ร่อนหนังสือเชิญ 4 พระเถระผู้ใหญ่ รับข้อหา”คดีเงินทอนวัด” ปปป.หอบสำนวนส่ง ป.ป.ช. 26 ก.ย.นี้

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัด หรือการทุจริตงบอุดหนุนบูรณะปฎิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 12 วัด ตั้งแต่ปี 2555-2559 ความเสียหายประมาณ 60 ล้านบาท มีผู้ต้องหา 10 ราย พร้อมส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด

ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน ปปป.นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 2 รวม 14 จุด ใน 7 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ขอนแก่น ระนอง สิงห์บุรี นครปฐม และสมุทรสาคร เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงกระบวนการทุจริตเงินทอนวัด และพบว่าเป็นการทุจริตงบประมาณอุดหนุน 3 ประเภท คือ 1.อุดหนุนบูรณะปฎิสังขรณ์วัดและพัฒนาวัด 2.อุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ 3.อุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา-แผนกธรรม-แผนกบาลี จำนวน 23 วัด ตั้งแต่ปี 2555-2560 ความเสียหายประมาณ 140 ล้านบาท จนมีหลักฐานความผิดถึงตัวผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย และอยู่ระหว่างเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ประกอบด้วย

นายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (อดีต ผอ.พศ.) นายณรงค์เดช ชัยเนตร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) สิงห์บุรี นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการพศ. นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน พศ. นายพยงค์ สีเหลือง นายช่างโยธา ชำนาญงาน พศ. และนางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ นักวิชาการ พศ. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

ส่วน นายบุญเลิศ โสภา อดีตผอ.กองพุทธศาสนศึกษา เป็นผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลำปาง นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร ผอ.กลุ่มการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญพศ. นายวิโรจน์ อุ่นทรัพย์ ผู้ตรวจราชการพศ. นายแก้ว ชิดตะขบ ผอ.การสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสงคราม นายไพฑูรย์ กรรณโม (ไม่ทราบตำแหน่ง) ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหา รวมถึงผู้ต้องหา 5 คน ที่เคยตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตแรก และมีชื่อในล็อต 2 ด้วย มี นายนพรัตน์ เบญจวัฒนะ อดีตผอ.พศ. (หนีไปต่างประเทศ) นายวสวัสดิ์ กิตติธีระสิทธิ์ ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์ พศ. นางประนอม คงพิกุล รองผอ.พศ. และนายศิวโรจน์ ปิยรัตน์เสรี (ไม่ใช่ข้าราชการ) ส่วนที่เหลือเป็นพระสงฆ์ 4 รูปนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ธนกุล รองผบก.ปปป. เปิดเผยความคืบหน้าว่า เมื่อวันที่ 23-24 กันยายน ได้ลงพื้นที่วัดลาดแค จ.เพชรบูรณ์ เพื่อตรวจสอบว่า พระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าคณะอำเภอชนแดน ได้อยู่ในวัดหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แต่ไม่พบพระครูกิตติพัชรคุณ วันนี้จึงออกหนังสือเชิญ พระครูกิตติพัชรคุณ และพระสงฆ์อีก 3 รูป คือ พระราชรัตนมุนี เลขานุการสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดพิชยญาติการาม ย่านคลองสาน กทม. พระเทพเสนาบดี เจ้าอาวาส วัดกวิศรารามฯ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และพระครูวิสุทธิวัฒนกิจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชสิทธารามฯ ย่านบางกอกใหญ่ กทม. ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในข้อหา มาตรา 147 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจหน้าที่เบียดบังทรัพย์เป็นของตนเอง มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ มาตรา 68 การให้ความสะดวก สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิด สำหรับพระเทพเสนาบดี เจ้าอาวาส วัดกวิศรารามฯ เพิ่มมาตรา 162 ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ อีก 1 ข้อหา ทั้งนี้ทาง ปปป. ได้ส่งหนังสือไปยังมหาเถรสมาคม หรือ มส. และสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือ พศ. เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของพระสงฆ์ ทั้ง 4 รูป เพื่อแจ้งความผิดทางอาญา หรือดำเนินการทางวินัยสงฆ์

ทั้งนี้ในวันที่ 26 กันยายน ในเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.วรายุทธ เปิดเผยว่า จะเดินทางพร้อม พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป นำสำนวนทั้ง 23 คดี ไปส่งให้ทาง ป.ป.ช.

 

ที่มา : มติชนออนไลน์