นายกฯเศรษฐาถก 8 สายการบิน บูสต์นักท่องเที่ยวต่างชาติ จ่อฟรีวีซ่าจีน-อินเดีย เตรียมพร้อมต่างชาติเข้าไทยปลายปี สมาคมสายการบินชงรัฐบาลใหม่ ต่อมาตรการภาษีน้ำมันเครื่องบิน 0.20 บาท
วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งประกอบไปด้วย 7 สายการบิน โดยผู้บริหารจากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส, สายการบินไทยแอร์เอเชีย, สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์, สายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์, สายการบินไทยเวียตเจ็ท, สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ และสายการบินนกแอร์ รวมถึงการบินไทย บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และสํานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้เข้าพบนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ก่อนเริ่มการประชุม นายเศรษฐาได้กล่าวแนะนำว่าวันนี้คงไม่เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะหารือกับทางภาคเอกชน เนื่องจากผู้ที่นั่งอยู่ตรงนี้มีทั้งว่าที่รองนายกที่ดูแลเศรษฐกิจ ไปจนถึงรัฐมนตรี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับนายนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งจะเข้ามาเป็นเจ้ากระทรวงคมนาคม ก็อยู่ตรงนี้ด้วย
สำหรับการหารือวันนี้ พรรคเพื่อไทยต้องการรับฟังข้อเสนอแนะ ว่ามีอะไรที่รัฐบาลเราช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจการบินเพื่อหาแนวทางแก้ไขได้บ้าง ซึ่งรัฐบาลเรามีความร้อนใจถึงปัญหาในช่วงปลายปี ที่เป็นฤดูกาลไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว แล้วจะต้องรอ 2-3 อาทิตย์ จึงคิดว่ามาคุยกันก่อนวันนี้ ให้ภาคเอกชนมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และจะขอแชร์นโยบายที่พรรคเพื่อไทยต้องการผลักดันด้วยในวันนี้
สำหรับปัญหาที่ผู้ประกอบการสะท้อนมายังนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย เช่น
- การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ทันกับฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างน้อย 20%
- การเพิ่มศักยภาพเครื่องบินให้ทันกับการปรับเที่ยวบินที่จะเพิ่มขึ้น
- การเพิ่มโอกาสผลักดันนักท่องเที่ยวในตลาดขนาดใหญ่ เช่น จีน อินเดีย ให้มากขึ้น
- การเพิ่มจำนวนเครื่องบินให้มีความเหมาะสมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนขอขอบคุณ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการช่วยกันส่งเสริมการทำงานกับรัฐบาลเพื่อไทยในการเตรียมตัวล่วงหน้า เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น (Quick win) ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการภายในสนามบิน การเพิ่มเที่ยวบิน การเพิ่มหรือขยายรันเวย์ เป็นต้น
โดยข้อเสนอของสายการบินต่าง ๆ ถือว่าเป็นความร่วมมือที่ดีในการร่วมกันส่งเสริมและสร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องดีที่ทุกสายการบินให้การตอบรับนโยบาย Free visa ในบางประเทศที่มีศักยภาพ เช่น จีน ซึ่งคาดว่าทุกสายการบินมีความต้องการขยายจำนวนเที่ยวบินรับนักท่องเที่ยวตอบรับนโยบายแน่นอน ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและต่างประเทศ
รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย มีแผนที่จะไปโปรโมตการท่องเที่ยวไทยในต่างประเทศในปีหน้าในเที่ยวบินที่มีความพร้อม ซึ่งแต่ละสายการบินมีสัญญาณที่ดีว่าหากรัฐบาลสามารถเพิ่มความต้องการนักท่องเที่ยวไทยได้ สายการบินจะมีการแข่งขันกันโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกัน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงตั๋วโดยสารได้ในราคาที่เหมาะสม
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ในฐานะนายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า ทางสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลใหม่อย่างเต็มที่ สิ่งไหนที่ทำให้เกิดการเดินทางตอบสนองต่อการท่องเที่ยว หรือสิ่งอื่นใดที่รัฐบาลเห็นว่าพวกเราดำเนินการได้
ที่ผ่านมาการท่องเที่ยวของเราเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว เราจึงอยากหารือถึงการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยว ทำอย่างไรจะสร้างความเชื่อมั่น การเดินทาง การกระจายตัวทางเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นอีก
ด้านนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชีย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน มีนโยบายว่าจะทำอย่างไรให้ไตรมาส 4/2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น โดยกล่าวถึงการฟรีวีซ่าแก่ประเทศจีนและอินเดีย และเชื่อว่าทางรัฐบาลจะเริ่มดำเนินนโยบายดังกล่าวไม่นานหลังจากเข้ารับตำแหน่ง
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงแนวทางการรับนักท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4/2566 ว่าเที่ยวบินในประเทศของแต่ละสายการบินว่ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยว เช่น จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ มีความพร้อมมากน้อยแต่ไหน
ส่วนการขอขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่น ซึ่งจัดเก็บจากเที่ยวบินในประเทศ ก่อนหน้านี้ ภาครัฐเคยลดอัตราการจัดเก็บจาก 4.726 บาทต่อลิตร เหลือ 0.20 บาทต่อลิตร สมาคมสายการบินได้เสนอไปว่าขอให้เก็บที่อัตราเดิม คือ 0.20 บาทต่อลิตร จากนั้นค่อย ๆ ปรับเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันได
“เราเสนอไปว่าขอที่อัตราเดิมที่ 0.20 บาท และค่อย ๆ ปรับอัตราภาษีขึ้นเป็นขั้นบันได ส่วนจะขึ้นอย่างไร นานแค่ไหน จะคุยกันในรายละเอียดอีกครั้ง เราไม่ได้ขอ 20 สตางค์ตลอดเวลา” นายธรรศพลฐ์กล่าว