อินเดียแห่จัดพิธีแต่งงานภูเก็ต เข้าไทย 5 แสนคนฟื้นท่องเที่ยว

“อินเดีย” ตลาดใหม่หนุนท่องเที่ยวไทย ชี้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ประชากร 1.4 พันล้านคน กำลังซื้อสูง เชื่ออีก 2 ปีอินเดียเที่ยวไทยทะลุ 2 ล้านคนต่อปี รองผู้ว่าการ ททท. ตลาดเอเชีย-แปซิฟิกใต้เผยกลุ่มเวดดิ้งทยอยเข้าภูเก็ต-กรุงเทพฯ คาดปีนี้มา 5 แสนคน สร้างรายได้ 2.4 หมื่นล้าน “ไทยแอร์เอเชีย-การบินไทย” กางแผนรับเพิ่มเส้นทางบินทั้งเมืองหลัก-เมืองรอง

นายปรีชา จำปี กรรมการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และผู้จัดการทั่วไปห้างหุ้นส่วนจำกัด เดสติเนชั่น สยาม ผู้นำตลาดท่องเที่ยวอินเดีย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียถือเป็นตลาดความหวังสูงสุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย เนื่องจากมีจำนวนประชากรมากถึง 1,400 ล้านคน แต่ละปีมีคนอินเดียทั้งที่อยู่ในอินเดียและประเทศอื่น ๆ ออกท่องเที่ยวจำนวนมาก

เปิดเกมปลุกตลาดอินเดีย

นายปรีชากล่าวว่า ปีนี้แม้ไทยยังเปิดประเทศไม่เต็มที่นัก แต่กลับพบว่ามีนักท่องเที่ยวอินเดียทยอยเดินทางเข้ามาแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ต กรุงเทพฯ และพัทยา (ชลบุรี) ทั้งกลุ่มแต่งงาน (wedding) กลุ่มถ่ายทำภาพยนตร์ ฯลฯ ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปจะทยอยเข้ามาช่วงไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป ส่วนจะมามากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องการเปิดเส้นทางการบินของสายการบินต่าง ๆ ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ATTA ได้ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย จัดงานส่งเสริมการขายตลาดอินเดียและเอเชียใต้ “Hotel Meet Local Agent (India & South Asia Market)” มีผู้ประกอบการท่องเที่ยว หรือ DMC เข้าร่วมงาน 35 ราย ผู้ประกอบการโรงแรม 60 ราย ผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยว 10 ราย มาแลกเปลี่ยนข้อมูล หลังอินเดียประกาศเปิดประเทศและไทยเองก็เริ่มผ่อนคลายมาตรการเพิ่มมากขึ้น

ปี’67 อินเดียเที่ยวไทย 2 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม วันนี้กลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีความเข้าใจธรรมชาติเกี่ยวกับตลาดอินเดีย รวมถึงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวอินเดียน้อยมาก จึงอยากเสนอให้ทุกภาคส่วนมาช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างอิมแพ็กต์ให้ประเทศ และช่วยสร้างเศรษฐกิจในจุดที่ควรจะเป็น เนื่องจากขณะนี้คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจำนวนมาก และมีภูมิคุ้มกันในระดับที่สามารถเดินหน้าได้แล้ว

“ช่วงนี้เป็นจังหวะโอกาสที่ดีที่เราต้องหันมาโฟกัสตลาดอินเดีย เพราะสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เกิดขึ้นนี้อาจส่งผลทำให้กลุ่มยุโรปเดินทางมาเที่ยวไทยลดน้อยลง ขณะที่ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับ 1 ของไทยก็ยังไม่มีสัญญาณเปิดประเทศ และส่วนตัวเชื่อมั่นว่าปีหน้านักท่องเที่ยวอินเดียจะกลับเข้ามาเที่ยวไทยเกิน 1 ล้านคน และเพิ่มเป็นกว่า 2 ล้านคน หรือมากกว่าปี 2562 ได้อีกครั้งในปี 2567”

คาดปีนี้รายได้ 2.4 หมื่นล้าน

นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.จะมุ่งเน้นส่งเสริมตลาดอินเดีย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพ กลุ่มความสนใจพิเศษที่มีการใช้จ่ายสูง ผ่านการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน ททท. กรุงนิวเดลีและเมืองมุมไบอย่างต่อเนื่อง

ปีนี้ตั้งเป้ามีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยประมาณ 500,000 ราย สร้างรายได้ราว 2.4 หมื่นล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางเข้ามาประเทศไทยเฉลี่ย 600 คนต่อวัน หรือราว 18,000 คนต่อเดือน และในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ททท.จะผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเป็นเดือนละ 80,000 คน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวไทยมาก โดยสถิติปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางเข้าไทย 1,995,516 คน ขยายตัวจากปีก่อนหน้าร้อยละ 24.85 สร้างรายได้ 86,372 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.45 สะท้อนชัดเจนว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

“ไทยแอร์เอเชีย” ปักธง 5 จุดบิน

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการบินได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการร่วมกันเพื่อส่งเสริมการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากตลาดอินเดีย โดยเส้นทางที่อยู่ในแผนการบินอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ บังคาลอร์ เชนไน โกลกาตา โกชิ และชัยปุระ เป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดในพื้นที่เมืองรองของอินเดียด้วย

“ตอนนี้ไทยแอร์เอเชียได้เปิดให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-บังคาลอร์ และกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เชนไน ความถี่เส้นทางละ 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ทำการบินในวันพุธและอาทิตย์ โดยเปิดทำการบินไปเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา” นายสันติสุขกล่าว

ขณะที่รายงานข่าวจากสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ไทยแอร์เอเชียเตรียมเปิดเส้นทางบินเชื่อมไทย-อินเดียอีก 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-โกลกาตา, กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-โกชิ และกรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-ชัยปุระ ความถี่เส้นทางละ 2 เที่ยวบิน/สัปดาห์ บินในวันพุธและวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้

“การบินไทย” ชี้อินเดียตอบรับดี

นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กล่าวว่า ปัจจุบันการบินไทยและไทยสมายล์ ทำการบินเส้นทางระหว่างอินเดียมาไทย 6 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ-นิวเดลี สัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน, กรุงเทพฯ-มุมไบ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน, กรุงเทพฯ-เชนไน สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน, กรุงเทพฯ-เบงกาลูรู สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน, กรุงเทพฯ-กัลกัตตา สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ไทยสมายล์) และกรุงเทพฯ-ภูเก็ต-มุมไบ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน (ไทยสมายล์)

โดยเส้นทางขาเข้ามีอัตราบรรทุกผู้โดยสารสูง 80-90% ส่วนเส้นทางบินขาออกมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยราว 60-65% และพบว่านักเดินทางส่วนหนึ่งมีความต้องการต่อเที่ยวบินเพื่อไปยังประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งในอนาคตบริษัทอาจพิจารณาเพิ่มความถี่เส้นทางกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-เมลเบิร์น จากเดิมให้บริการ 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เป็น 4-5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ไทยเวียตเจ็ท-นกแอร์ จ่อร่วมวง

ขณะที่นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตลาดการบินของประเทศอินเดียยังมีโอกาสให้เติบโตอีกมาก และสายการบินกำลังอยู่ในช่วงการพิจารณาเส้นทางบินประเทศอินเดีย โดยอาจพิจารณาเปิดเส้นทางกรุงเทพฯ-อาห์เมดาบัด ในช่วงเดือนกรกฎาคม และเส้นทางกรุงเทพฯ-พุทธคยา ซึ่งคาดว่าจะเปิดทำการบินช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อรองรับพุทธศาสนิกชนที่ไปแสวงบุญ

นายธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บมจ.สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินอยู่ระหว่างศึกษาการเปิดเส้นทางต่างประเทศ โดยเส้นทางสู่อินเดียเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง