเนินงานภายใต้คอนเซ็ปต์ China is Back หรือ “วันที่เรารอคอยมาถึงแล้ว”

เร่งตลาดผ่าน 5 ช่องทาง

ด้าน “ชูวิทย์ ศิริเวชกุล” ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ททท.ได้เตรียมทำการตลาดไว้ 5 ช่องทางหลัก ประกอบด้วย 1.ทำการสื่อสารในธีม “ไทย-จีน ครอบครัวเดียว” 2.บุกตลาดผ่านเวิลด์ไวด์ แพลตฟอร์ม อาทิ Ctrip, pliggy, Alipay, Quner.com, UnionPay, www.lvmama.com

3.Live Streaming Sale โดย MA TIANYU (RAY MA) ศิลปิน นักแสดงชาวจีนที่ยอดผู้ติดตามทาง Weibo จำนวน 32 ล้านคน ความยาว 2 ชั่วโมงในวันที่ 10 มกราคม 2566 และซีอีโอ Ctrip จะทำการไลฟ์สดจากกรุงเซี่ยงไฮ้ไปทั่วประเทศจีน ความยาว 2 ชั่วโมงในวันที่ 11 มกราคม 2566 โดยตั้งเป้าว่าจะมียอดขายของแพ็กเกจการเดินทางจำนวน 6 หมื่นแพ็กเกจ

4.ฟื้นเที่ยวบินและเจรจาเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อเชื่อมโยงทั้งเมืองหลักและเมืองรองของประเทศไทยและจีน และ 5.ใช้ประโยชน์จากเส้นทาง R3A โดยดีไซน์แพ็กเกจการท่องเที่ยวผ่านช่องทางทางบกในหลากหลายรูปแบบ อาทิ เส้นทางรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ผ่านเวียงจันทน์เข้าไทยทางภาคอีสาน, คาราวานรถยนต์ท่องเที่ยว เข้าไทยทางภาคเหนือและอีสาน, คาราวานรถบิ๊กไบก์ เป็นต้น

คาด 3 เดือนแรก 3 แสนคน

“ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศเปิดประเทศของทางการจีนดังกล่าวมาเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม สมาคมประเมินว่าจะยังไม่เห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาทันทีทันใดในช่วงเดือนมกราคม 2566 หรือในช่วงตรุษจีนนี้

เนื่องจากหลาย ๆ ส่วนยังไม่พร้อม โดยเฉพาะในฟากของสายการบิน รวมถึงขั้นตอนการยื่นขอทำพาสปอร์ตและวีซ่าซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร

โดยคาดว่าเร็วที่สุดที่น่าจะเห็นบรรยากาศการเดินทางที่คึกคักคือ ตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน 2566 เป็นต้นไปทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 3 เดือนแรก (มกราคม-มีนาคม 2566) จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน

นักท่องเที่ยว

“ที่ผ่านมาเราได้คุยกับคู่ค้าในเมืองจีนมาเป็นระยะ และรับรู้ถึงสัญญาณของการผ่อนคลายมาตรการอยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะมากะทันหัน และเร็วกว่าที่คาดการณ์แบบนี้ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ผู้ประกอบการในจีนก็ประสบปัญหาเรื่องแรงงานเช่นเดียวกับในประเทศไทย ทั้งในส่วนบริษัททัวร์ สายการบิน โรงแรมฯลฯ ผมจึงเชื่อว่าทันทีที่เปิดจีนจะยังไม่ทะลักเข้ามาทันทีแน่นอน”

ขณะที่ “วิชิต ประกอบโกศล” รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ประเมินว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งทางอากาศและผ่านด่านทางบกรวมประมาณ 4 แสนคน หรือไม่ต่ำกว่า 3 แสนคนแน่นอน”

โดยคาดการณ์ว่าเดือนมกราคม 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประมาณ 5 หมื่น-1 แสนคน เดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2566 น่าจะมีจำนวนราว 1-2 แสนคน และคาดว่าตลอดทั้งปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน หรือหาก ททท. เร่งทำตลาดอย่างเต็มที่อาจได้ถึง 7 ล้านคน

ปี’66 นักท่องเที่ยว 25 ล้านคน

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้สัมภาษณ์ว่า แผนการเปิดประเทศของรัฐบาลจีนที่ประกาศออกมานั้นถือว่าเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และเป็นการผ่อนคลายมาตรการระดับประเทศเป็นครั้งแรกหลังจากที่ใช้มาตรการคุมเข้ม

หรือ Zero COVID มานานเกือบ 3 ปีเต็ม จากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเห็นภาพการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงต้นไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงของการเปลี่ยนตารางฤดูร้อน (summer schedule) ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2566

พร้อมบอกด้วยว่า แนวทางดังกล่าวนี้เป็นปัจจัยบวกอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยและทั่วโลก โดยประเมินว่าปี 2566 นี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเติมอีกประมาณ 5-6 ล้านคน จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 20 ล้านคน

“เท่าที่ ททท.ประเมินไว้ เราไม่กังวลเรื่องดีมานด์ แต่เป็นห่วงเรื่องความพร้อมของซัพพลายไซด์ที่จะรองรับนักท่องเที่ยว รวมถึงดราม่าที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวจีนว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดอีกรอบ ซึ่งประเด็นนี้เราต้องเตรียมพร้อมตั้งรับ และที่ผ่านมาก็มีการประชุมทางกระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่เป็นหน่วยงานควบคุมโรคแล้ว”

สอดรับกับ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่กำหนดเป้าหมายหลังจากได้รับข่าวจีนเปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคม 2566 ว่า ตลาดจีนจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2566

โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ขยับตัวเลขเป้าหมายนักท่องเที่ยวสำหรับปี 2566 จาก 20 ล้านคน เป็น 25 ล้านคนและมีรายได้รวมที่ 2.38 ล้านล้านบาท หรือมากกว่า

จีนเที่ยวนอกปีละ 155 ล้านคน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) รายงานว่า ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศจีนเช่นกัน โดยการท่องเที่ยวจีนระบุว่า ปี 2562 คนจีนออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 155 ล้านคน

และเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวน 6,000 ล้านคน-ครั้ง หรือเฉลี่ยประมาณ 4 ครั้งเศษ ๆ ต่อคนต่อปี

และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วน 11.5% ของ GDP มีแรงงานทางตรง 28.95 ล้านคน แรงงานทางอ้อม 79.8 ล้านคน

นั่นหมายความว่า การประกาศใช้มาตรการ Zero COVID ของจีน มีแรงงานของประเทศจีนที่ได้รับผลกระทบรวมประมาณ 100 ล้านคนในช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของทั่วโลกด้วย

ขณะที่ประเทศไทยก็พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเช่นกัน โดยข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2555 ชาวจีนครองอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยว
ต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย

โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย 10,997,338 คน ครองจำนวนอันดับ 1 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยทั้งหมด สร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวไทยราว 531,576.65 ล้านบาท

การประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบของทางการจีนตั้งแต่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป จึงเป็น “ปัจจัยบวก” และ “จุดเริ่มต้น” สำคัญของการพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยแน่นอน…

อัพเดต ! มาตรการเดินทาง เข้า-ออก “จีน” หลังเปิดประเทศ

ชัดเจนแล้วว่าตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ทางการจีนจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว พร้อมทั้งเปิดให้พลเมืองจีนสามารถเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวไปต่างประเทศได้

ข่าวดังกล่าวนับว่าเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก เนื่องจากช่วง 10 ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ของไทยมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน ก็เป็นกระแสที่สร้างความวิตกกังวลให้กับสังคมส่วนหนึ่ง เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศของจีนในหลายมณฑลยังหนัก

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้อัพเดตประเมินสถานการณ์ตลาดจีน รวมถึงมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศของจีนตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ใน 2 ส่วนหลัก

ประกอบด้วย มาตรการป้องกันและการควบคุมโรคโควิด-19 ภายในประเทศจีน ได้แก่ ไม่มีการกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19, ไม่มีการแบ่งกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง, ดำเนินการรักษาผู้ป่วยด้วยการแบ่งเป็นกลุ่มประเภทตามระดับอาการ, ปรับการตรวจหาเชื้อโควิดเป็น “อยากตรวจก็ตรวจให้หมด” และปรับความถี่ในการแถลงข่าวการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

และ มาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ ได้แก่ ตรวจ Nucleic Acid หรือ RT-PCR ก่อนขึ้นเครื่อง 48 ชั่วโมง, ยกเลิกการยื่นขอ Health Code อีกต่อไป, เริ่มรับทำหนังสือเดินทางให้กับประชาชนจีน, กรอกผลตรวจลงใบคัดกรองสุขภาพของ ตม.เหมือนเดิม, ยกเลิกมาตรการกักตัว กับมาตรการตรวจ Nucleic Acid หรือ RT-PCR หลังจากเข้าประเทศจีน

นอกจากนี้ ยังยกเลิกนโยบาย 5-1 แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยบนเครื่องบินตลอดเวลา, อนุญาตให้ผู้เดินทางไปทำงาน ทำธุรกิจ ศึกษา เยี่ยมญาติ ขอวีซ่าแต่ละประเภทเพื่อที่จะเดินทางเข้าประเทศจีนได้, อนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศจีนได้ทั้งทางบกและทางเรือ

ที่สำคัญ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้


สำหรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของฝ่ายไทยจะมีข้อกำหนดอย่างไรบ้าง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะมีการประชุมร่วมกับทางกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมในวันที่ 5 มกราคม 2566 อีกครั้ง…