SHR จ่อเปิด รีสอร์ท โซ/มัลดีฟส์ ดันรายได้ปี 66 ทะยานหมื่นล้าน

โซ/ มัลดีฟส์

SHR เปิดแผนปี 66 เตรียมเปิดบริการ โซ/มัลดีฟส์ รีสอร์ทแห่งที่ 3 ในโครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว- สร้างความแข็งแกร่งธุรกิจ พร้อมย้ำภาพลักซัวรี่เดสตเนชั่น ดันรายได้รวมทะลุ 1 หมื่นล้านบาท

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เปิดเผยว่า ปี 2566 นี้ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการยกเลิกข้อจำกัดในการเดินทางของประเทศในเอเชีย

โดยเฉพาะประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนเปิดให้บริการโรงแรม SO/ Maldives (โซ/ มัลดีฟส์) รีสอร์ทแห่งที่ 3 ของโครงการ CROSSROADS (ครอสโร้ดส์) ที่จะยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวในหมู่เกาะ และเติมเต็มตลาดลักชัวรี่ให้กับโครงการ CROSSROADS

โดยโครงการ CROSSROADS มัลดีฟส์ และพอร์ตโรงแรมสหราชอาณาจักร เป็นโครงการที่ทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 2565 ที่ผ่านมา

SHR

โดยโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม หนุนให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy rate) เติบโตสู่ 66% พร้อมปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% จากปีก่อนหน้า สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานโครงการมา

เช่นเดียวกับกลุ่มโรงแรมสหราชอาณาจักรที่สามารถเพิ่ม Occupancy rate ได้ 10% และ ADR เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2564 ทำให้มีรายได้ต่อห้องพักต่อคืน (RevPAR) ที่ 48 ปอนด์ ฟื้นตัวขึ้นไปสูงกว่าปี 2562 ซึ่งถือเป็นปีก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ

ส่วนพอร์ตโรงแรมในประเทศไทยก็เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนในช่วงปลายปี 2565 เนื่องจากมีการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ Occupancy rate ฟื้นตัวมาที่ 57% ทั้งนี้ ผลสำเร็จในการปรับโครงสร้างธุรกิจ รวมไปถึงผลตอบรับที่ดีในการปรับใช้แนวคิดแบรนด์ทราย (SAii) มาสู่โรงแรมที่บริษัทฯ บริหารงานเอง ส่งผลให้ ADR ปรับเพิ่มขึ้นได้ถึง 67% จากปีก่อนหน้า

“ในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการที่ 8,693 ล้านบาท เติบโตขึ้นเกือบ 2 เท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้”

“ซึ่งเป็นผลมาจากความแข็งแรงของฐานรากทางธุรกิจผ่านนโยบายการบริหารจัดการและการลงทุนโรงแรมแบบกระจายความเสี่ยง ตลอดจนความมุ่งมั่นในการยกระดับการบริการเพื่อสอดคล้องต่อความต้องการสูงสุดของนักท่องเที่ยวอย่างเข้มข้น รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง” นายเดิร์กกล่าว

และว่า สำหรับปี 2566 นี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการบริหารจัดการความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรให้กับสินทรัพย์อย่างสูงสุด โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ขึ้น 20% ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและสร้างฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

SHR

รวมถึงการใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทฯ เพื่อโอกาสในการขยายการลงทุนผ่านการเข้าซื้อและเข้าบริหารจัดการสินทรัพย์ใหม่ในอนาคตและการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

“เรามั่นใจว่าในปี 2566 นี้จะผลักดันรายได้ให้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โดยใช้กลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ที่มีประสิทธิภาพ ต่อยอดด้วยการเข้าลงทุนใหม่ และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง โดยการปั้นแบรนด์ SAii ควบคู่ไปกับการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการโรงแรมชั้นนำที่สามารถสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน

และเดินหน้าพัฒนาธุรกิจบนรากฐานแห่งความสมดุล ยั่งยืน และบูรณาการ เพื่อสร้างความรับผิดชอบและมูลค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ภายใต้การตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับกิจการที่ดี” นายเดิร์กกล่าว