ศบศ. เห็นชอบ ยก “หัวหิน-ชะอำ” เป็น Thailand Wellness Sandbox

FILE PHOTO : REUTERS/Athit Perawongmetha

ที่ประชุม ศบศ. “หัวหิน-ชะอำ” แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox

วันที่ 21 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ในหลักการแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox เสนอโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการของแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังนี้

  1. เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิง สุขภาพแห่งใหม่ โดยการปรับภาพลักษณ์หัวหินและชะอำเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแห่งใหม่ของประเทศไทย
  2. เพื่อสร้างตราสินค้าแหล่งท่องเที่ยว โดยประชาสัมพันธ์หัวหินและชะอำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ โลกควบคู่กับพัฒนาการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกภายใต้โครงการ Thailand Riviera ผ่านการ นำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
  3. เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มี คุณค่าให้กับนักท่องเที่ยวที่มากกว่าการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสากล ด้วยอัตลักษณ์ของความเป็นไทย โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและชะอำให้มีมาตรฐานและ เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและเป็นที่รู้จัก รวมทั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหินและ ชะอำ ซึ่งประกอบด้วยโครงการส่งเสริมการตลาดและโครงการพัฒนาด้านอุปทานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มด้านการ ท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ททท. พิจารณาพื้นที่นำร่องในภูมิภาคอื่น ๆ ที่มีศักยภาพและมีความพร้อม และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการดำเนินการในระยะ ต่อไป

พร้อมกับได้รับรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวและความคืบหน้าในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดย ททท. ได้รายงานว่าที่ประชุม ศบค. (20 ม.ค.) ได้มีมติที่จะเปิดให้ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยสามารถลงทะเบียนผ่าน Thailand Pass เพื่อเดินทางเข้าประเทศ ผ่านระบบ Test & Go ได้อีกครั้งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

หลังจากที่ได้มีการยุติการลงทะเบียนไปตั้งแต่ วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยมีการปรับการตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR เป็น 2 ครั้งในวันแรกและวันที่ 5 ของการเดินทางเข้าประเทศ และการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (Sandbox) เพิ่มเติม

ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีในพื้นที่เมืองพัทยา อำเภอบางละมุง อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง อำเภอสัตหีบ (เฉพาะตำบลนาจอมเทียน และตำบลบางเสร่) จังหวัดตราดในพื้นที่อำเภอเกาะช้าง รวมถึง การอนุญาตให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่นำร่องเดิม ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และ
จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เฉพาะอำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน)

ในช่วง 7 วันที่ต้องพำนักในพื้นที่นำร่อง การท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ได้

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินมาตรการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ 637,171 คน ยอดการจอง โรงแรมสะสม 2,004,199 ห้อง สร้างมูลค่าการใช้จ่ายผ่านโครงการทั้งสิ้น 8,888 ล้านบาท