นายกฯเศรษฐาบินด่วนภูเก็ต เตรียม “ยกเว้นวีซ่า” นักท่องเที่ยวจีน ให้ทันหยุดยาววันชาติจีน

เศรษฐา ทวีสิน

นายกฯ เศรษฐา บินด่วนลงภูเก็ต เตรียม “ยกเว้นวีซ่า” นักท่องเที่ยวจีน ให้ทันรับช่วงไฮซีซั่นตุลาคมนี้ ให้ทัน “วันชาติจีน” พร้อมย้ำมีวาระหลายเรื่องต้องเร่งทำ ประกาศชัด เก้าอี้รัฐมนตรีเพื่อไทยลงตัวแล้วทุกตำแหน่ง คาดตั้งรัฐบาลได้เร็วกว่าไทม์ไลน์ที่กำหนด

วันที่ 25 สิงหาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต พร้อมนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม คณะทำงานด้านการท่องเที่ยว และนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย รับฟังข้อมูลสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ตว่า

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ตว่า การเดินทางมาจังหวัดภูเก็ต เพื่อมารับฟังเรื่องเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เพราะจุดแรกที่นักท่องเที่ยวมาถึงคือสนามบิน จึงอยากฟังความคิดเห็นจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ข้อมูลพื้นฐาน ปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงแผนงานอนาคตที่อยากจะทำ ทางทีมงานจะได้นำไปร่างนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของทางการท่าอากาศยาน ทั้งนี้ ทางทีมงานพรรคเพื่อไทยมีความเชื่อว่า แนวทางที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในระยะสั้นคือ เรื่องการท่องเที่ยว

“ตอนนี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้ามาแล้ว เราจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นอีก 1 เดือนกว่าข้างหน้านี้ เพราะฉะนั้น เรื่องการเตรียมการ เรื่องการรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วนเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราเองเพิ่งเข้ามา ต้องรับฟังข้อมูลเพื่อเตรียมไปวางแผน”

นายเศรษฐากล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนกลับมาท่องเที่ยวประมาณ 30% ถือเป็นสัดส่วนที่สำคัญมาก ขณะที่ตอนนี้ประเทศจีนอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทางการจีนไม่สนับสนุนให้คนจีนออกมาท่องเที่ยวในต่างประเทศ แต่ทุกคนก็อยากออกมาท่องเที่ยว ดังนั้น ต้องหาวิธีให้ง่ายต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และให้เกิดความเชื่อมั่น

เรื่องความปลอดภัยและการเดินทางเข้าประเทศเป็นเรื่องลำดับต้น ๆ ที่จะต้องบริหารจัดการให้ดี และจำเป็นต้องหารือกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ไม่ต้องมีการทำวีซ่าเข้ามาประเทศไทย ทั้งนี้ หน่วยงานที่รองรับก็ต้องพร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสนามบินและเรื่องความมั่นคงต่าง ๆ ซึ่งวันนี้จะมารับฟังความคิดเห็นในเรื่องนี้ และต้องมีการเตรียมการแล้ว

ADVERTISMENT

การเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกในการลงพื้นที่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าภูเก็ตเป็นแหล่งรายได้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพราะฉะนั้นจึงลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตก่อนและมีการพูดคุยในเรื่องการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งจะได้มารับฟังข้อมูลต่าง ๆ และจะไปปรึกษากับทางสภาพัฒน์ในเรื่องแผนงานการดำเนินการ ทั้งแผนงานของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต

ADVERTISMENT

รวมถึงการขยายรันเวย์ และปัญหาต่าง ๆ ได้รับทราบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นราคาค่าตั๋วโดยสารแพง การจัดการเรื่องกระเป๋า เรื่องรถโดยสารสาธารณะ ส่วนเรื่องท่าอากาศยานภูเก็ตแห่งใหม่ที่จังหวัดพังงานั้น ขอหารือปรึกษากับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ก่อน ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เพราะสนามบินภูเก็ตรองรับนักท่องเที่ยวเกือบจะถึง Maximum แล้ว เป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อให้รองรับปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

“เรื่องของการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีนั้น นายเศรษฐาระบุว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะดูแลในเรื่องเศรษฐกิจ ขณะนี้พรรคมีความชัดเจนลงตัวในทุกตำแหน่งแล้ว แต่ในส่วนของภาพรวมคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ขอให้อดใจรอในอีก 3-4 วัน คาดว่าน่าจะชัดเจนได้ ขอให้ใจเย็น และต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณาตัวบุคคล

ส่วนตนเองจะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ขอให้อดใจรอนิดนึง และยังคงคาดหมายว่า ในวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2566 นี้จะสามารถเริ่มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้ รวมทั้งหวังว่าจะสามารถประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรก และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้เร็วกว่า timeline ที่คาดการณ์ไว้ เพราะมีหลายเรื่องเร่งด่วนที่ต้องมีมาตรการรองรับ เช่น เรื่องการท่องเที่ยว ขณะนี้จะถึงช่วงเวลาพีกซีซั่นแล้ว ทางประเทศจีนมีวันหยุดพิเศษวันชาติจีน ระยะเวลา 10 วัน (29 ก.ย.-8 ต.ค. 66) ที่จะออกมาท่องเที่ยว เป็นระยะเวลายาวแบบลองสเตย์ มาใช้จ่ายเงิน ถ้าออกมาตรการรองรับตรงนี้ได้จะดีมาก ซึ่งยังมีวาระเร่งด่วนเยอะมาก”

ส่วนการประชุม ครม.นัดแรกจะมีวาระเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนเดิมหรือไม่นั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องขอรวบรวมข้อมูลทั้งหมดก่อน และจะแถลงให้ทราบ เพราะเป็นหนึ่งในเรื่องที่เร่งด่วน รวมถึงการรับฟังกรณีภาคประชาชนรวบรวม 50,000 รายชื่อรับฟังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับกรณีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีเลื่อนเคาะตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อรอนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาดำเนินการนั้น นายเศรษฐากล่าว่า เรื่องนี้ต้องรอให้ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณของคณะรัฐมนตรีก่อน รวมถึงต้องมีการแถลงนโยบาย จากนั้นแล้วแต่ทาง ก.ตร. จะมีการนัดประชุม และขอบคุณที่พลเอก ประยุทธ์ให้เกียรติ” นายเศรษฐากล่าว