“ยุโรป-เอเชีย” ไล่ปลดล็อก มาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

แม้สถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 จะยังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่องในทั่วโลก แต่ขณะนี้หลายประเทศเริ่มเดินหน้าเศรษฐกิด้วยการ “อยู่ร่วมกับโควิด” เปิดประเทศ ทยอยปลดล็อกมาตรการการเดินทางเข้า-ออกประเทศ

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมมาตรการการเดินทางเข้า-ออกประเทศประเทศต่าง ๆ ทั้งในโซนยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย ไว้ดังนี้

“ยุโรป-อเมริกา” ทยอยปลดล็อก

ประเทศในโซนยุโรปเป็นกลุ่มที่ทยอยปลดล็อกมาตรการการเข้าประเทศมาเป็นระยะ โดย “เดนมาร์ก” เปิดให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส (กลุ่มวัคซีนที่ต้องฉีด 2 เข็ม ต้องได้รับเข็มที่ 2 มาไม่เกิน 270 วัน) สามารถเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว หรือตรวจหาเชื้อ

กรณีคนที่เคยติดเชื้อและมีเอกสารยืนยันผลตรวจ RT-PCR เป็นลบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 11 วัน และไม่เกิน 180 วันเข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว หรือตรวจหาเชื้อ

หากยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส จำเป็นต้องมีการกักตัวเอง 10 วัน พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อภายใน 24 ชั่วโมงที่เดินทางถึง

เช่นเดียวกับ “สวีเดน” ที่ระบุว่า บุคคลที่ได้รับใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ประเทศไทยออกให้สามารถเดินทางเข้าได้ และไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 แต่ก่อนเดินทาง สายการบินอาจจะขอให้แสดงหลักฐานผลตรวจโรคโควิด-19 ว่าไม่ติดเชื้อ จึงแนะนำให้ทุกคนตรวจสอบเงื่อนไขการบินกับสายการบินก่อนการเดินทาง

และ “ฝรั่งเศส” ก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วไม่ต้องมีเอกสารการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง แค่มี Vaccination Pass โดยประเทศไทยยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศสีส้ม นักเดินทางชาวไทยที่เดินทางออกจากประเทศไทยยังต้องกรอกฟอร์มก่อนการเดินทาง บนเว็บไซต์ https://passager.serveureos.org/

สำหรับ “สหรัฐอเมริกา” รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐผ่านเครื่องบิน ไม่ว่าสัญชาติใด หรือได้รับวัคซีนมาหรือไม่ก็ตาม ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป จะต้องแสดงเอกสารผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีอายุไม่เกิน 1 วันก่อนการขึ้นเครื่องบินไปยังสหรัฐ

ส่วน “อังกฤษ” ได้ออกประกาศระเบียบการเดินทางเข้าประเทศ สำหรับผู้เดินทางถึงอังกฤษตั้งแต่ 11 กุมภาพันธ์ เวลา 04.00 น. (ตามเวลาของประเทศอังกฤษ) เป็นต้นไป ดังนี้

1.กรณีที่ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนครบไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง และหลังเดินทางถึงอังกฤษ และกรอก Passenger Locator Form ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางถึงอังกฤษ

2.กรณีที่ผู้เดินทางที่ยังฉีดวัคซีนไม่ครบโดสจะต้องแสดงหลักฐานการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบภายใน 2 วันก่อนเดินทาง โดยจองและชำระเงินค่าตรวจหาเชื้อแบบ PCR Test ล่วงหน้า

และหากได้รับวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้ครบภายใน 14 วันก่อนเดินทางจะถือว่าฉีดวัคซีนครบโดสแล้วโดยสามารถฉีดไขว้ได้เช่นกัน ได้แก่ Oxford/AstraZeneca (รวมถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทย) Pfizer BioNTech, Moderna, Janssen, Sinovac-CoronaVac, Sinopharm Beijing และ Covaxin

“ออสเตรเลีย” ไม่กักตัว

สำหรับ “ออสเตรเลีย” นั้นข้อมูลจากเว็บไซต์ของกระทรวงกิจการภายในออสเตรเลียระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป ผู้ถือวีซ่าออสเตรเลีย และได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส สามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว

ขณะที่ผู้ถือวีซ่าและยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวที่ทางการแต่ละรัฐกำหนดไว้

“สิงคโปร์” นำร่องตลาดเอเชีย

สำหรับประเทศในโซนเอเชียนั้น “สิงคโปร์” ถือเป็นประเทศแรก ๆ ที่ประกาศปลดล็อกมาตรการเข้า-ออกประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 23.59 น. (ตามเวลาประเทศสิงคโปร์) ผู้เดินทางจากประเทศไทยที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ได้ผ่าน Vaccinated Travel Land (VTL) ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้

1.ฉีดวัคซีนครบโดสตาม WHO Emergency Use Listing Vaccines อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง 2.แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน 3.แสดงหลักฐานผลตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี PCR หรือ ART ที่ตรวจภายใน 2 วันก่อนการเดินทาง 4.ผู้เดินทางไปสิงคโปร์ด้วยไฟลต์ VTL

5.เข้ารับการตรวจ ART ด้วยตนเองภายใต้การกำกับดูแลที่ Quick Test Centre (QTC) หรือ Combined Test Centre (CTC) ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการเดินทางถึง 6.ชาวสิงคโปร์ ผู้อยู่อาศัยถาวร และผู้ถือบัตรแสดงถิ่นพำนักระยะยาว (ยกเว้นผู้ถือบัตรทำงาน) ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเพื่อเดินทางกลับประเทศผ่าน VTL แต่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข VTL ทั้งหมด

และ 7.ผู้เดินทางระยะสั้นที่ผ่านเงื่อนไข VTL สามารถสมัคร Vaccinated Travel Pass (VTP) ได้ที่ https://go.gov.sg/vtl-portal ในระยะเวลา 3 ถึง 60 วันตามปฏิทินก่อนวันเดินทาง ผู้เดินทางต้องซื้อประกันการเดินทางที่มีมูลค่าประกันอย่างน้อย 30,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ครอบคลุมค่ารักษา COVID-19

“ลาว” เปิด 3 เมืองท่องเที่ยว

สำหรับ “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” (สปป.ลาว) ขณะนี้เปิดรับนักท่องเที่ยวจาก 31 ประเทศ โดยเปิดนำร่อง 3 เมืองสำคัญ ได้แก่ เวียงจันทน์ หลวงพระบาง และวังเวียง และเตรียมขยายเป็น 4 เมือง และ 10 เมืองในช่วงกลาง ในลักษณะเป็นการท่องเที่ยวผ่านกรุ๊ปทัวร์ ภายใต้เงื่อนไขที่นักท่องเที่ยวจะต้องมีผลการฉีดวัคซีน และมีประกันโควิดคุ้มครอง

หลังจากนั้นรัฐบาลจะประเมินเพื่อเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเต็มรูปแบบอีกครั้งช่วงปลายปีนี้

“เวียดนาม” เคาะฤกษ์ 15 มีนาฯ

ส่วน “ประเทศเวียดนาม” สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งรายงานว่า เวียดนามประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยนักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส พร้อมทั้งจำเป็นต้องโชว์ผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนการเดินทาง

และเมื่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศโดยเครื่องบิน ต้องตรวจโควิด-19 อีกครั้ง ในที่พักภายใน 24 ชั่วโมงหลังเดินทางมาถึงเวียดนาม

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะต้องมีประกันสุขภาพครอบคลุมการรักษาโควิด-19 วงเงินคุ้มครองขั้นต่ำ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ

“ญี่ปุ่น” รับ นร. นักวิจัย นักธุรกิจ

สำนักข่าวเจแปนไทมส์ รายงานเมื่อวันที่ 21 ก.พ.65 ว่า “ญี่ปุ่น” เตรียมปรับลดมาตรการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 1.นักเรียน นักวิจัย นักธุรกิจ เดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ ส่วนนักท่องเที่ยวยังเข้าไม่ได้ 2.ลดวันกักตัวจาก 7 วัน เหลือ 3 วัน 3.เพิ่มโควตาผู้เดินทางเข้าประเทศจากเดิม 3,500 คน เป็น 5,000 คนต่อวัน โดยโควตาดังกล่าวรวมทั้งชาวญี่ปุ่นที่เดินทางกลับประเทศ

4.ส่งผลตรวจโควิด-19 เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น และต้องมีผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเดินทาง 72 ชม. และ 5.สามารถใช้บริการขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางไปยังสถานที่กักตัว ซึ่งอาจเป็นบ้าน หรือสถานที่ที่ได้เลือกไว้ได้

“ไต้หวัน” เปิดรับนักธุรกิจ มี.ค.นี้

ส่วน “ไต้หวัน” นั้นสำนักข่าวกลางแห่งไต้หวัน (The Central News Agency : CNA) รายงานเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ว่า นายเฉิน ฉือ ชัง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของไต้หวัน ระบุว่า ไต้หวันเตรียมเปิดให้นักธุรกิจสามารถเดินทางเข้าประเทศได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ และเตรียมลดเวลาการกักตัวสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ

โดยศูนย์บัญชาการควบคุมการระบาดกลาง (CECC) เตรียมยกเลิกมาตรการสำหรับนักธุรกิจที่เดินทางเข้าไต้หวัน และนักท่องเที่ยวจะได้รับการปรับลดการกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน และในเดือนเมษายน หากมาตรการดังกล่าวเป็นไปได้ด้วยดี ทางการเตรียมปรับลดวันกักตัวเหลือ 7 วัน

ขณะที่ นาย Chang Hsi-tsung ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ให้ข้อมูลว่าไต้หวันอาจเปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้ในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 ภายใต้เงื่อนไขการฉีดวัคซีน

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งตลาดอินบาวนด์ และเอาต์บาวนด์นำไปประกอบการพิจารณาวางแผนทำตลาดต่อไป