เอกชนท่องเที่ยวเฮ ! รัฐบาล “เศรษฐา” ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน ชี้ตอบโจทย์กระตุ้นการเดินทางระยะเร่งด่วนดีที่สุด เติมนักท่องเที่ยวได้ทันที คุ้มค่า ทันไตรมาส 4 ดันนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ถึง 30 ล้านคน สภาท่องเที่ยวแจงแค่ฟรีวีซ่าเอาไม่อยู่ ต้องอัดงบฯ บูสเตอร์ชอตหนุน “สมาคมโรงแรม-ดุสิตธานี” เสนอรีเซตโครงสร้างใหม่ โฟกัสกลุ่มคุณภาพ มากกว่าเน้นปริมาณ วงในยันยกเลิกวีซ่าจีนไม่ใช่เรื่องง่าย
จากกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ในการดูดเงินเข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่ยังฟื้นกลับมาได้เพียงแค่ประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิด โดยมีแผนให้ฟรีวีซ่า หรือเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาโดยไม่ต้องใช้วีซ่าให้ทันช่วงวันหยุดยาววันชาติจีนต้นเดือนตุลาคม 2566 นี้เป็นต้นไป รวมถึงแนวทางการเพิ่มเที่ยวบิน และการเตรียมความพร้อมในการรองรับของสนามบินทั่วประเทศ ฯลฯ เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่เป็นไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว
ลุ้นปลดล็อกทันไฮซีซั่น Q4
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวที่นายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) เป็นสิ่งที่เอกชนในภาคการท่องเที่ยวชื่นชมและลุ้นให้สามารถประกาศฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนได้ในช่วงไฮซีซั่นปลายปีนี้ ซึ่งอุปสรรคการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ผ่านมา คือ วีซ่า
ดังนั้น มาตรการยกเว้นวีซ่า หรือฟรีวีซ่าจึงเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วนได้ดีที่สุด และเติมนักท่องเที่ยวได้เร็วที่สุด เพราะตลาดมีดีมานด์สูงอยู่แล้ว และเป็นการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าที่สุดด้วย ขณะเดียวกันก็จะทำให้ผู้ประกอบการสายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเพิ่มขึ้น บริหารต้นทุนได้ดีขึ้น และช่วยทำให้ต้นทุนการเดินทางของนักท่องเที่ยวถูกลงอีกด้วย
“มาตรการนี้ถือว่าออกมาถูกทาง ถูกเวลา ที่ผ่านมาเราเคยใช้มาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าแต่ไม่แรงนัก ถ้าให้ฟรีวีซ่าเลยจะเห็นผลเร็วกว่า และสามารถเติมนักท่องเที่ยวได้ทันที และเชื่อว่าจะช่วยดันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ได้ 25-30 ล้านคน ตามเป้าหมาย” นายชำนาญกล่าวและว่า
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความยั่งยืนให้การท่องเที่ยวในระยะยาว ด้วยการใส่งบประมาณสำหรับเป็นบูสเตอร์ชอตให้กับหน่วยงานด้านการตลาด อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ฯลฯ รวมถึงสนับสนุนสายการบิน และออกแคมเปญกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวร่วมด้วย และอยากเสนอให้ tourism clinic ช่วยซัพพลายไซด์ เพราะปัญหาและอุปสรรคที่เจอในปัจจุบันคือซัพพลายไซด์ยังมีปัญหา รวมถึงการซ่อม สร้าง แหล่งท่องเที่ยว เติมทุนและเติมนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการควบคู่กันไปด้วย
ATTA ชี้ถูกต้อง-ถูกทาง
ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) แสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า การใช้มาตรการฟรีวีซ่ามาเป็นเครื่องมือหลักในระยะเร่งด่วน ถือเป็นเรื่องถูกต้องที่สุด ส่วนจะใช้แบบไหน ระยะสั้นหรือระยะยาวอย่างไร หรือจะยกเว้นเป็นรายปีแล้วประเมินต่อไปเรื่อย ๆ ก็สามารถทำได้
โดยการยกเว้นวีซ่าในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทยยกเว้นวีซ่าให้กับประเทศที่มีความเจริญ และเป็นเป้าหมายหลักของประเทศไทย ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความสะดวกให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาดำเนินการในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ซึ่งแนวทางดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่สมาคม ATTA ขับเคลื่อนและรอมาตลอดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อยากเสนอให้รัฐพิจารณาใช้มาตรการฟรีวีซ่าในบางพื้นที่ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการให้สอดรับกับศักยภาพในการรองรับของสนามบินแต่ละแห่ง เช่น ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ลงสนามบินอู่ตะเภา เชียงราย กระบี่ ขอนแก่น อุดรฯ รวมถึงหาดใหญ่ เพราะสนามบินเหล่านี้ยังมีศักยภาพในการรองรับเหลืออีกมาก อีกทั้งยังทำให้นักท่องเที่ยวกระจายตัว สร้างรายได้สู่ภาคครัวเรือน หรือ SMEs ได้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีศักยภาพในเรื่องทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวสูงมาก แต่ยังไม่ได้รับการขับเคลื่อนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยมากนัก
“หากต้องการให้เข้ามาแบบไม่กำหนดทิศทางเหมือนที่ผ่านมา ปัญหาคือนักท่องเที่ยวจะกระจุกตัว และศักยภาพการรองรับของสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ ที่แออัดอยู่ก็จะเป็นปัญหาต่อไป ซึ่งการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลักจะทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่น การขาดแคลนเรื่องน้ำประปา ไฟฟ้า และรายได้จะกระจุกตัวอยู่ในเมืองหลัก” ดร.อดิษฐ์กล่าว
“สายการบิน” หนุนเต็มที่
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ กล่าวว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนผ่านมาตรการฟรีวีซ่า และอำนวยความสะดวกด้านการตรวจคนเข้าเมืองให้กับนักท่องเที่ยว เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยไม่ใช่จุดหมายปลายทางเดียวของนักท่องเที่ยว แต่มีคู่แข่งจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้พิจารณาเรื่องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนให้แนบแน่น เนื่องจากอาจมีผลต่อการผ่อนปรนมาตรการด้านการบินและอื่น ๆ ด้วย
เช่นเดียวกับนายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย ที่กล่าวว่า มาตรการด้านวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนจะช่วยกระตุ้นให้มีการเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นได้แน่นอน และจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยในไตรมาสสุดท้ายได้ นอกจากนี้ รัฐควรมีเเคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศอย่างต่อเนื่องด้วย เช่น การออกแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อกระจายเศรษฐกิจให้เติบโตทั่วภูมิภาค
ชงรีเซตโครงสร้างสู่คุณภาพ
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การประกาศมาตรการฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล ถือเป็นข่าวดีและเป็นปัจจัยบวกอย่างมากสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะตลาดจีนซึ่งที่ผ่านมาฟื้นตัวช้ากว่าตลาดอื่นให้กลับมาได้เร็วขึ้น แต่ประเด็นสำคัญ คือ อยากเห็นประเทศปรับสมดุลโครงสร้างนักท่องเที่ยวใหม่ โดยมุ่งสู่นักท่องเที่ยวคุณภาพ ใช้จ่ายสูง มากกว่าเน้นเรื่องปริมาณเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
“หลังโควิด ประเทศไทยเป็นโอกาสและเวลาที่ดีมากที่เราควรปรับโครงสร้างนักท่องเที่ยวใหม่ ไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นที่คุณภาพของนักท่องเที่ยว และหากเราให้ฟรีวีซ่าจริงก็ต้องพิจารณาว่าเราจะใช้มาตรการอะไรมาควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่น ปัญหาจีนเทา ทัวร์ศูนย์เหรียญ เป็นต้น”
สอดรับกับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ที่กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ โดยต้องตีโจทย์ว่าทำอย่างไรนักท่องเที่ยวถึงจะพำนักในประเทศไทยนานมากขึ้น และใช้จ่ายเม็ดเงินมากขึ้น ไม่เน้นด้านปริมาณมากเกินไป รวมทั้งอาจต้องเติมวัตถุประสงค์การท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวมากกว่าการเดินทางมาเที่ยวเพียงอย่างเดียว เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวที่ทำงานไปพร้อมกัน (workation) ฯลฯ
“เราอยากให้รัฐบาลชุดใหม่สนับสนุนนโยบายด้านธุรกิจท่องเที่ยว เพราะการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ การอำนวยความสะดวกในการตรวจคนเข้าเมือง และมาตรการด้านวีซ่าเป็นเรื่องที่ดี และเชื่อว่าจะสามารถกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้” นางศุภจีกล่าว
“ฟรีวีซ่าจีน” อาจไม่ง่าย
แหล่งข่าวในธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งกล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การแก้ปัญหาและกระตุ้นตลาดจีนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะใช้รูปแบบยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า 6 เดือน เช่น ช่วงที่เกิดเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต เหตุการณ์ระเบิดสี่แยกราชประสงค์ เป็นต้น ยังไม่ได้ปลดล็อกถึงขั้นยกเว้นวีซ่า หรือไม่ต้องส่งเอกสารเพื่อคัดกรองก่อนเข้าเมือง
“เรื่องการให้ฟรีวีซ่าเป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ เป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทน เราให้เขาฟรี เขาก็ต้องฟรีให้เราด้วย นอกจากนี้ยังเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงอยากให้ผู้ประกอบการเผื่อใจไว้บ้าง เพราะการประกาศใช้อาจไม่ทันช่วงไตรมาส 4 ปีนี้” แหล่งข่าวกล่าว